สืบค้นงานวิจัย
สภาพการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกรในอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ปี 2552
อรพันธ์ วัชรโพธิ์ - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: สภาพการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกรในอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ปี 2552
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อรพันธ์ วัชรโพธิ์
บทคัดย่อ: จากการศึกษาสภาพการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกรในอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าเกษตรกรผู้ให้ข้อมูล เป็นเพศชายและเพศหญิงในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน มีอายุเฉลี่ย 42.82 ปี ส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับประถมศึกษา มีสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 4.43 ราย มีรงงานในครัวเรือน เฉลี่ย 2.77 คน และเกษตรกรเป็นสมาชิกกลุ่มต่าง ๆ มากกว่า 1 กลุ่ม เกษตรกรมีพื้นที่ทำการเกษตรเฉลี่ย 15.53 ไร่ มีรายได้ภาคเกษตรเฉลี่ย 45,772 บาท/ปี มีรายได้นอกภาคเกษตรเฉลี่ย 8,997.20 บาท/ปี เกษตรกรส่วนใหญ่ ใช้เงินทุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มีเครื่องสูบน้ำและรถไถนาเดินตาม ไว้ใช้ในการทำนา เกษตรกรมีประสบการณ์ในการทำนาเฉลี่ย 12.91 ปี เกษตรกรส่วนใหญ่อาศัยน้ำฝนในการผลิตหอมมะลิ และอาศัยน้ำชลประทาน(สูบน้ำด้วยไฟฟ้า)เพียงเล็กน้อย เกษตรกรเกินครึ่งหนึ่งเล็กน้อยมีที่นาเป็นที่ดอน ส่วนที่เหลือมีสภาพเป็นที่ลุ่ม โดยส่วนใหญ่ มีที่นาเป็นของตนเอง มีพื้นที่ทำนาเฉลี่ย 15.18 ไร่/ราย ดินที่ทำนามีความอุดมสมบูรณ์ในระดับปานกลาง เกษตรกรไม่เคยมีการปลูกพืชตระกูลถั่วในการปรับปรุงดิน เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกทั้งพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และกข.15 มีการปลูกข้าวในช่วงเดือน มิถุนายน – กรกฎาคม โดยใช้พันธุ์ข้าวที่เก็บไว้เอง เกษตรกรเกือบทั้งหมดทำนาโดยการทำนาหว่าน ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ในการทำนาหว่าน เฉลี่ย 24.74 กก./ไร่ นาดำเกษตรกรใช้เมล็ดพันธุ์เฉลี่ย 8.13 กก./ไร่ เกษตรกรมีการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวเป็นเวลาติดต่อกันเฉลี่ย 3.34 ครั้ง ใช้เเรงงานในการทำนาเฉลี่ย 3.74 แยกเป็นแรงงานในครัวเรือนทำนาเฉลี่ย 2.73 คน และเป็นแรงงานจ้างในการทำนาเฉลี่ย 3.74 คน เกษตรกรส่วนใหญ่ มีการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกัน สูตรปุ๋ยเคมีที่เกษตรกรใช้ คือปุ๋ยสูตร 46-0-0 รองลงมาคือสูตร 16-8-8 เกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์เฉลี่ย 27.81 กก./ไร่ ใช้ปุ๋ยเคมีเฉลี่ย 24.61 กก./ไร่ โดยเกษตรกรใส่ปุ๋ยเคมี 2 – 3 ครั้ง เกษตรกรส่วนใหญ่ ยังไม่มีการสำรวจแมลงศัตรูข้าวที่มีรูปแบบที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ แมลงศัตรูข้าวที่พบมากและทำความเสียหายต่อข้าว ส่วนใหญ่ เป็นหนูนา เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และหนอนกอ สำหรับโรคระบาดที่ทำความเสียต่อข้าว ส่วนใหญ่พบว่าข้าวเป็นโรคไหม้ และโรคกาบใบเน่า เกษตรกรส่วนใหญ่ ไม่ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรคแมลง ในนาข้าว เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้วิธีกลโดยการใช้แรงคนในการกำจัดศัตรูพืช และใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดประมาณ1/3 ของเกษตรกรทั้งหมด การเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวของเกษตรกร พบว่าส่วนใหญ่ไม่มีการระบายน้ำออกจากแปลงนาก่อนการเก็บเกี่ยวข้าว เกษตรกรเกือบทั้งหมดเก็บเกี่ยวข้าวในระยะพลับพลึง โดยเกษตรกรส่วนใหญ่เก็บเกี่ยวข้าวโดยจ้างรถเกี่ยวนวดข้าว ในอัตราไร่ละ 550 - 700 บาท ส่วนที่เหลือประมาณ 1/3 จะเก็บเกี่ยวโดยใช้แรงงานคนเก็บเกี่ยวข้าวเฉลี่ย วันละ 150 -200 บาท เกษตรกรได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิเฉลี่ย 360.92 กก./ไร่ เกษตรกรขายข้าวเปลือกได้เฉลี่ย กก.ละ 11.25 บาท โดยส่วนใหญ่ ขายผลผลิตทันทีหลังเก็บเกี่ยว รองลงมาคือเก็บผลผลิตไว้ส่วนหนึ่งและแบ่งขายส่วนหนึ่ง เกษตรกรทุกรายให้ข้อมูลว่าทำนาแล้วได้กำไร เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการเรื่องการประกันรายได้ให้เกษตรกร ปัญหาในการผลิตข้าวของเกษตรกร พบว่าในภาพรวมเกษตรกรมีปัญหาในการผลิตข้าวในระดับมาก จำนวน 25 ประเด็น ได้แก่ (1) มีแมลงศัตรูข้าวทำลาย (2)โรคระบาดข้าว (3)สัตว์ศัตรูข้าว (4) ขาดความรู้เรื่องสารกำจัดวัชพืช (5)ค่าหาซื้อพันธุ์ที่ต้องการยาก (6)มีวัชพืชมาก (7)ค่าสารกำจัดวัชพืชมีราคาแพง (8)พันธุ์มีราคาแพง (9)ปุ๋ยอินทรีย์ราคาแพง (10)ถูกตัดราคาจากสิ่งเจือปน/ความชื้น (11)ถูกพ่อค้าเอาเปรียบเรื่อง%ต้นข้าว (12) ราคาผลผลิตต่ำ (13) ขาดความรู้ในเรื่องการปรับปรุงดิน (14)พันธุ์ไม่ต้านทานโรคแมลง (15) พันธุ์ให้ผลผลิตต่ำ (16)ขาดความรู้เรื่องการใช้ปุ๋ย (17) ปุ๋ยอินทรีย์ราคาแพง (18)ขาดความรู้เรื่องการทำนาแผนใหม่ (19)ขาดเงินทุนซื้อปุ๋ย (20) เงินทุนปลูกข้าวไม่เพียงพอ (21) ค่าจ้างแรงงานแพงและหายาก (22) ขาดแรงงานในการทำนา (23) แรงงานคนเก็บเกี่ยวมีราคาแพง (24) พื้นที่ดินเสื่อม น้ำท่วม/ฝนแล้ง(ภัยธรรมชาติ) และ (25) หาแรงงานคนเก็บเกี่ยวยาก ส่วนอีก 11 ประเด็นเป็นประเด็นที่มีปัญหาระดับน้อยถึงไม่มีปัญหา จากการศึกษาผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ คือ ควรอบรมให้ความรู้เกษตรกรในเรื่องการทำนาแผนใหม่ และการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปุ๋ยชนิดต่าง ๆ ที่ถูกต้อง การป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าว และการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช ควรมีการรวมกลุ่มจัดหาปัจจัยการผลิตที่จำเป็น เพื่อแก้ปัญหาที่สำคัญในการผลิตข้าวของเกษตรกร ส่งเสริมให้เกษตรกรมีการการปรับปรุงบำรุงดินในนา การเปลี่ยนพันธุ์ข้าวทุก 3 ปี พัฒนาศูนย์ข้าวชุมชนให้เป็นแหล่งผลิตข้าวพันธุ์ดี ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าวหอมมะลิ โดยการแปรรูปเป็นข้าวสารขาว ข้างกล้องอนามัย หรือ ข้าวอินทรีย์เป็นต้น และควรมีการเตรียมความพร้อมให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับอำเภอ และเกษตรกรให้มีความรู้และพร้อมเข้าสู่การรับรองGAP ข้าว เพื่อรองรับตลาดส่งออกในอนาคต ที่เน้นความปลอดภัยต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค (from farm to table)
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ปี 2552
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมส่งเสริมการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
สภาพการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกรในอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ปี 2552
กรมส่งเสริมการเกษตร
2553
การใช้เทคโนโลยีการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกรปี 2546/2547 ตำบลทุ่งแสงทอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ สภาพการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกรผู้ร่วมโครงการศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชน ปี 2544 - 2545 อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร การใช้เทคโนโลยีในการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกร จังหวัดนครพนม ปี 2546 สภาพการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกรตำบลสายนาวัง กิ่งอำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ ปี 2546 สภาพการผลิตและปัญหาความต้องการพัฒนาการผลิตข้าวหอมมะลิ ของเกษตรกรผู้ร่วมโครงการศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ ข้าวชุมชน ปี 2544 - 2547 อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร การใช้เทคโนโลยีในการเพาะปลูกข้าวของเกษตรกรตำบลสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ สภาพการผลิตอ้อยของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยในตำบลโนนขวาง กิ่งอำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ การใช้เทคโนโลยีการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกร ตำบลโนนสุวรรณ อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ ปีเพาะปลูก 2546/2547 สภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรในอำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ปีเพาะปลูก 2546/2547 รูปแบบการทำไร่นาสวนผสมของเกษตรกรในจังหวัดบุรีรัมย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก