สืบค้นงานวิจัย
การวิจัยและพัฒนาระบบชีววิถีเพื่อผลิตทรัพยากรทางน้ำเป็นอาหารปลอดภัยและสอดรับกับการพัฒนาภูมิสังคมอย่างยั่งยืน
จงกล พรมยะ - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การวิจัยและพัฒนาระบบชีววิถีเพื่อผลิตทรัพยากรทางน้ำเป็นอาหารปลอดภัยและสอดรับกับการพัฒนาภูมิสังคมอย่างยั่งยืน
ชื่อเรื่อง (EN): Research and development on the “Biological-Ways-of-Life”system for productions of aquatic resources as food safety based on geosocial based sustainable development
บทคัดย่อ: การวิจัยและพัฒนาระบบชีววิถีเพื่อผลิตทรัพยากรทางน้าเป็นอาหารปลอดภัยและสอดรับกับการพัฒนาภูมิสังคมอย่างยั่งยืน โดยมีกระบวนการและผลการศึกษาทดลอง ดังนี้ ระบบชีววิถีเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้าในบ่อเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย บ่อเลี้ยงปลานิล และบ่อเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยร่วมกับปลานิล พบว่า คุณภาพน้าจากการเลี้ยงปลาในบ่อซีเมนต์โดยใส่ผักตบชวา 30 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่บ่อ โดยมีค่าความเป็นกรด-เบสของน้า อุณหภูมิน้า ความโปร่งแสงของน้า ปริมาณออกซิเจนละลายในน้า ปริมาณไนเตรท-ไนโตรเจน ปริมาณไนไตรท์-ไนโตรเจน ปริมาณแอมโมเนีย-ไนโตรเจน ปริมาณออโธฟอสเฟส-ฟอสฟอรัส อยู่ในระดับที่เหมาะสม และมีค่าเฉลี่ยของขนาดความยาวลาตัวและน้าหนักปลาแต่ละชนิดที่เลี้ยงร่วมกันมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญ (p0.05) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไบโอฟล็อคในบ่อเลี้ยงปลาเศรษฐกิจ โดยนาสารอินทรีย์คาร์บอนที่ประกอบด้วยกากน้าตาลเพียงชนิดเดียว กากน้าตาลผสมกับราละเอียด กากน้าตาลผสมกับแป้งข้าวเจ้า สัดส่วน 50 : 50 เติมในบ่อเลี้ยงปลาและควบคุมสัดส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C:N ratio) ที่ 15 ปล่อยปลากินพืชที่ความหนาแน่น 30 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นปลานิล ปลาตะเพียนขาวและปลายี่สกเทศในอัตราส่วน 3:1:1 ตัว และปลากินเนื้อ (ปลาดุกบิ๊กอุย) 40 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร ทดลองเลี้ยงปลากินพืชระยะเวลา 6 เดือน และปลากินเนื้อ 4 พบว่า ราละเอียดและแป้งข้าวเจ้า สามารถนามาใช้ร่วมกับกากน้าตาลในการสร้างปริมาณไบโอฟล็อคเพื่อเป็นทางเลือกของการเลี้ยงปลาในแบบหลากหลายชนิดได้ดีการวิจัยและพัฒนาระบบชีววิถีเพื่อผลิตทรัพยากรทางน้าเป็นอาหารปลอดภัยและสอดรับกับการพัฒนาภูมิสังคมอย่างยั่งยืน โดยมีกระบวนการและผลการศึกษาทดลอง ดังนี้ ระบบชีววิถีเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้าในบ่อเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย บ่อเลี้ยงปลานิล และบ่อเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยร่วมกับปลานิล พบว่า คุณภาพน้าจากการเลี้ยงปลาในบ่อซีเมนต์โดยใส่ผักตบชวา 30 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่บ่อ โดยมีค่าความเป็นกรด-เบสของน้า อุณหภูมิน้า ความโปร่งแสงของน้า ปริมาณออกซิเจนละลายในน้า ปริมาณไนเตรท-ไนโตรเจน ปริมาณไนไตรท์-ไนโตรเจน ปริมาณแอมโมเนีย-ไนโตรเจน ปริมาณออโธฟอสเฟส-ฟอสฟอรัส อยู่ในระดับที่เหมาะสม และมีค่าเฉลี่ยของขนาดความยาวลาตัวและน้าหนักปลาแต่ละชนิดที่เลี้ยงร่วมกันมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญ (p0.05) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไบโอฟล็อคในบ่อเลี้ยงปลาเศรษฐกิจ โดยนาสารอินทรีย์คาร์บอนที่ประกอบด้วยกากน้าตาลเพียงชนิดเดียว กากน้าตาลผสมกับราละเอียด กากน้าตาลผสมกับแป้งข้าวเจ้า สัดส่วน 50 : 50 เติมในบ่อเลี้ยงปลาและควบคุมสัดส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C:N ratio) ที่ 15 ปล่อยปลากินพืชที่ความหนาแน่น 30 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นปลานิล ปลาตะเพียนขาวและปลายี่สกเทศในอัตราส่วน 3:1:1 ตัว และปลากินเนื้อ (ปลาดุกบิ๊กอุย) 40 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร ทดลองเลี้ยงปลากินพืชระยะเวลา 6 เดือน และปลากินเนื้อ 4 พบว่า ราละเอียดและแป้งข้าวเจ้า สามารถนามาใช้ร่วมกับกากน้าตาลในการสร้างปริมาณไบโอฟล็อคเพื่อเป็นทางเลือกของการเลี้ยงปลาในแบบหลากหลายชนิดได้ดีการใช้อาร์โธรสไปร่า (สไปรูลิน่า) อินทรีย์จากการเพาะเลี้ยงในน้าทิ้งโรงอาหารอินทรีย์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อเปรียบเทียบการเจริญเติบโต ต้นทุนการผลิต และคุณภาพน้าในการอนุบาล ลูกปลานิล ในบ่อซีเมนต์กลม วางแผนการทดลองแบบ CRD แบ่งการทดลองเป็น 3 ชุดการทดลองๆ ละ3 ซ้า ดังนี้ T1 ให้อาหารผงทั่วไป T2 อาหารอาร์โธรสไปร่าสด และT3 อาหารอาร์โธรสไปร่าผง น้าหนักลูกปลาเริ่มต้น 0.18 กรัม/ตัว อัตราการปล่อย 100 ตัว/ตารางเมตร ให้ออกซิเจนตลอดการทดลอง ระยะเวลา 60 วัน พบว่า ลูกปลานิลที่ได้รับอาร์โธรสไปร่าผง (T3) มีอัตราการเจริญเติบโต น้าหนักที่เพิ่มขึ้น อัตราการเจริญเติบโตจาเพาะ อัตราการรอด และประสิทธิภาพการใช้โปรตีนดีกว่าทุกชุดการทดลอง (p<0.05) และนาผลผลิตสาหร่ายอาร์โธรสไปร่าไปเลี้ยงปลานิลในกระชัง น้าหนักปลานิลเริ่มต้น 4 กรัม/ตัว อัตราการปล่อย 20 ตัว/ตารางเมตร โดย T1 ปลานิลที่ได้รับอาหารปลาทั่วไป, T2 ปลานิลที่ได้รับอาหารทั่วไป+อาร์โธรสไปร่าสด 24% และ T3 ปลานิลที่ได้รับอาหารทั่วไป+อาร์โธรสไปร่าแห้ง 3% ให้อาหารในอัตรา 3-5% ของน้าหนักตัว/วัน เลี้ยงนาน 120 วัน พบว่า ปลานิลที่ T1 และ T3 มีอัตราน้าหนักเพิ่มขึ้น อัตราการเจริญเติบโต ประสิทธิภาพการใช้โปรตีน ต้นทุนการผลิต การกระตุ้นภูมิคุ้มกันแบบไม่จาเพาะ ดัชนีการเจริญพันธุ์ โปรตีน ไขมัน เบต้า- แคโรทีน ซี-ไฟโคไชยานิน และกรดไขมัน(GLA) ในเนื้อปลาสูงกว่าปลานิลที่ได้รับอาหารทั่วไป+อาร์โธรสไปร่าสด 24% การสร้างความมั่นคงด้านอาหารนับเป็นเรื่องจาเป็นสาหรับประชาชนบนพื้นที่สูง อาเภอกัลยาเชียงใหม่ มีการเลี้ยงปลาไน ปลาตะเพียน ปลานิล ปลานวลจันทร์เทศ ปลายี่สกเทศ และปลาลิ่น พบว่า การผลิตอาหารปลาในท้องถิ่นเพื่อให้สามารถลดต้นทุนการเลี้ยงและสร้างเกษตรปลอดภัยสามารถใช้ใบพืชท้องถิ่น ฟางข้าวหมักกับมูลวัวแห้ง ไส้เดือน และปลวก และสร้างเยาวชนนักอนุรักษ์เข้าใจและรู้จักสิ่งมีชีวิตในท้องถิ่น และประยุกต์ใช้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรของตัวเองได้ เพื่อสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้า และการจัดตั้งแหล่งอนุรักษ์ทรัพยากรทางน้า การศึกษาชีววิทยาบางประการของปลากระมังเพื่อใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงเพื่อพัฒนาเป็นอาหารปลอดภัย พบว่า ปลากระมังเพศผู้มีระยะการพัฒนาของอวัยวะสืบพันธุ์ตลอดปี และเพศเมียพบไข่สมบูรณ์และพร้อมจะผสมพันธุ์ระหว่างเดือนมิถุนายน–กันยายน และวางไข่ในช่วงเดือนมิถุนายน–ตุลาคม จากการเพาะพันธุ์แบบผสมเทียมฉีดกระตุ้นด้วยฮอร์โมนสังเคราะห์ พบว่า ไข่ปลามีการพัฒนาเข้าสู่ระยะคัพภะหลังจากฉีด 8-10 ชั่วโมง ระดับโปรตีนในอาหารที่เหมาะสมในการเลี้ยงลูกปลา อายุ 60-90 วัน คือ อาหารระดับโปรตีน 40% ให้ผลต่อการเจริญเติบโตดีที่สุด โดยมีอัตราการแลกเนื้อ 1.44?0.38 กิโลกรัมอาหารต่อน้าหนักปลา 1 กิโลกรัม อัตราการให้อาหาร 4.28?0.64% กรัมต่อวัน อัตราการเจริญเติบโตจาเพาะ 3.414?1.084% กรัมต่อวัน การเจริญเติบโตเฉลี่ยต่อวัน 0.012?0.003 กรัมต่อวัน และอัตราการรอดตาย 95.66?1.15% (p<0.05) คาสาคัญ : ปลาดุก ปลานิล อนุบาลและเลี้ยงปลานิล สารกลิ่นสาปโคลน ชีววิถี ผักตบชวา สารอินทรีย์คาร์บอน ไบโอฟล็อค อาร์โธรสไปร่า เจริญเติบโต ต้นทุน โภชนาการของเนื้อ และคุณภาพน้า อาหารปลอดภัย ความมั่นคงด้านอาหาร เยาวชนรักษ์ลาห้วย
บทคัดย่อ (EN): Research and development of biological systems to improved water quality in catfish ponds, Nile Tilapia ponds and Nile Tilapia with catfish ponds. Water qualities of this study, used the 30% of water hyacinth in the “Biological-Way-of Life” system for fish production in concrete tank culture. Results showed that all of parameters of water qualities in this study were appropriated for fish production. The comparison on averages of fish growth by fish length and fish weight between the treatment of each fish and the treatment of two fish mix-together showed highly significant in statistic (p<0.01). Comparison on Earthy-Musty Odors Concentrations in Hybrid walking catfish Meat From “Biological-Way-of-Life” System Ponds With and Without Nile tilapia (Oreochromis niloticus) for Food Safety. The experiment was assigned to 3 groups: 1) Nile tilapia only 2) hybrid walking catfish only and 3) Hybrid walking catfish and Nile tilapia. The result indicated that Hybrid walking catfish cultured with Nile tilapia using Biological-Way-Of-Life system 30% of water hyacinth can’t reduce the amount of mud smell on Geosmin and 2-Methylisoborneol type in both species of fish. The application of Biofloc Technology for commercial fish in polycultured and northern natived fish. The lead organic carbon sources, individual molasses, molasses combined with wheat flour and molasses combined with rice bran in 50:50 ratio. The carbon and nitrogen ratio (C: N ratio) was control with 15 ratio in value through culture period. The fishes was defined as herbivorous included tilapia, Silver barb and Rohu with 30 fishes per m2 by 3:1:1 ratio respectively while the Hybrid catfish was defined as carnivorous fish with 40 fishes per m2.The experiments were conducted within 4 and 6 months respectively.The water quality particularly dissolved oxygen was maintained at least 5 ppm and when the ammonia was reached 1 ppm external carbon sources were prepared and computed and diluted in the water immediately. Finally, this result showed that the combination of molasses and rice bran, wheat flour could be induce bioflioc in many fish species culture. The use of organic Arthrospira (Spirulina) from cultured in wastewater of organic cafeteria of Maejo University to compare growth, cost and water quality. The larval tilapias nursed were conducted in circular cement pond. Third treatments with three replications each CRD was applied including T1) Powder feed, T2) Raw Arthrospira and T3) Powder Arthrospira. Larval tilapias initially stocked were in weight 0.18 gm/fish and 100 fishes/m2. Data was collected every 15 day for 60-day period, with oxygen supplied all time. It can be concluded that fish nursed with T3 had average daily growth, weight rate, specific growth rate, survival rate and protein efficiency ratio higher than another reared (p<0.05). Production of organic Arthrospira to compare growth, cost and water quality. Theculture of tilapias were conducted in fish cages (1x1x1 m).The tilapias initially stocked were in weight 4 gm/fish and 20 fishes/m2. Third treatments with three replications each CRD was applied including T1) Common fish feed (CFF), T2) CFF+raw Arthrospira 24% and T3) CFF+Dry Arthrospira 3% and feeding rate for fish 3-5% /fish weight/day. Data was collected every 30 day for 120-day period, with oxygen supplied all time. It can be concluded that fish cultured with T1 and T3 had average daily growth, weight rate, protein efficiency ratio, production cost, Lysozyme activity, Gonadosomatic Index, protein, Fat, Beta-carotene, C-phycocyanin and GLA than this reared with T2. The water quality in tilapias culture in fish cages were standard level of general aquaculture. Food security is imperative for mountain people in Kalaya District Chiang-Mai, also an economic fish for protein and occupation have been cultured e.g. common carp, silver barb, tilapia, rohu, mrigal, and silver carp. It can be concluded that, local fish food are produce for reduce the cost of farming and to produce safe agriculture to organic farming e.g. local foliage, rice and dry cow manure, vermiculture, termites and leftover food. And apply for the conservation of their own resources to use an aquatic organisms and aquatic resources protected area. Study on biology are assential to assess culture on Pla Kra-mang Puntioplites proctozysron, setup to food safety for Local community. The result show the season for spawning in June to October. Including nursery technique for 4 levels on protein in aquaculture feed are 26, 28, 30 and 40% for 60-90 days. It was found average weight is 0.160?0.174 grams standard length is 2.605?0.261 cm. Feeding in 40% protein was the highest result on growth parameter, Feed conversion ratio 1.44?0.38 Feed rate 4.28?0.64% grams/day, Specific growth rate 3.414?1.084% grams/day, Daily weight gain 0.012?0.003 grams/day, and Survived rate 95.66?1.15% (p<0.05). Keywords : hybrid walking catfish, Nile tilapia, nursing and cultured tilapia, mud smell biological way of life system, water hyacinth, carbon sources, biofloc, Arthrospira, growth, cost, nutrition value of Tilapia flesh, water quality, Food safety, Food security and Stream Conservation by Youth
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: กัลยานิวัฒนา
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิจัยและพัฒนาระบบชีววิถีเพื่อผลิตทรัพยากรทางน้ำเป็นอาหารปลอดภัยและสอดรับกับการพัฒนาภูมิสังคมอย่างยั่งยืน
จงกล พรมยะ
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
30 กันยายน 2559
วิถีชีวิตแบบสโลว์ฟูดส์… เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี การวิจัยและพัฒนาระบบชีววิถีเพื่อเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย ( Clarias macrocephalus X Clarias gariepinus ) ร่วมกับปลานิล ( Oreochromis niloticus ) เป็นอาหารปลอดภัยและสอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โ การส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตข้าว เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน การวิจัยและพัฒนาระบบชีววิถีเพื่อเลี้ยงปลาดุกเชิงพาณิชย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางด้านอาหารปลอดภัย อาหารบำรุงสมอง อนาคตของอาหารโลกอยู่ในมือของคุณ การใช้โอโซนเพื่อความปลอดภัยอาหาร การพัฒนาการใช้ไหมอีรี่เป็นอาหารกุ้งก้ามกราม ศึกษาการปรับปรุงพันธุ์เห็ดและพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงเห็ดเพื่อลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตและอาหารปลอดภัย ระบบอิมัลชันในอาหารและความคงตัว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก