สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิภาพของระบบถังกรองชีวภาพในการลดระดับความเข้มข้นของสารอินทรีย์ระเหยจากถังเก็บ
Chawalit Jivacate - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิภาพของระบบถังกรองชีวภาพในการลดระดับความเข้มข้นของสารอินทรีย์ระเหยจากถังเก็บ
ชื่อเรื่อง (EN): An efficiency of the biofilter system to reduce total VOCs concentration of light cracker bottom storage tank
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Chawalit Jivacate
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของระบบถังกรองชีวภาพในการลดระดับความ เข้มข้นของสารอินทรีย์ระเหยในรูป Total VOCs จากถังเก็บ Light Cracker Bottom ในโรงงานของบริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTchem) สาขา 3 ถนน I-4 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาเรื่องกลิ่น โดยตรวจวัดระดับความเข้มข้นของ Total VOCs ก่อนเข้าและหลังออกจาก ระบบถังกรองชีวภาพเป็นระยะเวลา 15 วัน วันละ 4 ตัวอย่างรวมทั้งสิ้น 60 ตัวอย่างโดยใช้เครื่อง Multi RAE (USA.) Model :PGM-54 ซึ่งใช้หลักการ Photo Ionizing Detection (PID) จากผลการทดสอบพบว่าค่าประสิทธิภาพระบบถังกรองชีวภาพมีค่าเฉลี่ย 88.88 % (ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานเท่ากับ 17.89) โดยมีประสิทธิภาพต่ำสุดเท่ากับ 24.02 % และประสิทธิภาพสูงสุดเท่ากับ 100 % ซึ่งเมื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพเปรียบเทียบกับสมมติฐานพบว่ามีประสิทธิภาพไม่แตกต่างจาก 90 % อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.320) ข้อเสนอแนะจากการศึกษาครั้งนี้ ควรศึกษาสภาพแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของระบบ ถังกรองชีวภาพเพิ่มเติมและข้อมูลประสิทธิภาพที่นำมาใช้ในการศึกษาประสิทธิภาพของระบบโดยเฉลี่ย ควรเป็นข้อมูลในช่วงที่ประสิทธิภาพของระบบถังกรองชีวภาพคงที่และควรศึกษาให้ครอบคลุมระยะการ เจริญเติบโตของจุลินทรีย์ คือ Lag phase, Log phase, Stationary phase and Growth phase นอกจากที่ควร ประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานกับถังกรองชีวภาพด้วย
บทคัดย่อ (EN): The objective of this study was to design and construct the biofilter system to eliminate the volatile organic compounds (VOCs), which cause the nuisance odor. An experimental research design was employed for this study to test the efficiency of a designed and constructed biofilter system in reducing the concentration of total VOCs, which passed through the byproduct Q-1516 tank which is type of light cracker bottom tank (LCB). The experimental data were analyzed by descriptive statistics with Mean and S.D., with a one sample t-test to determine the efficiency of biofilter system. The findings revealed that the average efficiency of the biofilter system was 88.87 %. This is lowly close to the 90% prediction of efficiency made in the initial hypothesis. The recommendations of this study are that, it should be additionally studied on environment that affects to the efficiency of the biofilter system should also be studied more information on systemic efficiency with averaging of data should be introduced. Additionally, the growth stages of microorganism-lag phase, log phase, stationary phase and growth phase-should be studied.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3323&obj_id=5008
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Thailand
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของระบบถังกรองชีวภาพในการลดระดับความ เข้มข้นของสารอินทรีย์ระเหยในรูป Total VOCs จากถังเก็บ Light Cracker Bottom ในโรงงานของบริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTchem) สาขา 3 ถนน I-4 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาเรื่องกลิ่น โดยตรวจวัดระดับความเข้มข้นของ Total VOCs ก่อนเข้าและหลังออกจาก ระบบถังกรองชีวภาพเป็นระยะเวลา 15 วัน วันละ 4 ตัวอย่างรวมทั้งสิ้น 60 ตัวอย่างโดยใช้เครื่อง Multi RAE (USA.) Model :PGM-54 ซึ่งใช้หลักการ Photo Ionizing Detection (PID) จากผลการทดสอบพบว่าค่าประสิทธิภาพระบบถังกรองชีวภาพมีค่าเฉลี่ย 88.88 % (ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานเท่ากับ 17.89) โดยมีประสิทธิภาพต่ำสุดเท่ากับ 24.02 % และประสิทธิภาพสูงสุดเท่ากับ 100 % ซึ่งเมื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพเปรียบเทียบกับสมมติฐานพบว่ามีประสิทธิภาพไม่แตกต่างจาก 90 % อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.320) ข้อเสนอแนะจากการศึกษาครั้งนี้ ควรศึกษาสภาพแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของระบบ ถังกรองชีวภาพเพิ่มเติมและข้อมูลประสิทธิภาพที่นำมาใช้ในการศึกษาประสิทธิภาพของระบบโดยเฉลี่ย ควรเป็นข้อมูลในช่วงที่ประสิทธิภาพของระบบถังกรองชีวภาพคงที่และควรศึกษาให้ครอบคลุมระยะการ เจริญเติบโตของจุลินทรีย์ คือ Lag phase, Log phase, Stationary phase and Growth phase นอกจากที่ควร ประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานกับถังกรองชีวภาพด้วย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ประสิทธิภาพของระบบถังกรองชีวภาพในการลดระดับความเข้มข้นของสารอินทรีย์ระเหยจากถังเก็บ
Chawalit Jivacate
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
การศึกษาถังกรองชนิดสารกรองเคลื่อนที่เพื่อบำบัดน้ำเสียทางชีวภาพ สมรรถนะของระบบตัวนำชีวภาพร่วมกับถังปฏิกรณ์ชีวภาพเมมเบรนในการกำจัดไนโตรเจน ประสิทธิภาพของระบบน้ำเสียในฟาร์มสุกรแบบบ่อปรับสภาพตามธรรมชาติและแบบถังกรองไร้อากาศ การศึกษาการบำบัดน้ำชะมูลฝอยโดยระบบถังกรองไร้อากาศ ผลของถังแอนน๊อกซิกที่มีต่อการผลิตสลัดจ์และประสิทธิภาพการกำจัดของระบบเอเอส ผลของซัลเฟตต่อประสิทธิภาพการทำงานของถังปฏิกรณ์แบบไม่ใช้อากาศ การสลายแป้งให้เป็นน้ำตาลในปฏิกรณ์ชีวภาพแบบถังกวน ผลของชนิดถังปฏิกรณ์ต่อประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพจากกากตะกอนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม การศึกษาคุณสมบัติและความเหมาะสมการใช้งานถังบำบัดแบบวัสดุกรองชีวภาพเคลื่อนที่ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การประยุกต์ใยบวบเพื่อใช้เป็นวัสดุตัวกลางในระบบถังกรองชั้นตรึงฟิล์มจมน้ำ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก