สืบค้นงานวิจัย
การศึกษา polymorphism ของไมโทคอนเดรียลดีเอ็นเอบริเวณ coding region และการประยุกต์ใช้ทางนิติวิทยาศาสตร์
Noppadon Chamchoi - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษา polymorphism ของไมโทคอนเดรียลดีเอ็นเอบริเวณ coding region และการประยุกต์ใช้ทางนิติวิทยาศาสตร์
ชื่อเรื่อง (EN): A polymorphic study of mitochondrial DNA in the coding region and its forensic application
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Noppadon Chamchoi
บทคัดย่อ: การตรวจวิเคราะห์สารพันธุกรรมจากไมโทคอนเดรียเพื่อใช้ในงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในกรณีที่ตัวอย่างมีปริมาณน้อยมากหรือเกิดการสลาย ซึ่งการตรวจจาก short tandem repeat ไม่สามารถให้ผลได้ การตรวจพิสูจน์จากไมโทคอนเดรียดีเอ็นเอจะทำการวิเคราะห์บริเวณ hypervariable region I และ II 9 ของ control region แต่บริเวณนี้มีข้อจำกัดเนื่องจากให้ค่ากำลังการแยกแยะบุคคลต่ำ ดังนั้นการใช้ coding region จึงเป็นทางเลือกสำหรับการแก้ปัญหานี้ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา polymorphism ในประชากรไทยและนำไปประยุกต์ใช้ในงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ ในการศึกษา coding region ของไมโทคอนเดรียลดีเอ็นเอบริเวณลำดับเบสตำแหน่ง 8320-9160 ของประชากรไทยจำนวน 80 คนที่ไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดฝ่ายมารดา โดยทำการวิเคราห์ด้วยวิธี polymerase chain reaction และ direct sequencing ผลการศึกษาพบลำดับเบสที่แตกต่างจาก Cambridge reference sequence ซึ่งเป็นลำดับเบสอ้างอิงจำนวน 33 ตำแหน่งและประกอบด้วย 23 haplotypes อีกทั้งให้ค่าความหลากหลายทางพันธุกรรมเท่ากับ 0.8589 และค่ากำลังการแยกแยะบุคคลเท่ากับ 0.8491 โดยเมื่อรวม coding region กับ hypervariable I และ II พบว่าค่ากำลังการแยกแยะเพิ่มขึ้นเป็น 0.9875 การศึกษาครั้งนี้พบว่า coding region ในตำแหน่ง 8320-9160 ของไมโทคอนเดรียลดีเอ็นเอสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ได้
บทคัดย่อ (EN): Mitochondrial DNA typing has been widely applied in forensic casework. It can be used even when DNA samples are minute or severely degraded and analysis by short tandem repeat may not be successful. The hypervariable regions I and II of the control region are currently used for mtDNA testing in forensics. However, these regions are limited due to their low power of discrimination. Therefore, the coding region of mitochondrial DNA is an alternative test region. In this study, the purpose was to analyze mitochondrial DNA polymorphisms in the coding region and provide a basis for application in forensic science. We investigated a coding region encompassing position 8320 to 9160 in 80 unrelated individuals from a Thai population. The DNA sequences were determined by polymerase chain reaction and direct sequencing. The results showed that the sequence polymorphisms of this region differed from Cambridge reference sequence in 33 sites, and there were 23 haplotypes. The genetic diversity was estimated at 0.8598 and power of discrimination was 0.8491. The combination of this region with two hypervariable regions causes the discrimination power to rise to 0.9875. These results suggest that polymorphic sites within nucleotide sequence 8320 to 9160 of mitochondrial DNA can be used as a marker for forensic casework
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3281&obj_id=3064
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Genetic
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การตรวจวิเคราะห์สารพันธุกรรมจากไมโทคอนเดรียเพื่อใช้ในงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในกรณีที่ตัวอย่างมีปริมาณน้อยมากหรือเกิดการสลาย ซึ่งการตรวจจาก short tandem repeat ไม่สามารถให้ผลได้ การตรวจพิสูจน์จากไมโทคอนเดรียดีเอ็นเอจะทำการวิเคราะห์บริเวณ hypervariable region I และ II 9 ของ control region แต่บริเวณนี้มีข้อจำกัดเนื่องจากให้ค่ากำลังการแยกแยะบุคคลต่ำ ดังนั้นการใช้ coding region จึงเป็นทางเลือกสำหรับการแก้ปัญหานี้ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา polymorphism ในประชากรไทยและนำไปประยุกต์ใช้ในงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ ในการศึกษา coding region ของไมโทคอนเดรียลดีเอ็นเอบริเวณลำดับเบสตำแหน่ง 8320-9160 ของประชากรไทยจำนวน 80 คนที่ไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดฝ่ายมารดา โดยทำการวิเคราห์ด้วยวิธี polymerase chain reaction และ direct sequencing ผลการศึกษาพบลำดับเบสที่แตกต่างจาก Cambridge reference sequence ซึ่งเป็นลำดับเบสอ้างอิงจำนวน 33 ตำแหน่งและประกอบด้วย 23 haplotypes อีกทั้งให้ค่าความหลากหลายทางพันธุกรรมเท่ากับ 0.8589 และค่ากำลังการแยกแยะบุคคลเท่ากับ 0.8491 โดยเมื่อรวม coding region กับ hypervariable I และ II พบว่าค่ากำลังการแยกแยะเพิ่มขึ้นเป็น 0.9875 การศึกษาครั้งนี้พบว่า coding region ในตำแหน่ง 8320-9160 ของไมโทคอนเดรียลดีเอ็นเอสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ได้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษา polymorphism ของไมโทคอนเดรียลดีเอ็นเอบริเวณ coding region และการประยุกต์ใช้ทางนิติวิทยาศาสตร์
Noppadon Chamchoi
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
ความหลากหลายทางพันธุกรรมของชันโรง (Apidae: Meliponinae) ในประเทศไทย ตรวจสอบโดย PCR-RFLP ของไมโทคอนเตรียดีเอ็นเอ การพิสูจน์ยืนยันดีเอ็นเอของไก่ โดยใช้ไพรเมอร์ ที่จำเพาะต่อยีนไซโตโครม บี การวิเคราะห์ linkage โดยใช้เครื่องหมายดีเอ็นเอบนโครโมโซมคู่ที่ 11 ในโรคต้อหินชนิดมุมปิด การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเพื่อประเมินตะกอนแขวนลอยบริเวณปากแม่น้ำบางปะกง การประยุกต์ใช้แบบจำลองทางสังคมและมาร์คอฟ-เซลลูลาร์ออโตมาตาเพื่อคาดการณ์การใช้ที่ดินบริเวณลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนกลาง ประเทศไทย การยับยั้งการผลิตคอลลาเจนในเซลล์สร้างเส้นใยจากแผลคีลอยด์โดยใช้การแทรกแซงอาร์เอ็นเอ การขจัดกัมน้ำมันถั่วเหลืองโดยใช้เอนไซม์ฟอสโฟไลเปสเอสอง การประยุกต์ใช้ระบบภูมิสารสนเทศและแบบจำลองเพื่อการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน จังหวัดน่าน การออกแบบดีเอ็นเอไพรเมอร์เพื่อโคลนยีนไคทิเนสจาก Bacillus licheniformis PR-1 การย่อยสลายโพลีเมอร์ที่มีโมเลกุลเชื่อมโยงที่ได้จากผลิตภัณฑ์ยาง เหลือใช้และการประยุกต์ใช้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก