สืบค้นงานวิจัย
การประยุกต์ใช้เซลลูโลไลติกเอนไซม์จากราและยีสต์เพื่อใช้ในการผลิตเอทานอลจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
จุฑาพร แสวงแก้ว - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: การประยุกต์ใช้เซลลูโลไลติกเอนไซม์จากราและยีสต์เพื่อใช้ในการผลิตเอทานอลจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
ชื่อเรื่อง (EN): Application of cellulolytic enzyme from fungi and yeast to produce ethanol by using agricultural products.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จุฑาพร แสวงแก้ว
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Jutaporn Sawaengkaew
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
บทคัดย่อ: การขาดแคลนพลังงานเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยและโลกปัจจุบัน เนื่องจากนับวันจะหมดไปและส่งผลให้ราคาแพงขึ้น ไบโอเอทานอลเป็นพลังงานทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเนื่องจาก ไม่ก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมและยังสามารถผลิตได้จากวัสดุทางการเกษตร เซลลูโลไลติกเอนไซม์เป็นเอนไซม์ที่สามารถย่อยเซลลูโลสไปเป็นน้ำตาลกลูโคส จึงได้มีการพัฒนานำมาใช้ประโยชน์ทางด้านผลิตไบโอเอทานอล จากคัดเลือกยีสต์และราที่มีประสิทธิภาพในการผลิตเซลลูโลไลติกเอนไซม์ โดยการสุ่มเก็บตัวอย่างใบไม้ ดอกไม้ ผลไม้ และดิน รวมทั้งหมด 48 ตัวอย่าง จากจังหวัดชัยภูมิ คัดแยกยีสต์สายพันธุ์ Pichia fabianii 204-1 สามารถผลิตเอนไซม์คาร์บอกซิลเมทิลเซลลูเลส และยีสต์ Candida glabrata S1-1 สามารถผลิตเอนไซม์เบต้ากลูโคซิเดสได้สูง ส่วนเชื้อราสายพันธุ์ Penicillium oxalicum HS1-3 สามารถผลิตเอนไซม์เอนไซม์คาร์บอกซิลเมทิลเซลลูเลส และเบต้ากลูโคซิเดสได้สูง เมื่อศึกษาความสามารถในการผลิตเซลลูโลไลติกเอนไซม์จาก P. fabianii 204-1, C. glabrata S1-1 และ P. oxalicum HS1-3 โดยใช้ชานอ้อยเป็นแหล่งคาร์บอน พบว่า P. fabianii 204-1 สามารถผลิตเอนไซม์คาร์บอกซีเมทิลเซลลูเลส ได้สูงสุดคือ 32.55 ยูนิตต่อมิลลิลิตร Candida glabrata S1-1 สามารถผลิตเอนไซม์บีต้ากลูโคสิเดสสสูงที่สุด คือ 17.98 ยูนิตต่อมิลลิลิตร และ P. oxalicum HS1-3 ผลิตเอนไซม์คาร์บอกซีเมทิลเซลลูเลสสูงสุด เบต้ากลูโคซิเดสได้ 217.59 U/ml และ 23.64 U/ml ตามลำดับ จากปรับสภาพชานอ้อยวิธีทางเคมีโดยใช้กรดซัลฟิวริกเข้มข้น 1 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับความร้อน 121?C เป็นเวลา 60 นาที ได้น้ำตาล 28.01 กรัมต่อลิตร เมื่อนำวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรที่ผ่านกระบวนการย่อยด้วยวิธีทางเคมีมาแล้ว มาย่อยสลายด้วยเซลลูโลไลติกเอนไซม์จากยีสต์และรา ที่อุณหภูมิ 50?C เป็นเวลา 72 ชั่วโมง ได้ปริมาณน้ำตาลกลูโคส 0.513 กรัมต่อกรัมชานอ้อย หลังจากนั้นหมักร่วมกับ Saccharomyces cerevisiae ได้เอทานอลสูงสุด คือ 0.290 เปอร์เซ็นต์ (ปริมาตรต่อปริมาตร) เมื่อเลี้ยงยีสต์เป็นเวลานาน 10 วัน ดังนั้นการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ประเภทชานอ้อย เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนำมาใช้ในการผลิตพลังงานทดทนประเภทไบโอเอทานอลได้
บทคัดย่อ (EN): Insufficient energy is a major problem of Thailand and almost country in the world. Energy source is decline that result to high market price. Bioethanol is an environmentally friendly and renewable energy that can be produced from agricultural feed stocks. Cellulosic material is hydrolyzed to glucose by synergistically of carboxymethyl cellulase and ?–glucosidase. Cellulolytic enzymes are industrially important hydrolytic enzyme and production economic of bioethanol. In this study, Pichia fabianii 204-1 which produced high carboxymethylcellulase, Candida glabrata S1-1 which high ?-glucosidase and Penicillium oxalicum HS1-3 which high both carboxymethylcellulase and ?-glucosidase were isolated from leaf, flower, fruit and soil samples. The cellulolytic enzyme productions were studied by using bagasse as substrate, carboxymethyl cellulase and ?–glucosidase production from P. fabianii 204-1 and C. glabrata S1-1 was 32.55 and 17.98 units/ml, respectively. Both carboxymethyl cellulase and ?–glucosidase production from P. oxalicum HS1-3 was 217.59 and 23.64 units/ml, respectively. After pretreatment of bagasse with 1% H2SO4 at 121?C, 60 min, reducing sugar was found 28.01 g/L. After cellulosic pretreatment, cellulolytic enzymes were added and incubated at 50?C for 72 h and then reducing sugar was found 0.513 g/g bagasse. The reducing sugar was fermented by Saccharomyces cerevisiae and bioethanol was detected 0.290 % (v/v) after 10 days of fermentation. Therefore, bioethanol could be produce as alternative energy from bagasse.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://tnrr.nriis.go.th/#/services/research-report/detail/260776
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: ไบโอเอทานอล
คำสำคัญ (EN): bioethanol
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

จุฑาพร แสวงแก้ว. "การประยุกต์ใช้เซลลูโลไลติกเอนไซม์จากราและยีสต์เพื่อใช้ในการผลิตเอทานอลจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรApplication of cellulolytic enzyme from fungi and yeast to produce ethanol by using agricultural products.". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2554

จุฑาพร แสวงแก้ว. "การประยุกต์ใช้เซลลูโลไลติกเอนไซม์จากราและยีสต์เพื่อใช้ในการผลิตเอทานอลจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรApplication of cellulolytic enzyme from fungi and yeast to produce ethanol by using agricultural products.". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
การประยุกต์ใช้เซลลูโลไลติกเอนไซม์จากราและยีสต์เพื่อใช้ในการผลิตเอทานอลจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
จุฑาพร แสวงแก้ว
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2554
การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การผลิตเอทานอลจากกากเนื้อในเมล็ดปาล์มน้ำมันโดยเชื้อผสมที่คัดเลือก การพัฒนาถ่านอัดแท่งจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ การศึกษาความเหมาะสมของการแปรรูปวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง การใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอุ้มน้ำในพื้นที่ดินทรายจัด การผลิตและใช้เทคโนโลยีเอนไซม์เพื่อจัดการและเพิ่มมูลค่าของเหลือใช้จากอุตสาหกรรมเกษตร การเพิ่มมูลค่าอ้อยโดยการใช้ประโยชน์จากการย่อยสลายเศษต้นและใบโดยเซลลูโลไลติกเอนไซม์จากเชื้อราเพื่อใช้ในการผลิตไบโอเอทานอลและไฟฟ้าเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน การศึกษาคุณสมบัติของถ่านขาวและน้ำส้มควันไม้ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร มูลค่าเพิ่มขึ้นของวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรโดยผลิตกาซชีวภาพ การใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อการผลิตเห็ด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair