สืบค้นงานวิจัย
การกำจัดกำมะถันอินทรีย์จากน้ำมันดิบโดยเชื้อจุลินทรีย์
Natnapang Tanterdtit - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การกำจัดกำมะถันอินทรีย์จากน้ำมันดิบโดยเชื้อจุลินทรีย์
ชื่อเรื่อง (EN): Biodesulfurization of crude oil by mesophilic bacteria
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Natnapang Tanterdtit
บทคัดย่อ: ซัลเฟอร์เป็นสารประกอบหลักสารหนึ่งในน้ำมัน เมื่อมีการเผาไหม้จะทำให้เกิด ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะฝนกรดและมลพิษทางอากาศ ใน ปัจจุบันไฮโดรดีซัลเฟอร์ไรเซชัน (Hydrodesulfurization) เป็นวีธีการที่ใช้ในการกำจัดสารประกอบ อินทรีย์กำมะถันก่อนการเผาไหม้เชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ยังไม่สามารถกำจัดสารดังกล่าวใน น้ำมันได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นจึงมีการประยุกต์ใช้วิธีที่เพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดสารประกอบ อินทรีย์กำมะถันที่น่าสนใจในปัจจุบัน จุดประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้คือ เพื่อศึกษาสภาวะที่ เหมาะสมของการกำ จัดสารประกอบอินทรีย์กำ มะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟิน (Dibenzothiophene) (อุณหภูมิ, ความเข้มข้มเริ่มต้นของสารไดเบนโซไทโอฟิน และ อัตราส่วนของ น้ำมันต่อน้ำ) ในการศึกษาครั้งนี้เชื้อจุลินทรีย์ 3 สายพันธุ์ถูกนำไปศึกษาเกี่ยวกับการกำจัด สารประกอบอินทรีย์กำมะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟิน จากนั้นได้ทำการศึกษาสภาวะที่ เหมาะสมของการกำจัดสารประกอบอินทรีย์กำมะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟินในน้ำมัน (อุณหภูมิ, ความเข้มข้มเริ่มต้นของสารไดเบนโซไทโอฟิน และ อัตราน้ำมันต่อน้ำ) จากการทดลองพบว่าสายพันธุ์ R3 เติบโตได้ดีที่สุดและมีความสามารถดีที่สุดในการ กำจัดสารประกอบอินทรีย์กำมะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟินในน้ำมัน ในการศึกษาสถาวะ อุณหภูมิที่เหมาะสมพบว่า ทั้งสามสายพันธุ์สามารถกำจัดสารประกอบอินทรีย์กำมะถันออกจากสาร ไดเบนโซไทโอฟินลดลงหลังจากอุณหภูมิเพิ่มมากกว่า 40 องศาเซลเซียส และลดอุณหภูมิลงต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส การศึกษาสภาวะความเข้มข้มเริ่มต้นของสารไดเบนโซไทโอฟินที่เหมาะสมใน การกำจัดสารประกอบอินทรีย์กำมะถันพบว่าที่ 0.5, 1, และ2.5mM ไม่พบการคงเหลือของสารได เบนโซไทโอฟิน ขณะที่ความเข้มข้นที่ 5mM และ 10mM พบว่า R3 พบการคงเหลือของสารไดเบน โซไทโอฟินน้อยที่สุด การศึกษาอัตราส่วนระหว่างน้ำต่อน้ำมันที่เหมาะสมพบว่าทั้งสามสายพันธุ์ สามารถกำจัดสารประกอบอินทรีย์กำมะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟินลดลงหลังจากเพิ่ม อัตราส่วนน้ำมันต่อน้ำมากกว่า 40 เปอร์เซนต์
บทคัดย่อ (EN): . The result of biodesulfurization in the various initial concentrations of DBT the results showed that 0.5, 1, and 2.5mM could not find residual substrate of DBT in the reactions by selected strains. At various initial concentrations of 5mM and 10mM, the results showed that R3 had less residual DBT concentration than MS4 and MS2, respectively. Biodesulfurization of selected strains in various two phase ratio were investigated. All selected strains decreased desulfurizing ability after a decrease in percent two phase more than 40 percent of oil per water.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=5453&obj_id=4654
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Sulfoxides
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: ซัลเฟอร์เป็นสารประกอบหลักสารหนึ่งในน้ำมัน เมื่อมีการเผาไหม้จะทำให้เกิด ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะฝนกรดและมลพิษทางอากาศ ใน ปัจจุบันไฮโดรดีซัลเฟอร์ไรเซชัน (Hydrodesulfurization) เป็นวีธีการที่ใช้ในการกำจัดสารประกอบ อินทรีย์กำมะถันก่อนการเผาไหม้เชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ยังไม่สามารถกำจัดสารดังกล่าวใน น้ำมันได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นจึงมีการประยุกต์ใช้วิธีที่เพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดสารประกอบ อินทรีย์กำมะถันที่น่าสนใจในปัจจุบัน จุดประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้คือ เพื่อศึกษาสภาวะที่ เหมาะสมของการกำ จัดสารประกอบอินทรีย์กำ มะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟิน (Dibenzothiophene) (อุณหภูมิ, ความเข้มข้มเริ่มต้นของสารไดเบนโซไทโอฟิน และ อัตราส่วนของ น้ำมันต่อน้ำ) ในการศึกษาครั้งนี้เชื้อจุลินทรีย์ 3 สายพันธุ์ถูกนำไปศึกษาเกี่ยวกับการกำจัด สารประกอบอินทรีย์กำมะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟิน จากนั้นได้ทำการศึกษาสภาวะที่ เหมาะสมของการกำจัดสารประกอบอินทรีย์กำมะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟินในน้ำมัน (อุณหภูมิ, ความเข้มข้มเริ่มต้นของสารไดเบนโซไทโอฟิน และ อัตราน้ำมันต่อน้ำ) จากการทดลองพบว่าสายพันธุ์ R3 เติบโตได้ดีที่สุดและมีความสามารถดีที่สุดในการ กำจัดสารประกอบอินทรีย์กำมะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟินในน้ำมัน ในการศึกษาสถาวะ อุณหภูมิที่เหมาะสมพบว่า ทั้งสามสายพันธุ์สามารถกำจัดสารประกอบอินทรีย์กำมะถันออกจากสาร ไดเบนโซไทโอฟินลดลงหลังจากอุณหภูมิเพิ่มมากกว่า 40 องศาเซลเซียส และลดอุณหภูมิลงต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส การศึกษาสภาวะความเข้มข้มเริ่มต้นของสารไดเบนโซไทโอฟินที่เหมาะสมใน การกำจัดสารประกอบอินทรีย์กำมะถันพบว่าที่ 0.5, 1, และ2.5mM ไม่พบการคงเหลือของสารได เบนโซไทโอฟิน ขณะที่ความเข้มข้นที่ 5mM และ 10mM พบว่า R3 พบการคงเหลือของสารไดเบน โซไทโอฟินน้อยที่สุด การศึกษาอัตราส่วนระหว่างน้ำต่อน้ำมันที่เหมาะสมพบว่าทั้งสามสายพันธุ์ สามารถกำจัดสารประกอบอินทรีย์กำมะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟินลดลงหลังจากเพิ่ม อัตราส่วนน้ำมันต่อน้ำมากกว่า 40 เปอร์เซนต์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การกำจัดกำมะถันอินทรีย์จากน้ำมันดิบโดยเชื้อจุลินทรีย์
Natnapang Tanterdtit
มหาวิทยาลัยมหิดล
2551
การกำจัดกำมะถันออกจากสารประกอบอินทรีย์ในน้ำมันโดยใช้เชื้อจุลินทรีย์ ผลของน้ำมันตะไคร้ต่อไปปรสิตและจุลินทรีย์ก่อโรคในผึ้ง การกำจัดสารกำมะถันโดยวิธีการทางชีวภาพด้วย rhodococcus gordoniae การใช้วัสดุดูดซับทางธรรมชาติในการกำจัดคราบน้ำมัน ลักษณะทางฟีโนไทป์ของเชื้อ Burkholderia thailandensis ก่อนและหลังจากติดเชื้อ bacteriophage ที่แยกได้จากเชื้อ Burkholder การพัฒนาระบบทำลายเชื้อจุลินทรีย์แบบฉีดไอน้ำโดยตรง การศึกษาสมบัติของน้ำมันเมล็ดมะละกอเพื่อพัฒนาเป็นน้ำมันบริโภค การผลิตและการใช้ประโยชน์ของกลูโคอะไมเลส จากเชื้อจุลินทรีย์ ผลของอุณหภูมิที่มีต่อการกำจัดไดเบนโซไธโอฟีนในน้ำมันเตาโดยวิธีทางชีวภาพ การบำบัดน้ำเสียด้วยระบบบำบัดน้ำเสียแบบจุลินทรีย์แขวนลอยและจุลินทรีย์บนตัวกลางยึดเกาะ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก