สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาอุณหภูมิความชื้นสัมพันธ์และปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยสำหรับการประยุกต์เพื่อการศึกษาภูมิอากาศในอดีต
Sawanit Komonjinda - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาอุณหภูมิความชื้นสัมพันธ์และปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยสำหรับการประยุกต์เพื่อการศึกษาภูมิอากาศในอดีต
ชื่อเรื่อง (EN): Temperature, relative humidity, and rainfall studies in Northern Thailand for application on paleoclimatology
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sawanit Komonjinda
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างความสูงกับอุณหภูมิปริมาณน้ำฝน และ ความชื้นสัมพันธ์ ในพื้นที่สูงในเขตภาคเหนือของประเทศไทย โดยอาศัยข้อมูลภูมิอากาศ รายวัน/รายสัปดาห์/ รายปี/รายฤดู จากสถานีตรวจวัด 12 แห่ง ระหว่างปีพ.ศ. 2497-2545 ดังนี้ สถานีตรวจจังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, แม่ฮ่องสอน, แม่สะเรียง, แม่สอด, น่าน, เพชรบูรณ์, แพร่, พิษณุโลก, ตาก, และ อุตรดิตถ์ ใน การศึกษาครั้งนี้ได้ทำการเก็บข้อมูลอุตุนิยมวิทยาตามลำดับชั้นความสูงในพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาวเป็น ระยะเวลามากกว่า 1 ปี เพื่อนำมาใช้ในการศึกษาเปรียบเทียบ ข้อมูลที่ถูกรวบรวมทั้งหมดจะนำมาทำการศึกษา เปรียบเทียบโดยโปรแกรม DPL (Dendrochronology Program Library) ในส่วนของโปรแกรมย่อย MET (Estimate Missing meteorological data), HOM (Homogeneity of meteorological data), MAT (Correlation Matrices), และ SEA (Seasonalize meteorological data) ผลจากการศึกษาค่าความสัมพันธ์ จากข้อมูลทั้ง 12 สถานีโดยใช้ข้อมูลอุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝน และ ความชื้นสัมพันธ์ เฉลี่ยรายเดือน พบว่า ปริมาณน้ำฝนและความชื้นสัมพันธ์ ในแต่ละสถานีมีแนวโน้มสอดคล้องต่อ กัน ในขณะที่ข้อมูลอุณหภูมิมีความแตกต่างกัน ผลจากการศึกษาค่าสหสัมพันธ์ในรูปของ Correlation Matrices ในแต่ละช่วงเดือนพบว่า อุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝน และความชื้นสัมพันธ์ จะมีค่าสูงสุดในช่วงเดือนธันวาคม (0.8056) มกราคม (0.6466) และ พฤษภาคม (0.7305) ตามลำดับ โดยแนวโน้มของความสัมพันธ์จะมีความสัมพันธ์กับความแตกต่างของความสูงและสภาพภูมิ ประเทศของพื้นที่ ความสัมพันธ์ระหว่างผลที่ได้จากการวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ และค่าสหสัมพันธ์ บ่งชี้ว่าอุณหภูมิและ ปริมาณน้ำฝน มีความสัมพันธ์ต่อกันมากกว่าค่าความชื้นสัมพันธ์ ในส่วนของการศึกษาสภาพภูมิอากาศรายฤดูโดยโปรแกรม SEA สำหรับทุกสถานีพบว่าข้อมูลอุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝนและความชื้นสัมพันธ์ รายฤดูมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน มีเพียงบางรายสถานีและบางปีเท่านั้นที่ มีความแตกต่าง นอกจากนี้ในการศึกษาครั้งนี้พบว่าช่วงปีพ.ศ. 2520ข้อมูลอุตุนิยมวิทยาสถานีจังหวัดตากแสดงความ แตกต่างระหว่างปริมาณน้ำฝนและความชื้นสัมพันธ์อย่างผิดปรกติ เช่นเดียวกับข้อมูลอุณหภูมิที่ได้จากสถานี เชียงใหม่ ในช่วงปีเดียวกัน
บทคัดย่อ (EN): This investigation analyzed the dynamic interplay of elevation with temperature (TMP), rainfall (PPT), and relative humidity (RH) on the mountains of north Thailand by using daily/weekly/monthly/seasonal climate data from 12 stations. The selected data covers the common period from 1954 to 2002, and are from the following locations: Chiang Mai, Chiang Rai, Lampang, Mae Hong Son, Mae Sariang, Mae Sot, Nan, Phetchaboon, Phrae, Phitsanulok, Tak, and Uttaradit. A detailed analysis of the existing meteorological records is augmented by more than a year of direct measurements along an elevational transect in the Chiang Dao Wildlife Sanctuary for comparison. The weather data were complied and processed on the DPL program (Dendrochronology Program Library), MET (Estimate Missing meteorological data), HOM (Homogeneity of meteorological data), MAT (Correlation Matrices), and SEA (Seasonalize meteorological data) routine were used in this study. Preliminary analyses demonstrate that simple lapse rate models can be used to determine the mean elevation at which dew point is reached in the mountains of North Thailand for comparison with a network of pine chronologies from above 800 meters. A simple homogeneity test was run for the 12 stations subset for monthly mean TMP, RH, and monthly PPT. Results show all of the PPT stations data passed the homogeneity test. Conversely, most of TMP data failed, even when those same stations passed the test for both PPT and RH. From the correlation matrix test the highest correlations for TMP are in December (0.8056), for PPT it is in January (0.6466), and for RH the month of May shows the highest correlation (0.7305). Substantial differences in elevation and geography for many of these station locations have an effect on the correlations. The relationship between the results of the tests for homogeneity and correlation indicate that TMP and PPT are more regionally coherent than RH which shows far less tendency toward homogeneity, and less regional agreement. From SEA we could plot the seasonal trends through time for all stations for TMP, PPT and RH. The trend in mean for all station data are mostly the same, though some notable differences can be seen in some years and stations. The year 1977 was particularly anomalous, with data from Tak exhibiting changes in mean for PPT and RH, while Chiang Mai shows a marked change in mean for TMP.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=1143&obj_id=1781
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Weather
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างความสูงกับอุณหภูมิปริมาณน้ำฝน และ ความชื้นสัมพันธ์ ในพื้นที่สูงในเขตภาคเหนือของประเทศไทย โดยอาศัยข้อมูลภูมิอากาศ รายวัน/รายสัปดาห์/ รายปี/รายฤดู จากสถานีตรวจวัด 12 แห่ง ระหว่างปีพ.ศ. 2497-2545 ดังนี้ สถานีตรวจจังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, แม่ฮ่องสอน, แม่สะเรียง, แม่สอด, น่าน, เพชรบูรณ์, แพร่, พิษณุโลก, ตาก, และ อุตรดิตถ์ ใน การศึกษาครั้งนี้ได้ทำการเก็บข้อมูลอุตุนิยมวิทยาตามลำดับชั้นความสูงในพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาวเป็น ระยะเวลามากกว่า 1 ปี เพื่อนำมาใช้ในการศึกษาเปรียบเทียบ ข้อมูลที่ถูกรวบรวมทั้งหมดจะนำมาทำการศึกษา เปรียบเทียบโดยโปรแกรม DPL (Dendrochronology Program Library) ในส่วนของโปรแกรมย่อย MET (Estimate Missing meteorological data), HOM (Homogeneity of meteorological data), MAT (Correlation Matrices), และ SEA (Seasonalize meteorological data) ผลจากการศึกษาค่าความสัมพันธ์ จากข้อมูลทั้ง 12 สถานีโดยใช้ข้อมูลอุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝน และ ความชื้นสัมพันธ์ เฉลี่ยรายเดือน พบว่า ปริมาณน้ำฝนและความชื้นสัมพันธ์ ในแต่ละสถานีมีแนวโน้มสอดคล้องต่อ กัน ในขณะที่ข้อมูลอุณหภูมิมีความแตกต่างกัน ผลจากการศึกษาค่าสหสัมพันธ์ในรูปของ Correlation Matrices ในแต่ละช่วงเดือนพบว่า อุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝน และความชื้นสัมพันธ์ จะมีค่าสูงสุดในช่วงเดือนธันวาคม (0.8056) มกราคม (0.6466) และ พฤษภาคม (0.7305) ตามลำดับ โดยแนวโน้มของความสัมพันธ์จะมีความสัมพันธ์กับความแตกต่างของความสูงและสภาพภูมิ ประเทศของพื้นที่ ความสัมพันธ์ระหว่างผลที่ได้จากการวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ และค่าสหสัมพันธ์ บ่งชี้ว่าอุณหภูมิและ ปริมาณน้ำฝน มีความสัมพันธ์ต่อกันมากกว่าค่าความชื้นสัมพันธ์ ในส่วนของการศึกษาสภาพภูมิอากาศรายฤดูโดยโปรแกรม SEA สำหรับทุกสถานีพบว่าข้อมูลอุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝนและความชื้นสัมพันธ์ รายฤดูมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน มีเพียงบางรายสถานีและบางปีเท่านั้นที่ มีความแตกต่าง นอกจากนี้ในการศึกษาครั้งนี้พบว่าช่วงปีพ.ศ. 2520ข้อมูลอุตุนิยมวิทยาสถานีจังหวัดตากแสดงความ แตกต่างระหว่างปริมาณน้ำฝนและความชื้นสัมพันธ์อย่างผิดปรกติ เช่นเดียวกับข้อมูลอุณหภูมิที่ได้จากสถานี เชียงใหม่ ในช่วงปีเดียวกัน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาอุณหภูมิความชื้นสัมพันธ์และปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยสำหรับการประยุกต์เพื่อการศึกษาภูมิอากาศในอดีต
Sawanit Komonjinda
มหาวิทยาลัยมหิดล
2546
สำหรับประเทศไทย การประยุกต์ใช้แบบจำลอง FFW สำหรับพยากรณ์และเตือนภัยน้ำหลากในลุ่มน้ำโขงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ในประเทศไทย การประเมินปริมาณน้ำที่เพิ่มเติมให้กับแหล่งน้ำบาดาลของลุ่มน้ำในประเทศไทย การประเมินพิบัติภัยและความเสี่ยงจากดินถล่มของพื้นที่ดอยสุเทพ-ปุ๋ยในจังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทย การวิเคราะห์ประสิทธิภาพเชิงกำไรและปัจจัยที่มีผลต่อการเป็นผู้ส่งออกข้าวผ่านชายแดนของโรงสีข้าวพื้นที่ภาคเหนือประเทศไทย ผลของปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่อการสะสมด้วยของแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติในภาคเหนือของประเทศไทย การวิเคราะห์คุณสมบัติทางกายภาพ เคมีและคุณภาพทางหุงต้มของข้าวกล้องดอยที่ปลูกในพื้นที่สูงภาคเหนือของประเทศไทย โครเมี่ยนสปิเนลจากหินอัคนีอัลตราเมฟิกบางส่วน ในภาคเหนือและภาคตะวันออกของประเทศไทย สภาวะการจ้างงานในสาขาการผลิตต่างๆ ในภาคเหนือของประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก