สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำและตะกอนดินต่อสุขภาพของปลานิลในกระชังในลำน้ำอูนและแม่น้ำสงครามจังหวัดสกลนคร และนครพนม
วิระวรรณ ระยัน - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: การศึกษาความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำและตะกอนดินต่อสุขภาพของปลานิลในกระชังในลำน้ำอูนและแม่น้ำสงครามจังหวัดสกลนคร และนครพนม
ชื่อเรื่อง (EN): Relationship between Variation of Water Quality and Soil Sediment on Nile Tilapia Cage Culture in Oun River and Songkhram River, Sakon Nakhon Province and Nakon Phanom Province
บทคัดย่อ: จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำจากการเลี้ยงปลานิลในกระชัง ในลำน้ำอูนและแม่น้ำสงคราม จังหวัดสกลนคร และนครพนม ระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน 2555 จำนวน 6 ครั้งใน 10 จุดสำรวจ พบว่าระดับน้ำลึกเฉลี่ยและความเร็วกระแสน้ำเฉลี่ยสูงที่สุดในเดือนกรกฎาคม และเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน ในเดือนมกราคมอุณหภูมิของน้ำเฉลี่ยต่ำที่สุด เดือนพฤษภาคมน้ำมีความโปร่งแสงต่ำที่สุด และค่าเฉลี่ยความนำไฟฟ้า ค่าความขุ่นสูงที่สุด เนื่องจากฝนชะล้างเอาตะกอนดินลงสู่แม่น้ำ ปริมาณออกซิเจนละลายทุกจุดสำรวจ มีค่าเฉลี่ยเหมาะสมแก่การดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ ปริมาณออกซิเจนละลายช่วงเดือนกรกฎาคม และเดือนกันยายน มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ค่าความเป็นกรดเป็นด่างมีค่าเป็นกรดอ่อนๆ แต่ยังเหมาะสมกับการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ ส่วนค่าความเป็นด่างมีค่าต่ำกว่าเกณฑ์ที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ น้ำมีความกระด้างต่ำจัดประเภทเป็นน้ำอ่อน คาร์บอนไดออกไซด์อิสระในน้ำมีค่าไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน ค่าออร์โธฟอสเฟตมีค่าสูงในฤดูน้ำหลากคือเดือนกรกฎาคม ค่าแอมโมเนียรวมและค่าไนไตรท์มีค่าไม่เกินมาตรฐาน และพบว่ามีค่าคลอโรฟิลล์ เอ ต่ำ ซื่งสามารถประเมินได้ว่าบทบาทของแพลงก์ตอนพืชที่เป็นอาหารสัตว์น้ำวัยอ่อนมีน้อยกว่าอาหารธรรมชาติอื่นๆ ส่วนคุณภาพตะกอนดิน ปริมาณน้ำในดิน ไนไตรท์ ไนเตรท แอมโมเนียรวม ออร์โธฟอสเฟต สารอินทรีย์รวม ฟอสฟอรัสรวม และซัลไฟด์ พบว่าสารอินทรีย์ในจุดทุกสำรวจมีค่าต่ำ ไนเตรทมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดในเดือนกันยายน แอมโมเนียรวมและสารอินทรีย์มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดในเดือนมีนาคม ออร์โธฟอสเฟตและซัลไฟด์ มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดในเดือนพฤศจิกายน แสดงว่าช่วงเวลาดังกล่าวมีการสะสมสารต่างๆ ในตะกอนดินอยู่สูง สำหรับข้อมูลการเลี้ยงปลา พบว่าใช้กระชังขนาด 9-12 ลูกบาศก์เมตร อัตราปล่อย 33.33-125 ตัว/ลูกบาศก์เมตร ใช้ระยะเวลาเลี้ยง 57-130 วัน อัตราการรอดตายเฉลี่ยร้อยละ 40-95 ผลผลิตปลาที่จับ 15-112.5 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากการตรวจสอบโรคปลาพบอาการผิดปกติของปลาที่ป่วย บางตัวแสดงอาการผิดปกติเล็กน้อยคือ ครีบกร่อน ตกเลือด มีแผลตามตัว เหงือกเน่า ท้องบวม เหงือกบางส่วนเน่าเห็นเป็นสีขาว เกล็ดหลุด ตัวด่าง มีแผลที่ปาก ตกเลือดที่ปลายหาง ตรวจพบปรสิตที่ก่อโรคปลานิล พบที่ผิวตัว 4 ชนิด คือ Epistylis sp. Trichodina sp. และ Monogene Chilodonella sp. และพบแบคทีเรียที่ก่อโรคปลานิล 3 ชนิด ได้แก่ Flavobacterium sp Aeromonas hydrophila และ Plesiomonas shigelloides.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: กระชัง
คำสำคัญ (EN): Linn
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำและตะกอนดินต่อสุขภาพของปลานิลในกระชังในลำน้ำอูนและแม่น้ำสงครามจังหวัดสกลนคร และนครพนม
กรมประมง
31 มีนาคม 2556
กรมประมง
หนังสือการเลี้ยงปลานิลในกระชัง การศึกษาสภาวะเศรษฐกิจสังคมของการเลี้ยงปลานิลในกระชังของเกษตรกรในจังหวัดสกลนคร ศึกษาแนวทางแก้ไขผลกระทบทางด้านคุณภาพน้ำและการเลี้ยงปลาในกระชัง จากการเปิด-ปิดบานประตูระบายน้ำเขื่อนทดน้ำบางปะกง การเลี้ยงปลานิลในกระชังด้วยระบบ LVHD (การเลี้ยงปลานิลแปลงเพศในกระชังด้วยอัตราความหนาแน่นสูง) การทดสอบสายพันธุ์ปลานิลจิตรลดา 3 และปลานิลจิตรลดา 4 ในกระชังของเกษตรกร การวิจัยและพัฒนาวิธีป้องกันรักษาโรคปลานิลที่เลี้ยงในกระชังในแม่น้ำชี ผลกระทบของน้ำกากส่าต่อธาตุอาหารพืชและคุณภาพน้ำในลุ่มแม่น้ำพอง และความเป็นพิษของน้ำกากส่าในปลานิล การเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำในแม่น้ำจันทบุรี การศึกษาความต้องการการส่งเสริมของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในกระชัง จังหวัดหนองคาย ผลผลิตปลานิลเพศผู้ในกระชังในการให้อาหารแตกต่างกันในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก