สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาประสิทธิภาพของยาสมุนไพรแก้ไข้ 5 ตํารับ ต่อการยับยั้งโปรตีนตัวรับชนิด CD147 และการค้นหาสารออกฤทธิ์ด้วยเทคนิคการคัดสรรเสมือนจริง
กรรณิการ์ สุกะดีทัด - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: การศึกษาประสิทธิภาพของยาสมุนไพรแก้ไข้ 5 ตํารับ ต่อการยับยั้งโปรตีนตัวรับชนิด CD147 และการค้นหาสารออกฤทธิ์ด้วยเทคนิคการคัดสรรเสมือนจริง
ชื่อเรื่อง (EN): Study the efficacy of five Thai traditional antipyretic formulations towards the inhibition of CD147 receptor protein and discovery of active compounds by virtual screening technique
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กรรณิการ์ สุกะดีทัด
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบมาตรฐานทั้งทางกายภาพและทางเคมีของสมุนไพร ในตำรับยาแก้ไข้จำนวน 6 ตำรับ ประกอบด้วย เขียวหอม ยาขาว อำมฤควาที จันทน์ลีลา ห้าราก และใบมะขาม สกัดสารสำคัญจากยาตำรับต่างๆ ด้วยวิธีการต้มด้วยน้ำและแช่ด้วยแอลกอฮอล์ วัดปริมาณสารสกัดหยาบ ปริมาณสารฟีนอลิก ปริมาณสารฟลาโวนอยด์ และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ของสารสกัดยา พร้อมทั้งวัดความเป็นพิษต่อเซลล์และผลต่อขนาดเซลล์ของสารสกัดยาในเซลล์เยื่อบุปอด ชนิด BEAS-2B วัดประสิทธิภาพการยับยั้งโปรตีน CD147 ของสารสกัดยาในเซลล์ชนิดดังกล่าว ด้วยเทคนิค immunofluorescence พร้อมทั้งค้นหาสารออกฤทธิ์ในตำรับยาที่มีประสิทธิภาพผ่านกลไก การยับยั้งกระบวนการ glycosylation ด้วยเทคนิคการคัดสรรเสมือนจริง ผลการศึกษาพบว่า มีสมุนไพร จำนวน 5 ชนิดที่ปรากฏลักษณะโครมาโทแกรมคล้ายคลึงกับที่ระบุไว้ในตำรามาตรฐานสมุนไพรไทย ประกอบด้วย ดอกบุนนาค เกสรบัวหลวง โกฐพุงปลา มะขามป้อมและสมอภิเพก อีกทั้งยังพบว่า สารสกัดจากจันทน์ลีลาที่ได้จากการแช่ ให้ปริมาณสารสกัดหยาบสูงที่สุด (210.57±7.60 mg crude extract /g DW) และอำมฤควาทีที่ได้จากการต้มมีปริมาณฟีนอลิกสูงที่สุด เมื่อพิจารณาปริมาณฟีนอลิกทั้งหมด ต่อกรัมสารสกัดหยาบ (553.16±15.93 mg GAE/g crude extract) ในขณะที่อำมฤควาทีที่ได้จากการแช่ มีปริมาณฟีนอลิกสูงที่สุด เมื่อพิจารณาปริมาณฟีนอลิกทั้งหมดต่อกรัมพืชแห้ง (49.30±3.32 mg GAE/ g DW) สารสกัดจากเขียวหอมที่ได้จากการแช่ มีปริมาณฟลาโวนอยด์สูงที่สุดเมื่อพิจารณาปริมาณ ฟ ล า โ ว น อย ด ์ ท ั ้ ง ห ม ด ต ่ อ ก ร ั ม ส า ร ส ก ั ด ห ย า บ (1 0 3 . 7 0 ± 3.18 mg QEE/g crude extract) ในขณะที่สารสกัดอำมฤควาทีที่ได้จากการแช่และใบมะขามที่ได้จากการต้ม มีปริมาณฟลาโวนอยด์สูงที่สุด เมื่อพิจารณาปริมาณฟลาโวนอยด์ทั้งหมดต่อกรัมพืชแห้ง (81.50±5.46 mg QEE/ g DW และ 76.59±4.80 mg QEE/g DW ตามลำดับ) และยังพบว่าสารสกัดจากสมุนไพรทั้ง 6 ตำรับ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระใกล้เคียงกัน (IC50 เท่ากับ 0.03±0.01 ถึง 2.01±0.32 mg crude extract/ml) และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สูงกว่าวิตามินซี(IC50 เท่ากับ 9.07±1.50 mg/ml mg/l) อีกด้วย อีกทั้งสารสกัดจากยาทุกตำรับที่ได้จากการต้ม และการแช่ มีความเป็นพิษต่อเซลล์ในระดับต่ำและไม่มีผลต่อขนาดของเซลล์ ทั้งในสภาวะเซลล์ปกติ และสภาวะอักเสบ และยังพบว่าตำรับห้าราก อำมฤควาทีและใบมะขาม มีศักยภาพในการนำไปพัฒนา เป็นยารักษาโรคติดเชื้อผ่านกลไกการยับยั้งการทำงานของโปรตีนชนิด CD147 ได้ดีที่สุด อีกทั้งยังพบว่า สารส่วนใหญ่ที่พบในตำรับอำมฤควาทีมีแนวโน้มยับยั้งโปรตีนชนิด CD147 ผ่านกระบวนการ glycosylation ได้ดีกว่าสารที่พบในตำรับอื่น และสารส่วนใหญ่ที่มีฤทธิ์ดีในตำรับดังกล่าวเป็นสารประกอบฟีนอลิก
บทคัดย่อ (EN): This research aims to assess the qualitative medicinal plant materials of six Thai traditional antipyretic drugs namely Kheaw-hom, Ya-khaw, Um-ma-ruek-kha-wa-tee, Chan-ta-lee-la, Ha-rak and tamarind leave in term of physical and chemical. The active compounds from the drugs were extracted by decoction with water and maceration with alcohol. The contents of crude extracts, total phenolic and total flavonoid as well as antioxidant capacity were also evaluated. The cytotoxicity and cell sizes effects on bronchial epithelial cells (BEAS‐2B) of the extracts were also determined. The efficacy of the extracts on CD147 protein inhibition were evaluated by immunofluorescent technique. The active compounds with diminishing glycosylation process were discovered by virtual screening technique. The results revealed that five plant materials: Mesua ferrea L., Nelumbo nucifera Gaertn, Terminalia chebula Retz., Phyllanthus emblica and Terminalia bellirica (Gaertn.) Roxb. showed the proper chromatogram which were provided in Thai Herbal Pharmacopoeia. Chan-ta-lee-la extract obtained from maceration gave the highest content of crude extract ( 2 1 0 . 5 7 ± 7.60 mg crude extract /g DW). On the other hand, Um-ma-ruek-kha-wa-tee extract obtained from decoction contained the highest phenolic content by considering in term of crude extract (553.16±15.93 mg GAE/g crude extract) . Um-ma-ruek-kha-wa-tee extract obtained from maceration contained the highest phenolic content by considering in term of plant dry weight (49.30±3. 32 mg GAE/g DW) . In addition, Kheaw-hom extract obtained from maceration gave the highest flavonoid content by considering in term of crude extract (103. 70± 3.18 mg QEE/g crude extract) . Um-ma-ruek-kha-wa-tee extract obtained from maceration and tamarind leaf extract obtained from decoction gave the highest flavonoid content by considering in term of plant dry weight (81.50±5. 46 mg QEE/ g DW and 76.59±4. 80 mg QEE/g DW respectively) . Moreover, all extracts possessed the same value of antioxidant activity ( IC50 were 0.03±0.01 to 2.01±0.32 mg crude extract/ml) and possessed higher the activity than vitamin C (IC50 was 9 . 0 7±1 . 50 mg/l) . All extracts obtained from both decoction and maceration had slightly cytotoxicity and did not affect to cell sizes in both cell conditions (normal and inflammatory) . Moreover, Ha-rak, Um-ma-ruek-kha-wa-tee and tamarind leave had the most capability for developing effective drugs against pathogen through CD147 inhibition. Most of them, most compounds found in Um-ma-ruek-kha-wa-tee had a more tendency to inhibit CD147 through glycosylation process than other, and those compounds belong to a group of phenolic compounds.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: การคัดสรรเสมือนจริง
คำสำคัญ (EN): virtual screening
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยนครพนม
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาประสิทธิภาพของยาสมุนไพรแก้ไข้ 5 ตํารับ ต่อการยับยั้งโปรตีนตัวรับชนิด CD147 และการค้นหาสารออกฤทธิ์ด้วยเทคนิคการคัดสรรเสมือนจริง
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2564
การจัดทําฐานข้อมูลความแปรปรวนของลําดับนิวคลีโอไทด์ระดับจีโนมเพื่อค้นหาตําแหน่งสนิปส์ที่สัมพันธ์กับปริมาณโปรตีนหลักและสารออกฤทธิ์ในเมล็ดข้าวไทย การค้นหาเครื่องหมายพันธุกรรมในการคัดเลือกลักษณะทางเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มสมรรถภาพการผลิตโคไทยบราห์มัน การสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคในปลานิลและการค้นหาและทดสอบสารต้านหรือยับยั้งการสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อดังกล่าวจากสารสกัดธรรมชาติเพื่อนามาทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ การสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคในปลานิลและการค้นหาและทดสอบสารต้านหรือยับยั้งการสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อดังกล่าวจากสารสกัดธรรมชาติเพื่อนามาทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ ปีที่ 2 การสะสมไมโครพลาสติกในสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังบางชนิดในชายฝั่งทะเลประเทศไทย “การตรวจสอบความถูกต้องของชุดทดสอบทางจุลชีววิทยาเชิงคุณภาพของชุดตรวจดีเอ็น เอแบบแถบชนิด 3 in 1 สําหรับเชื้อซัลโมเนลลา ลิสทีเรีย และ แคมไพโลแบคเตอร์ในผลิตภัณฑ์อาหาร” การค้นหาตำรับยาแผนไทยที่มีศักยภาพในการบรรเทาอาการโรคโควิด-19 ผ่านการวิเคราะห์ตามทฤษฎีทางการแพทย์แผนไทย การเปรียบเทียบเทียบความเหมือนของสารออกฤทธิ์ที่เคยศึกษามาก่อน การใช้คอมพิวเตอร์โมเดลและการศึกษาฤทธ โครงการพัฒนาต้นแบบชุดวัดระดับน้ำเพื่อหาอัตราการซึมผ่านผิวดินรายงานผ่านแอปพลิเคชัน ผลเชิงป้องกันของโกฐจุฬาลัมพา (Artemisia vulgaris L.) ในการยับยั้งการก่อกลายของเซลล์เป็นเซลล์มะเร็ง การพัฒนาดีเอ็นเอไบโอเซนเซอร์เพื่อการตรวจหาเชื้อลิสทีเรียในผลิตภัณฑ์อาหาร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก