สืบค้นงานวิจัย
กระบวนการหมักกรดโคจิกจากมันสำปะหลังด้วยเชื้อรา Aspergillus เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
ธนภูมิ มณีบุญ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: กระบวนการหมักกรดโคจิกจากมันสำปะหลังด้วยเชื้อรา Aspergillus เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
ชื่อเรื่อง (EN): Fermentation of kojic acid from cassava by Aspergillus spp. for application in the cosmetic industry
บทคัดย่อ: โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตกรดโคจิกจากมันสำปะหลังโดยกระบวนการหมักแบบแห้งด้วยเชื้อราAspergillusการวิจัยในปีแรกได้คัดเลือกเชื้อราAspergillusสายพันธุ์ที่สร้างกรดโคจิกจากเชื้อราจำนวนทั้งหมด128 ไอโซเลทพบว่ามีเชื้อราสายพันธุ์ที่สร้างกรดโคจิกได้ดีและไม่สร้างสารพิษอะฟลาทอกซิน จำนวน 5 ไอโซเลท ได้แก่ AR134, AR173, AR177, AR183 และ AR205 โดยสามารถผลิตกรดโคจิกได้เท่ากับ 26.35, 18.37, 20.59, 31.42, 31.42 และ 32.02 กรัม/ลิตร ตามลำดับ เมื่อบ่มที่อุณหภูมิห้อง เป็นระยะเวลา12 วัน และเมื่อทำการผลิตกรดโคจิกด้วยกระบวนการหมักแบบแห้งโดยใช้วัตถุดิบมันสำปะหลังชนิดต่างๆ ได้แก่ มันสำปะหลังดิบ มันเส้น และกากมันสำปะหลัง โดยใช้ระยะเวลาเพาะเลี้ยงเท่ากับ 14 วัน และบ่มที่อุณหภูมิห้อง พบว่าเชื้อราไอโซเลทAR183 สามารถผลิตกรดโคจิกจากวัตถุดิบมันสำปะหลังทั้งสามชนิดได้ดีที่สุด โดยสามารถผลิตกรดโคจิกได้มากที่สุดเท่ากับ 82.04 มิลลิกรัม/กรัมน้ำหนักแห้งของสับสเตรท เมื่อใช้มันเส้นที่ผ่านการเจลาติไนซ์เป็นสับสเตรท สำหรับการใช้มันสำปะหลังดิบพบว่าการไม่เจลาติไนซ์จะให้ปริมาณกรดโคจิกสูงที่สุด คือ 73.85 มิลลิกรัม/กรัมน้ำหนักแห้งของสับสเตรทในขณะที่การใช้กากมันสำปะหลังพบว่ากระบวนการเจลาติไนซ์ไม่มีผลต่อการผลิตกรดโคจิก โดยให้ปริมาณกรดใกล้เคียงกัน คือ 31 มิลลิกรัม/กรัมน้ำหนักแห้งของสับสเตรทการศึกษาผลของการเติมแหล่งไนโตรเจนแสดงให้เห็นว่าการเติมแหล่งไนโตรเจนส่งผลทำให้เชื้อราผลิตกรดโคจิกลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อตรวจสอบคุณสมบัติของกรดโคจิกในสารสกัดหยาบเปรียบเทียบกับสารมาตรฐานกรดโคจิกด้วยวิธี HPLC และ UV spectroscopy พบว่ามีค่า Retention time และ UV spectrum คล้ายกันสำหรับงานวิจัยในปีที่สองจะศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการผลิตกรดโคจิกของเชื้อรา AR183 และทดสอบฤทธิ์ของกรดโคจิกที่ผลิตได้ในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสฤทธิ์ต้านการเกิดสารอนุมูลอิสระ และฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ก่อโรคทางผิวหนังรวมทั้งการประยุกต์ใช้กรดโคจิกในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางบำรุงผิวเพื่อผิวขาว
บทคัดย่อ (EN): The objective of this research was produced kojic acid from cassava by Aspergillus sp. using solid state fermentation. During the first year of the study, a total of 128 isolates of Aspergillus species were screened for their ability to produce kojic acid. Five isolates namely, AR134, AR173, AR177, AR183 andAR205, showed highest kojic acid production and no formation of aflatoxins were obtained. They produced kojic acid in liquid medium with 26.35, 18.37, 20.59, 31.42, 31.42and32.02 g/l, respectively, after 12 days of incubation at room temperature. Solis state fermentation of kojic acid from cassava root, cassava chip and cassava pulp by 5 isolates was compared. After 14 days of incubation at room temperature, the isolate AR183 showed maximum kojic acid production on all the three substrates used. Highest kojic acid production with 82.04 mg/g dry substrate was achieved when using gelatinized cassava chip as substrate. In case of cassava root, non-gelatinized substrate was found suitable for kojic acid production over the gelatinized substrate with 73.85 mg/g dry substrate was obtained. For cassava pulp, kojic acid concentration from gelatinized substrate with about 31 mg/g dry substrate was close to the non-gelatinized substrate. The effect of supplementation of different nitrogen sources on production of kojic acid was investigated. Result revealed thatproduction of kojic acid decreased significantly when nitrogen sourcewas added to the production medium. In addition, HPLC and UV spectroscopy were used to analyze kojic acid in crude extract compared with authentic standard. Results showed that crude extract exhibited similar retention times and UV spectrum as the kojic acid standard. In the second year of this research, optimization of kojic acid fermentation by Aspergillus AR183 will be performed. The obtained kojic acid will be tested for its antityrosinase activity, antioxidant activity and inhibition of skin pathogens. Then, produced kojic acid will be usedan ingredientin skin-whitening cosmetic products.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: ส่วนผสมเครื่องสำอาง
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
กระบวนการหมักกรดโคจิกจากมันสำปะหลังด้วยเชื้อรา Aspergillus เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2560
การหาค่าที่เหมาะสมต่อการผลิตอาหารเสริมชีวนะสำหรับอาหารสัตว์ด้วยกระบวนการหมักแบบแห้ง โดยใช้มันสำปะหลังเส้นเป็นวัตถุดิบหลัก การจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมผลิตกรดซิตริกที่ใช้กากมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ โดยใช้ไส้เดือนดิน การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากสิ่งเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมผลิตกรดซิตริคที่ใช้กากมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ การใช้ผลพลอยได้จากโรงงานแป้งมันสำปะหลังหมักด้วยสารเสริมเป็นแหล่งวัตถุดิบในอาหารข้นสำหรับโคเนื้อ การใช้ผลพลอยได้จากโรงงานแป้งมันสำปะหลังหมักด้วยสารเสริมเป็นแหล่งวัตถุดิบในอาหารข้นสำหรับโคเนื้อ การใช้ประโยชน์วัตถุดิบผลพลอยได้โรงงานมันสำปะหลังผ่านกระบวนการหมักเพิ่มมูลค่าโภชนะเป็นอาหารสัตว์ต้นทุนต่ำ พึ่งพาตนเอง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง การปรับปรุงพันธุ์มันสำปะหลังให้มีไซยาไนด์ต่ำและผลผลิตสูงสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร การใช้กากมันสำปะหลังร่วมกับส่าเหล้าเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์สำหรับสุกร การเพิ่มโปรตีนของมันสำปะหลังโดยใช้น้ำกากผงชูรสเพื่อใช้เป็นอาหารโค การใช้สิ่งเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมผลิตกรดซิตริคเพื่อทดแทนมันสำปะหลังในสูตรอาหารข้นของสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก