สืบค้นงานวิจัย
ทดสอบการเพิ่มจำนวนต้นปลูกต่อไร่ในสวนยางขนาดเล็ก
ศุภมิตร ลิมปิชัย - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: ทดสอบการเพิ่มจำนวนต้นปลูกต่อไร่ในสวนยางขนาดเล็ก
ชื่อเรื่อง (EN): Observation on High Planting Density in Rubber Small Holding
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศุภมิตร ลิมปิชัย
บทคัดย่อ: เพื่อศึกษาการเพิ่มจำนวนต้นปลูกต่อไร่ให้เหมาะสมกับสวนยางขนาดเล็ก เพื่อให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนในการลงทุนสูงสุด ได้ดำเนินการปลูกยางในท้องที่จังหวัดสงขลา จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 14 และ 25 ไร่ วางแผนการทดลองแบบ RCB มี 3 วิธีการ และมี 3 ซ้ำ คือปลูกยางด้วยต้นยางชำถุงพันธุ์ RRIM 600 ด้วยระยะปลูก 3 x 7 เมตร หรือ 76 ต้นต่อไร่ (check) ระยะปลูก 3 x 6 เมตรหรือ 89 ต้นต่อไร่ และระยะปลูก 3 x 5 เมตรหรือ 107 ต้นต่อไร่ ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพอากาศของบริเวณที่ตั้งแปลงระหว่างปี 2535-2541 รวม 7 ปี พบว่าสภาพอากาศของบริเวณที่ตั้งแปลงทั้งสองมีความเหมาะสมต่อการปลูกยาง จึงทำให้การปลูกซ่อมต้นตายในช่วง 2 ปีแรกน้อยเฉลี่ยร้อยละ 2.1 โดยต้นยางที่ใช้ระยะปลูก 3 x 5 เมตร มีจำนวนต้นปลูกซ่อมน้อยที่สุดเฉลี่ยร้อยละ 1.9 ขณะที่ต้นยางที่ใช้ระยะปลูก 3 x 7 เมตร มีจำนวนต้นปลูกซ่อมมากที่สุดเฉลี่ยร้อยละ 2.4 การเจริญเติบโตของต้นยางแต่ละระยะปลูกในระยะ 5 ปีแรก ไม่มีความแตกต่างกัน โดยมีขนาดรอบลำต้นเมื่ออายุ 5 ปีเฉลี่ย 30.8 เซนติเมตร โดยที่ต้นยางที่ใช้ระยะปลูก 3 x 5 เมตร และ 3 x 6 เมตร เจริญเติบโตดีที่สุดเฉลี่ย 31.0 และ 31.0 เซนติเมตรตามลำดับ อัตราการเพิ่มการเจริญเติบโตต่อปีพบว่า ต้นยางที่ใช้ระยะปลูก 3 x 6 เมตร มีอัตราการเพิ่มสูงที่สุดเฉลี่ย 6.7 เซนติเมตรต่อปี การสำรวจจำนวนต้นปลูกสำเร็จในปีสุดท้ายของการทดลองพบว่า แต่ละระยะปลูกได้รับความสำเร็จสูงไม่แตกต่างกันเฉลี่ยร้อยละ 98.7 การวัดความหนาของเปลือกเดิมขณะต้นยางอายุ 5 ปี พบว่า ต้นยางที่ใช้ระยะปลูก 3 x 7 เมตร มีความหนาของเปลือกมากที่สุดเฉลี่ย 5.8 มิลลิเมตร ขณะที่ต้นยางที่ใช้ระยะปลูก 3 x 6 เมตร และ 3 x 5 เมตร ซึ่งมีความหนาแน่นของจำนวนต้นปลูกต่อไร่สูงขึ้น มีผลทำให้ความหนาของเปลือกลดลง การประเมินความรุนแรงของการเกิดโรคใบกับต้นยางที่ใช้ระยะปลูกแตกต่างกัน พบว่าในช่วง 5 ปีแรก ต้นยางแสดงอาการอ่อนแอต่อโรคใบร่วงไฟทอปโทราและคอลเลโทตริกัมไม่แตกต่งกันในแต่ละระยะปลูก และผลการศึกษาค่าใช้จ่ายในการปลูกยางตามระยะปลูกต่าง ๆ ตั้งแต่ปีที่ 1 - 5 พบว่าต้นยางที่ใช้ระยะปลูก 3 x 7 เมตร มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดรวมทั้งสิ้น 3,783.23 บาทต่อไร่ ส่วนต้นยางที่ใช้ระยะปลูก 3 x 6 เมตร และ 3 x 5 เมตร จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากระยะ 3 x 7 เมตร ร้อยละ 15.50 และ 37.20 ตามลำดับ โดยแต่ละระยะปลูกมีค่าใช้จ่ายในปีแรกสูงประมาณร้อยละ 46.7 - 47.5 ของค่าใช้จ่ายในช่วง 5 ปี ของการปลูก
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: ผลตอบแทนในการลงทุน
คำสำคัญ (EN): Small Holding
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ศุภมิตร ลิมปิชัย. "ทดสอบการเพิ่มจำนวนต้นปลูกต่อไร่ในสวนยางขนาดเล็กObservation on High Planting Density in Rubber Small Holding". การยางแห่งประเทศไทย. ม.ป.ป.

ศุภมิตร ลิมปิชัย. "ทดสอบการเพิ่มจำนวนต้นปลูกต่อไร่ในสวนยางขนาดเล็กObservation on High Planting Density in Rubber Small Holding". การยางแห่งประเทศไทย. ม.ป.ป.. Print.



TARR Wordcloud:
ทดสอบการเพิ่มจำนวนต้นปลูกต่อไร่ในสวนยางขนาดเล็ก
ศุภมิตร ลิมปิชัย
การยางแห่งประเทศไทย
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
ทดสอบการกรีดยางสำหรับสวนยางขนาดเล็ก ต้นทุนการผลิตยางของสวนยางขนาดเล็ก การผลิตยางของสวนยางขนาดเล็กในแหล่งปลูกยางเดิมและแหล่งปลูกยางใหม่ การพัฒนาระบบกรีดที่เหมาะสมกับเจ้าของสวนยางขนาดเล็ก การศึกษาลักษณะและคุณสมบัติของยางพาราบางพันธุ์หลังเปิดกรีดที่ปลูกในสวนยางขนาดใหญ่ การตลาดยางของชาวสวนยางรายย่อยในเขตภาคใต้ตอนบน สำรวจการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมของสวนยางขนาดเล็กในภาคใต้ เครื่องย่อยเศษกิ่งไม้ขนาดเล็ก การสำรวจโรคของยางพาราในแหล่งปลูกยางเดิมและแหล่งปลูกยางใหม่ ระดับธาตุอาหารในดิน และในต้นยางพารา ในเขตปลูกยางใหม่
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair