สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิภาพการดูดซับสารตะกั่วที่ปนเปื้อนในดินโดยใช้ธูปฤาษี ‪
Thanawan Panich-pat - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิภาพการดูดซับสารตะกั่วที่ปนเปื้อนในดินโดยใช้ธูปฤาษี ‪
ชื่อเรื่อง (EN): (Typha Angustifolia)‬
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Thanawan Panich-pat
บทคัดย่อ: จากการศึกษาโดยใช้ธูปฤๅษีชนิดใบแคบ ทดสอบกับสารละลายตะกั่วที่ความเข้มข้นต่างๆ ดังนี้ 4,000, 8,000, 12,000, 16,000 และ 20,000 มก./ล. พบว่า ต้นธูปฤๅษีที่พบอยู่ทั่วไปในประเทศ ไทย มีคุณสมบัติเป็น hyperaccumulator ของตะกั่ว เนื่องจากมีค่าสัมประสิทธ์การสะสมพิษสูงถึง 109 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รากมีความสามารถดูดซับตะกั่วได้มากถึง 4,943 มก./กก. ที่ความเข้มข้น ของตะกั่วไนเตรท 16,000 มก./ล. เมื่อตรวจโครงสร้างละเอียดภายในเซลล์ภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิ เลคตรอนแบบส่องผ่าน พบว่า ในรากมีการสะสมตะกั่วมากในแวคิวโอล ส่วนในเหง้ามีตะกั่วสะสม อยู่ชิดผนังเซลล์ และในใบพบตะกั่วสะสมอยู่มากในคลอโรพลาสต์ แต่ไม่พบตะกั่วในนิวเคลียสของ ทั้งสามส่วนในต้นธูปฤๅษีที่ใช้ในการศึกษา นอกจากนี้ยังได้ศึกษาถึงการดูดซับสารตะกั่วเมื่อเติมสารแคดเมียมลงไปในดินที่ใช้ในการ ทดลองโดยใช้ธูปฤๅษีชนิดใบแคบ ทดสอบกับตะกั่วไนเตรทที่ความเข้มข้น 1,666 มก./ล.และ แคดเมียมไนเตรทที่ความเข้มข้น 38.5 มก./ล. เป็นเวลา 30 วัน พบว่า การสะสมของตะกั่วในยอด และรากของธูปฤๅษีลดลง แต่การสะสมของตะกั่วในดินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเติมสารแคดเมียมลง ในดิน ในทางกลับกัน ความเข้มข้นของแคดเมียมในดินลดลง 2 เท่าในเวลา 30 วัน อย่างไรก็ตาม ต้น ธูปฤๅษีมีแนวโน้มเพิ่มมวลชีวภาพตลอด 30 วัน และสะสมแคดเมียมในยอดและรากได้ลดลงเล็ก น้อย เมื่อเติมสารตะกั่วหลังจากทดลองผ่านไป 15 วัน เมื่อผ่านไป 30 วัน ต้นธูปฤๅษีสามารถสะสม แคดเมียมในรากได้เพิ่มขึ้น จากผลการทดลองนี้ชี้ให้เห็นถึง ปฏิกิริยาสัมพันธ์ระหว่างตะกั่วและ แคดเมียม ซึ่งเป็นไปได้ว่า การดูดซับตะกั่วของธูปฤๅษีถูกยับยั้ง เมื่อมีการเติมสารแคดเมียมลงไป
บทคัดย่อ (EN): its efficiency in root accumulation of lead ranged from 0.5% to 49% on a dry weight basis with a phytoextraction coefficient of 109 which can be considered as a lead hyperaccumulator. The most lead was found in the roots and was then transported to the leaves. In the soil contaminated with 16,000 mg/L of lead nitrate, the plants accumulated 4,943 mg of Pb/kg DW in the roots and 167 mg of Pb/kg DW in the leaves. At the end of the experiment, T. angustifolia exposed to 20,000 mg/L lead nitrate was examined by transmission electron microscope (TEM) and revealed that the most lead was accumulated in vacuoles but less in cytoplasm. Its rhizome deposited lead near the cell wall. There was lead accumulation within organelles of leaf, especially in chloroplasts. No significant amount of lead was found in the nucleus of any of the the three plant parts. Yet no growth retardation from lead was detected in samples in the study. In addition, a greenhouse study was conducted on phytoextraction and the interaction of lead and cadmium from contaminated soil by T. angustifolia. The plants were grown in sandy loam soil containing concentrations of lead nitrate of 1,666 mg/L and cadmium nitrate of 38.5 mg/L for 30 days. The trend of accumulation of lead and cadmium in the shoots and roots by T. angustifolia suggested interaction effects as lead concentrations decreased in 30 days. Moreover, the accumulation trend of lead in all soil suggested increased lead concentration when cadmium was added to the soil. On the contrary, soil cadmium concentration decreased two fold in 30 days. However, T. angustifolia showed a trend of increased biomass when all contaminated shoots and roots were compared. Cadmium uptake in shoot and root biomass slightly decreased when lead was added to the soil after treatment of 15 days, but cadmium uptake in root biomass increased after 30 days. The data suggests that the interaction between lead and cadmium was possible and that lead uptake was due to inhibition of lead uptake when cadmium was present.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=1610&obj_id=1068
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Typha Angustifolia
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: จากการศึกษาโดยใช้ธูปฤๅษีชนิดใบแคบ ทดสอบกับสารละลายตะกั่วที่ความเข้มข้นต่างๆ ดังนี้ 4,000, 8,000, 12,000, 16,000 และ 20,000 มก./ล. พบว่า ต้นธูปฤๅษีที่พบอยู่ทั่วไปในประเทศ ไทย มีคุณสมบัติเป็น hyperaccumulator ของตะกั่ว เนื่องจากมีค่าสัมประสิทธ์การสะสมพิษสูงถึง 109 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รากมีความสามารถดูดซับตะกั่วได้มากถึง 4,943 มก./กก. ที่ความเข้มข้น ของตะกั่วไนเตรท 16,000 มก./ล. เมื่อตรวจโครงสร้างละเอียดภายในเซลล์ภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิ เลคตรอนแบบส่องผ่าน พบว่า ในรากมีการสะสมตะกั่วมากในแวคิวโอล ส่วนในเหง้ามีตะกั่วสะสม อยู่ชิดผนังเซลล์ และในใบพบตะกั่วสะสมอยู่มากในคลอโรพลาสต์ แต่ไม่พบตะกั่วในนิวเคลียสของ ทั้งสามส่วนในต้นธูปฤๅษีที่ใช้ในการศึกษา นอกจากนี้ยังได้ศึกษาถึงการดูดซับสารตะกั่วเมื่อเติมสารแคดเมียมลงไปในดินที่ใช้ในการ ทดลองโดยใช้ธูปฤๅษีชนิดใบแคบ ทดสอบกับตะกั่วไนเตรทที่ความเข้มข้น 1,666 มก./ล.และ แคดเมียมไนเตรทที่ความเข้มข้น 38.5 มก./ล. เป็นเวลา 30 วัน พบว่า การสะสมของตะกั่วในยอด และรากของธูปฤๅษีลดลง แต่การสะสมของตะกั่วในดินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเติมสารแคดเมียมลง ในดิน ในทางกลับกัน ความเข้มข้นของแคดเมียมในดินลดลง 2 เท่าในเวลา 30 วัน อย่างไรก็ตาม ต้น ธูปฤๅษีมีแนวโน้มเพิ่มมวลชีวภาพตลอด 30 วัน และสะสมแคดเมียมในยอดและรากได้ลดลงเล็ก น้อย เมื่อเติมสารตะกั่วหลังจากทดลองผ่านไป 15 วัน เมื่อผ่านไป 30 วัน ต้นธูปฤๅษีสามารถสะสม แคดเมียมในรากได้เพิ่มขึ้น จากผลการทดลองนี้ชี้ให้เห็นถึง ปฏิกิริยาสัมพันธ์ระหว่างตะกั่วและ แคดเมียม ซึ่งเป็นไปได้ว่า การดูดซับตะกั่วของธูปฤๅษีถูกยับยั้ง เมื่อมีการเติมสารแคดเมียมลงไป
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ประสิทธิภาพการดูดซับสารตะกั่วที่ปนเปื้อนในดินโดยใช้ธูปฤาษี ‪
Thanawan Panich-pat
มหาวิทยาลัยมหิดล
2546
ประสิทธิภาพของบีงประดิษฐ์โดยใช้ธูปฤาษีและพุทธรักษา การทดสอบประสิทธิภาพของถ่านไม้ไผ่ในการใช้เป็นตัวดูดซับของเหลวไวไฟ การใช้คลื่นอุลตราโซนิคช่วยกระบวนการคายสารดูดซับ สำหรับระบบดูดซับแบบของแข็งที่ใช้ถ่านกัมมันต์และเมทานอล การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการดูดซับน้ำมันของเยื่อกระดาษและตัวดูดซับชนิดโพลีโพรไพลีน การใช้วัสดุดูดซับทางธรรมชาติในการกำจัดคราบน้ำมัน ประสิทธิภาพในการดูดซับโลหะหนักโครเมียมโดยกากกาแฟที่ผ่านการใช้ประโยชน์ การทนแล้งและประสิทธิภาพการดูดใช้ธาตุอาหารในข้าวโพด การศึกษาประสิทธิภาพการดูดซับแคดเมียมของตัวดูดซับชีวภาพที่ได้จากการตรึงชีวมวลสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล Sargassum polycystum ด้วยไคโตซานในระบบคอลัมน์ การพัฒนาและปรับปรุงวัสดุดูดซับราคาถูกเพื่อใช้ในการดูดซับสีย้อมรีแอคทีฟ และสีย้อมเบสิก การดูดซับแก๊สโพรเพนด้วยตัวดูดซับชนิดถ่านที่เตรียมจากกะลามะพร้าวโดยการกระตุ้นด้วยซิงก์คลอไรด์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก