สืบค้นงานวิจัย
รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัย เรื่อง การศึกษารูปแบบของค้างต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตดอกขจร
เนาวรัตน์ ประดับเพ็ชร์ ...[และคณะ] - มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง: รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัย เรื่อง การศึกษารูปแบบของค้างต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตดอกขจร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เนาวรัตน์ ประดับเพ็ชร์ ...[และคณะ]
บทคัดย่อ: การศึกษารูปแบบของค้างต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตดอกขจร ทำการทดลอง ที่สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ระหว่างเดือน มกราคม ถึง มิถุนายน 2552 ปลูกโดยใช้รูปแบบค้างต่างกัน 5 รูปแบบ คือ รูปแบบซุ้มกระโจม ตัวเอ ตัวที สี่เหลี่ยม และซุ้มไม้เลื้อย พบว่า ต้นขจรที่ปลูกโดยใช้รูปแบบค้างตัวเอ มีความสูงต้นเฉลี่ยสูงสุด 346.67 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่ใบเฉลี่ยและดัชนีพื้นที่ใบเฉลี่ยไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติระหว่างรูปแบบค้างทั้ง 5 รูปแบบ สำหรับผลผลิตของดอกขจร พบว่า รูปแบบของค้างที่แตกต่างกันทำให้ผลผลิตของต้นขจรแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ต้นขจรที่ปลูกโดยใช้ค้างรูปแบบซุ้มไม้เลื้อย มีน้ำหนักรวมของช่อดอกเฉลี่ยสูงสุด 1,986.68 กรัม จำนวนช่อดอกเฉลี่ยสูงสุด 122.60 ช่อ และน้ำหนักแห้งต่อน้ำหนักสดเฉลี่ยสูงสุด 1.58 กรัม ส่วนต้นขจร ที่ปลูกโดยใช้ค้างรูปแบบตัวเอ มีจำนวนดอกต่อช่อ และน้ำหนักสดต่อช่อดอกเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 21.38 ดอก และ 2.03 กรัม ตามลำดับ และต้นขจรที่ปลูกโดยใช้ค้างรูปแบบซุ้มกระโจม มีน้ำหนักรวมของช่อดอกต่อปริมาตรการสร้างผลผลิตเฉลี่ยสูงสุด 800.99 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ดังนั้นการผลิตดอกขจรให้มีผลผลิตสูงควรปลูกโดยใช้ค้างรูปแบบซุ้มไม้เลื้อย
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
คำสำคัญ: ดอกขจร-การเจริญเติบโต-ผลผลิต
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
รายละเอียด: การศึกษารูปแบบของค้างต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตดอกขจร ทำการทดลอง ที่สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ระหว่างเดือน มกราคม ถึง มิถุนายน 2552 ปลูกโดยใช้รูปแบบค้างต่างกัน 5 รูปแบบ คือ รูปแบบซุ้มกระโจม ตัวเอ ตัวที สี่เหลี่ยม และซุ้มไม้เลื้อย พบว่า ต้นขจรที่ปลูกโดยใช้รูปแบบค้างตัวเอ มีความสูงต้นเฉลี่ยสูงสุด 346.67 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่ใบเฉลี่ยและดัชนีพื้นที่ใบเฉลี่ยไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติระหว่างรูปแบบค้างทั้ง 5 รูปแบบ สำหรับผลผลิตของดอกขจร พบว่า รูปแบบของค้างที่แตกต่างกันทำให้ผลผลิตของต้นขจรแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ต้นขจรที่ปลูกโดยใช้ค้างรูปแบบซุ้มไม้เลื้อย มีน้ำหนักรวมของช่อดอกเฉลี่ยสูงสุด 1,986.68 กรัม จำนวนช่อดอกเฉลี่ยสูงสุด 122.60 ช่อ และน้ำหนักแห้งต่อน้ำหนักสดเฉลี่ยสูงสุด 1.58 กรัม ส่วนต้นขจร ที่ปลูกโดยใช้ค้างรูปแบบตัวเอ มีจำนวนดอกต่อช่อ และน้ำหนักสดต่อช่อดอกเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 21.38 ดอก และ 2.03 กรัม ตามลำดับ และต้นขจรที่ปลูกโดยใช้ค้างรูปแบบซุ้มกระโจม มีน้ำหนักรวมของช่อดอกต่อปริมาตรการสร้างผลผลิตเฉลี่ยสูงสุด 800.99 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ดังนั้นการผลิตดอกขจรให้มีผลผลิตสูงควรปลูกโดยใช้ค้างรูปแบบซุ้มไม้เลื้อย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัย เรื่อง การศึกษารูปแบบของค้างต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตดอกขจร
มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
2552
ความสามารถในการให้ผลผลิตของพืชลูกผสมเปรียบเทียบพันธุ์พ่อแม่ : ลูกผสม F1 และ BC1 รายงานการวิจัยเรื่อง การวัดประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของลูกปลาดุกวัยอ่อนต่อระดับโปรตีนในอาหารที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาลในจังหวัดเพชรบูรณ์ อุณหภูมิและพลังงานแสง ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของถั่วเขียว รายงายผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เค็มไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์สบู่แฟนซีเพื่อเศรษฐกิจชุมชน รายงานการวิจัย การศึกษาอัตราส่วนระหว่างปริมาณวัตถุดิบต่อปริมาณของกากน้ำตาลในน้ำสารสกัดชีวภาพ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของผักคะน้า ศักยภาพการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของถั๋วเหลือง ผักสด 4 พันธ์ต่อการใส่การตะกอนน้ำตาลและคุกเมล็ดด้วยเชื่อโรโซเบียม ผลของสารควบคุมการเจริญเติบโตต่อการแตกหน่อของกระชายดำในสภาพปลอดเชื้อ ปัจจัยทางนิเวศวิทยาที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ของกุ้งกุลาดำ, Penaeus monodon fabricius (ปัจจัยทางกายภาพ) รายงานการวิจัยเรื่อง เทคนิคการเพิ่มผลผลิตว่านกระชายดำ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก