สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาการเจริญเติบโตและผลผลิตหวายบางพันธุ์ที่ปลูกเป็นพืชร่วมในสวนยาง
สมยศ ชูกำเนิด - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: ศึกษาการเจริญเติบโตและผลผลิตหวายบางพันธุ์ที่ปลูกเป็นพืชร่วมในสวนยาง
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Growth and Yield of Rattan as Intercropping in Rubber Plantation
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สมยศ ชูกำเนิด
บทคัดย่อ: ศึกษาการเจริญเติบโตและผลผลิตหวายบางพันธุ์ที่ปลูกเป็นพืชร่วมในสวนยาง ทำการทดลองที่สวนยางเขาสำนัก ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส ระหว่างปี 2532ถึง 2541 โดยวางแผนการทดลองแบบสุ่มในบล็อก ใช้หวายชนิดที่มีลักษณะการเจริญเติบโตและขนาดของลำต้นที่แตกต่างกัน คือหวานกำพวน (Calmuslongisetus) หวายน้ำ (C. godifroyi) และหวานโป่ง (C. latifolius) เป็นหวายใหญ่ชนิดที่แตกกอ หวายงวย (C. peregrinus) เป็นหวายใหญ่ชนิดที่ไม่แตกกอ และหวายตะค้าทอง (C. caesius) เป็นหวายชนิดเล็กที่แตกกอ ปลูกเป็นพืชร่วมในสวนยางพาราพันธ์สงขลา 36 อายุ 3 ปี และวิธีการเปรียบเทียบก็คือไม่มีการปลูกหวายเป็นพืชร่วม มีจำนวน 4 ซ้ำต่อวิธีการ ผลการศึกษาการกระจายของรากหาอาหารเมื่อหวายมีอายุ 7 ปี และยางพารามีอายุ 10 ปี พบว่าการกระจายของรากทางด้านแนวดิ่งของหวายและยางพาราอยู่ในระดับเดียวกัน คือหนาแน่นที่สุดอยู่ที่ผิวดินถึงความลึก 15 ซม. รองลงมาที่ระดับ 15-30 ซม. และน้อยที่สุดที่ระดับ 30-45 ซม. จากผิวดิน เมื่อพิจารณาถึงการกระจายของรากหาอาหารทางด้านแนวนอนของหวายและยางพารา พบว่ามีความแตกต่างกัน คือหวายงวยมีการกระจายของรากหาอาหารหนาแน่นไม่แตกต่างกับยางพาราตั้งแต่โคนต้นออกไปเพียง 1.5 ม. ส่วนหวายกำพวนและหวานตะค้าทองมีการกระจายของรากหาอาหารหนาแน่นไม่แตกต่างกับยางพาราตลอดแนวหน้าตัดดิน ที่ทำการศึกษาคือ ตั้งแต่บริเวณโคนต้นออกไปจนถึง 2.5 ม. แต่ที่ระดับความลึก 0-15 ซม. หวายกำพวนมีการมีการกระจายของรากหาอาหารทางด้านแนวนอนหนากว่าหวายตะค้าทอง การปลูกหวายเป็นพืชร่วมยางช่วยรักษาความชื้นของดินในฤดูแล้งช่วงที่ยางพาราผลัดใบได้ดีกว่าการไม่ปลูกพืชร่วมในสภาวะเครียดน้ำช่วงฤดูแล้งต้นหวายมีการปรับตัวเพื่อลดการคายน้ำโดยเพิ่มความต้านทานปากใบแตกต่างกันหวยตะค้าทองมีความต้านทานปากใบเพิ่มมากขึ้นมากที่สุด รองลงมาคือหวายกำพวน ส่วนหวายพวนมีความต้านทานปากใบเพิ่มขึ้นน้อยที่สุด ในขณะเดียวกัน ต้นหวายก็มีการปรับตัวโดยการลดศักย์ของน้ำในใบลงแต่ไม่มีความแตกต่างกัน หวายตะค้าทองที่ปลูกเป็นพืชร่วมยางสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 1-2 ลำต่อกอ หลังจากปลูก 7 ปีเป็นต้นไป ความยาวของลำหวายเฉลี่ย 15-18 ม. และมีน้ำหนักแห้งเฉลี่ย 45-50 กก.ต่อไร่ เมื่อหวายมีอายุ 7 และ 8 ปี สำหรับหวายใหญ่ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตเมื่ออายุ 9 ปี ได้แก่หวายกำพวน หวายโป่ง หวายงวย และหวายน้ำ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 1-2 ลำต่อกอ (ชนิดที่แตกกอ) ความยาวของลำหวายเฉลี่ย 7-9 ม. เฉลี่ยน้ำหนักแห้ง 307, 260, 214 และ 136 กก. ต่อไร่ตามลำดับ สำหรับหวายตะค้าทองเป็นการเก็บเกี่ยวผลผลิตเป็นปีที่ 3 ได้น้ำหนักแห้งเฉลี่ย 47 กก. ต่อไร่ การปลูกหวายทั้ง 5 ชนิดเป็นพืชร่วมมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต แลผลผลิตยางพาราแตกต่างกัน คือหวายใหญ่ชนิดที่แตกกอได้แก่หวายกำพวน มีผลต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตของยางพารามากที่สุด รองลงมาคือหวายน้ำและหวายโป่ง หวายงวยมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของยางน้อยที่สุด ส่วนหวายตะค้าทองมีผลกระทบต่อยางพารามากกว่าหวายงวยเล็กน้อย
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: สวนยาง
คำสำคัญ (EN): Rubber Plantation
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศึกษาการเจริญเติบโตและผลผลิตหวายบางพันธุ์ที่ปลูกเป็นพืชร่วมในสวนยาง
การยางแห่งประเทศไทย
2547
การเจริญเติบโตและผลผลิตของหวายบางพันธุ์ที่ปลูกร่วมกับยางพารา การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหวายเพื่อปลูกเป็นพืชร่วมในสวนยาง แบบจำลองการเจริญเติบโตของพืช: ทางเลือกใหม่เพื่อช่วยงานวิจัย แบบดั้งเดิม ศึกษาผลผลิตและรายได้ของสวนยาง และสวนผสมพืชร่วมยาง การศึกษาเปรียบเทียบการเจริญเติบโตและผลผลิตมะขาม 19 พันธุ์ อายุ 4 ปี ในสถานีวิจัยปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ศึกษาการเจริญเติบโตและผลผลิตหวายบางชนิดในสวนยางหลังเปิดกรีด การเจริญเติบโตและผลผลิตของขนุนพันธุ์ต่าง ๆ เมื่อปลูกร่วมกับยางพารา อิทธิพลของการปลูกหวายตะค้าทองและพืชร่วมบางชนิดที่ใช้เป็นค้างต่อการเจริญเติบโต ของยางพาราในเขตภาคใต้ตอนบน ผลของการให้น้ำชลประทานต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของยางพารา ปีที่1 การเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวโพดข้าวเหนียวในดินจังหวัดพัทลุง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก