สืบค้นงานวิจัย
ยุทธศาสตร์การแข่งขันเพื่อการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปจีน
พิษณุ เหรียญมหาสาร - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: ยุทธศาสตร์การแข่งขันเพื่อการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปจีน
ชื่อเรื่อง (EN): Competition Strategy for Thai Jasmin Rice Export in China
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พิษณุ เหรียญมหาสาร
บทคัดย่อ: งานวิจัยเรื่อง "ยุทธศาสตร์การแข่งขันเพื่อการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปน" นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาศักยภาพ ต้านอุปทานการผลิตข้าวหอมมะสิในประเทศ ปัญหาและอุปสรรคในการส่งออก อุปสงค์ของข้าว หอมมะสิไทยในตลาดจีน ประเภทข้าวไทยในตลาดน ข้อได้เปรียบของข้าวหอมมะสิไทยในตลาดจีน ระตับราคา สินค้า ทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวจีนต่อข้าวหอมมะลิ ตลอดจนเปรียบเทียบศักยภาพการส่งออกข้าว หอมมะลิ ของไทยกับข้าวหอมชองประเทศคู่แข่งสำคัญ คือ เวียดนาม กัมพูชา แสะเมียนมาร์ เพื่อเสนอแนะการกำหนด ยุทธศาสตร์ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและการส่งออกข้าวหอมมะสิไทยไปตลาดจีนให้สูงขึ้น จากผลการวิจัยภาคสนามและการสุ่มสำรวจผลิตภัณฑ์ข้าวถุงที่จำหน่ายในประเทศนทั้งหมด 116 รายการ พบรายชื่อผู้ส่งออกไทย 20 บริษัท และผู้นำเข้าจี๋น 26 บริษัท สามารถจำแนกสินค้าข้าวถุงออกได้ 4 ประเภทใหญ่ ได้แก่ (1) ผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิไทย 83 ตัวอย่าง (2) ข้าวหอมกัมพูชา 3 ตัวอย่าง (3) ข้าวหอมจีนที่มีศักยภาพ เป็นคู่แย่งข้าวหอมไทย 24 ตัวอย่าง และ (4) ข้าวที่ตั้งชื่อสื่ออัลักษณ์ทย แต่ไม่เกี่ยวข้องกับข้าวไทยอย่างสิ้นเชิง 6 ตัวอย่าง คิดเป็นสัตส่วนร้อยละ 71.55, 2.59, 20.69 และ 5.17 ตามลำดับ การสำรวจราคาขายของข้าวหอมทยในตลาดจีน พบว่า ข้าวหอมปทุมมีราคาขายเฉลี่ย 60-70 หยวนต่อ 5 ก็โลกรัม ข้าวหอมมะสิไทยราคาเฉลี่ย 80-100 หยวนต่อ 5 กิโลกรัม ส่วนข้าวหอมกัมพูชามีราคาถูกกว่าเล็กน้อย มีส่วนดึงดูดกลุ่มลูกค้าจีนที่อ่อนไหวต่อราคาข้วหันไปทตลองซื้อได้ ขณ*ที่ข้าวหอมนบางยี่ห้อที่มีคุณภาพสูงก็ได้รับ ความนิยมเป็นอย่างดี แม้มีราคาแพงกว่า ข้าวหอมไทย ซึ่งแสตงว่า ผู้บริโภคชาวนสมัยใหม่นั้น มีความพึงพอใจเลือก ซื้อข้าวคุณภาพสูง มากกว่าชัาวราคาถูกที่มีคุณภาพต่ำกว่า ในต้านกลยุทธ์การตลาดข้วหอมมะลิไทยในตลาดนยุศใหม่ แบ่งได้ 3 ระดับ คือ (1) เน้นข้าวหอมมะลิไทย เน้นความสำคัญ กับคุณภาพพิเศษสำหรับกลุ่มผู้บริโภคชาวนในสังคมเมืองที่มีกำลังซื้อสูง (2) ส่งเสริมการขยาย ตลาดข้าวหอม สำหรับกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางที่ยังมีความนิยมข้าวหอมไทยอยู่ โดยต้องแยกผลิตภัณฑ์ข้าวให้ ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าป้าหมาย (3) ขยายตลาดสำหรับผู้บริโภคขาวจีนเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ได้แก่ ข้าหอมมะสิที่ได้รับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (G) ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ เช่น ข้าวกล้องหอมมะลิ ผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิกึ่งสำเร็จรูปและพร้อมรับประทาน ข้าวหอมมะสิสำหรับการปรุงอาหารแต่ละเมนู ข้าวหอมมะลิ ปลอดสารพิษ ฯฯ อดจนการใช้บรรจุภัณฑ์ขนาตล็ก ให้เหมาะกับขนาดครอบครัวจีนที่เล็กลงและเนัน ความสะดวก โนการใช้ชีวิตต่างเมืองเพียงคนเดียว ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากข้อเสนอแนะเชิงยุทธศาสตร์สำหรับภาครัฐ ด้านการเพาะปลูกต้องเร่งลดตันทุนการผลิตข้าวพร้อมกับการ ส่งเสริมพันธุ์ข้าวหอมมะสิที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงและสามารถรักษาและ/หรือปรับข้าวให้มีรสชาติตรงกับความยม บริโภคข้าวของชาวจีนยุศใหม่ ด้านการตลาดต้องเน้นกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ถึงจุดเด่นข้าว หอมมะลิไทย ตลอดจนวิธีการหุง ควบคู่กับการเข้มงต ในการตรวจสอบคุณภาพและการใช้เครื่องหมายรับรอง มาตรฐาน ข้าวหอมมะสิไทย ขณะที่ยุทธศาสตร์สำหรับภาคเอกชนนั้น ต้องอาศัยคู่ค้าในนที่มีศักยภาพสูง มีความ จริงใจ ซื่อตรง ระหว่างกันสูง เน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่เข้มแข็ง เนื่องจากผู้บริโภคขาวจีนสามารถจดจำและ รับรู้แบรนด์สินค้ามากกว่า เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้า ส่วนการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายมี 5 รูปแบบ ได้แก่ (1) เป็นหุ้นส่วนกับรัฐวิสาหกิจรายใหญ่ หรือบรรษัทข้ามชาตินในไทย ที่มีบทบาทสำคัญในการทำตลาดจีน (2) ตั้งบริษัทตัวแทนนำเข้า ของไทยในประเทศจีน (3) กำหนดกลยุทธ์ส่งสริมการตลาดและการสรัางแบรนด์ร่วมกับ คู่ค้าจีน (4) จับคู่ธุรกิจโดย ตรงระหว่างสหกรณ์ท้องถิ่นของไทยกับผู้นำเข้าจีน และ (5) การตลาดผ่านช่องทางพาณิชย์ อิเล็คทรอนิกส์ (e-com nmerce)
บทคัดย่อ (EN): The research of Competition Strategy for Thai Jasmine Rice Export in China is to study the supply potential of jasmine rice in Thailand, the export problems and barriers, the demand of Thai jasmine rice, the category of Thai rice and the strength of Thai jasmine rice in the Chinese market, the price level, the attitudes and behavior of Chinese consumers, as well as comparing the potential of Thai jasmine rice with important competitors, e.g. Vietnam, Cambodia and Myanmar, in order to propose strategies that will increase Thai jasmine rice export to China. According to the research survey in China’s rice market and randomized rice products total 116 sampling, we found 20 Thai export companies and 26 Chinese import companies, and we can classified the rice product into 4 categories: (1) Thai Fragrance rice 83 sampling (71.55%); (2) Cambodia Fragrance rice 3 sampling (2.59%); (3) Chinese Fragrance rice 24 sampling (20.69%); (4) Rice Brand related to Thai Identities but not related to Thai rice 6 sampling (5.17%). For the pricing, Thai Pathumthani Fragrance rice average price is 60-70 RMB/5Kg.,Thai Jasmine Rice average price is 80-100 RMB/5Kg., while the Cambodia Fragrance Rice average price is slightly cheaper which will appeal to price-sensitive customers turn to try. Meanwhile, some Chinese popular fragrance rice brands are more expensive than Thai Jasmine rice, which indicating that the modern Chinese consumers are emphasis on product quality and satisfaction rather than price. From the study results, it can be concluded that Thai jasmine rice marketing strategies in the modern Chinese market can be divided into three levels: (1) Thai jasmine rice for Chinese urban consumers with high purchasing power; (2) the middle level consumers who are also fond of Thai fragrance rice; (3) entering niche market in China, e.g. jasmine rice with Geographical Indication (GI) certification, jasmine rice for health, such as brown jasmine rice, instant or ready-to-eat, jasmine rice for cooking in different recipes, as well as using smaller packages to serve single families and single persons who are away from their home town for working. The recommendations for the government include: speed up the reduction of rice cultivation and production cost, promote using jasmine rice seed that gives high yield and comes with favorite flavor among modern Chinese rice consumers. From the marketing aspect, it should focus on sales promotion and promoting the benefits of jasmine rice, as well as introducing a variety of cooking methods, strictly inspecting the quality and introducing standard certification mark for Thai jasmine rice. The strategies to the private sectors include: cooperate with high potential partners in China and to use strong brand building strategy. Five strategies for the channels of distribution were suggested: (1) cooperate with large state enterprises or Chinese MNCs in Thailand who will play an important role in entering Chinese market; (2) establish a Thai owned import agent in China; (3) define marketing promotion strategies and brand building strategies with Chinese partner; (4) conduct direct business matching between Thai local cooperatives and Chinese importers; and (5) conduct e-commerce marketing.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: จีน
คำสำคัญ (EN): China
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ยุทธศาสตร์การแข่งขันเพื่อการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปจีน
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
30 สิงหาคม 2557
บูรณาการเทคโนโลยีเพื่อการปรับปรุงปริมาณผลผลิตและคุณภาพข้าวหอมมะลิไทย บูรณาการเทคโนโลยีเพื่อการปรับปรุงปริมาณผลผลิตและคุณภาพข้าวหอมมะลิไทย แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การพัฒนากระบวนการต้นแบบในการทดสอบพันธุ์ข้าวลูกผสม การแข่งขันระหว่างข้าวกับวัชพืชจากการใส่ปุ๋ยรองพื้นระยะเวลาต่างๆ ในนาหว่านข้าวแห้ง ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อคุณภาพข้าวหอมมะลิไทย โครงการบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อการปรับปรุงปริมาณผลผลิตและคุณภาพข้าวหอมมะลิไทย คุณภาพข้าวสุกจากการผสมข้าว กข 23 และ ชัยนาท 1 ในขาวดอกมะลิ 105 การวิจัยวิธีการตรวจสอบการปลอมปนข้าวเพื่อการส่งออก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก