สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาปริมาณฟอสฟอรัสจากมูลสัตว์
จงจินต์ ผลประเสริฐ - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาปริมาณฟอสฟอรัสจากมูลสัตว์
ชื่อเรื่อง (EN): Quantification of phosphorus budgets in animal manures
บทคัดย่อ: การศึกษาการประเมินศักยภาพในการนำกลับของสารฟอสฟอรัสจากมูลสัตว์และแบบจำลองการชะล้างฟอสฟอรัสจากภาคปศุสัตว์ โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจากสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญ 5 ชนิด ประกอบไปด้วย โคเนื้อ โคนม สุกร ไก่เนื้อ และไก่ไข่ พบว่า การเคลื่อนตัวของสารฟอสฟอรัสจากภาคเกษตรกรรมเข้าสู่ภาคการทำปศุสัตว์ จะมาในรูปแบบของอาหารเลี้ยงสัตว์ทั้งหมด ซึ่งมีประมาณปีละ 159,051.28 ตันฟอสฟอรัส โดยแบ่งออกเป็น มาจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตโดยตรงที่ไม่ผ่านการแปรรูป 57,978.19 ตัน จากผลผลิตพืชที่ผ่านการแปรรูป 34,706.50 ตัน จากผลผลิตพลอยได้ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร 34,341.12 ตัน จากการนำเข้าอาหารสัตว์ 13,701.60 ตัน และจากวิตามินแร่ธาตุไดแคลเซียมฟอสเฟตที่เสริมเข้าไปในอาหารสัตว์อีกจำนวน 18,323.87 ตันฟอสฟอรัสต่อปี ซึ่งเมื่อสัตว์กินอาหารเหล่านี้เข้าไป ก็จะขับถ่ายมูลออกมาเฉลี่ยปีละ 131,134.92 ตันฟอสฟอรัส หรือคิดเป็นร้อยละ 82 ของปริมาณฟอสฟอรัสที่เข้าสู่ภาคปศุสัตว์ทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 18 จะมีการกระจายไปอยู่ในรูปแบบอื่นๆ เช่น ผลผลิตที่ได้จากภาคปศุสัตว์ (เนื้อสัตว์, นม, ไข่) ประมาณร้อยละ 4.6, ของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเลี้ยงสัตว์และกระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์สัตว์ที่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ประมาณร้อยละ 0.4, เกิดการสูญเสียในระหว่างการเลี้ยงสัตว์ที่ไม่สามารถระบุประเภทของการสูญเสียเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้ประมาณร้อยละ 12.8, และผลผลิตพลอยได้จากการใช้ประโยชน์มูลสัตว์ เช่นการนำไปเลี้ยงปลา ประมาณร้อยละ 0.2 นอกจากนี้ยัง พบว่า ปริมาณฟอสฟอรัสที่ได้จากมูลสัตว์กว่าร้อยละ 99 หรือประมาณ 130,256.22 ตันฟอสฟอรัส จะถูกหมุนเวียนกลับไปใช้เป็นปุ๋ยในพื้นที่เพาะปลูก เมื่อพิจารณาการเคลื่อนตัวของปริมาณสารฟอสฟอรัสในระดับประเทศ โดยแบ่งออกเป็นภาคเกษตรกรรม และภาคปศุสัตว์ พบว่า ภาคเกษตรกรรมและภาคปศุสัตว์จะมีความเกี่ยวเนื่องและมีความสัมพันธ์กัน ในรูปแบบของการหมุนเวียนของสารฟอสฟอรัสในระบบนิเวศน์ของมนุษย์ โดยเริ่มจากภาคเกษตรกรรม มีสารฟอสฟอรัสที่เข้าสู่ภาคเกษตรกรรม เพื่อทำการเพาะปลูกพืชชนิดต่างๆเฉลี่ยประมาณปีละ 316,556.46 ตันฟอสฟอรัส ซึ่งมาจากการนำเข้าแม่ปุ๋ยฟอสฟอรัสจำนวน 186,300.24 ตันฟอสฟอรัส (ร้อยละ 59) และมาจากมูลสัตว์จำนวน 130,256.22 ตันฟอสฟอรัส (ร้อยละ 41) เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว สารฟอสฟอรัสที่เข้าสู่ภาคเกษตรกรรมทั้งหมด จะเกิดการกระจายไปอยู่ใน 5 รูปแบบที่สำคัญ ดังต่อไปนี้ 1) ผลผลิตทางการเกษตรที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ (ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา ฯลฯ) ที่สำหรับการส่งออกประมาณปีละ 99,452.29 ตันฟอสฟอรัส คิดเป็นร้อยละ 30, 2) ผลผลิตทางการเกษตรที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ (ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา ฯลฯ) ที่สำหรับการส่งออกประมาณปีละ 72,835.20 ตันฟอสฟอรัส (ร้อยละ 22), 3) อาหารสัตว์ 127,025.81 ตันฟอสฟอรัส (ร้อยละ 38.4) , 4) ผลผลิตพืชชนิดอื่นๆในประเทศที่ไม่ได้ทำการศึกษารายละเอียดในครั้งนี้ 16,796.55 ตันฟอสฟอรัส (ร้อยละ 5.2), และ 5) การสูญเสียไปในรูปแบบต่างๆจำนวน 14,687.92 ตันฟอสฟอรัส ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้ การระบายออกจากพื้นที่เพาะปลูก 3,992.17 ตันฟอสฟอรัส (ร้อยละ 1.2) และการสูญเสียไปในระหว่างการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรประมาณ 10,695.75 ตันฟอสฟอรัส (ร้อยละ 3.2) ในส่วนของภาคปศุสัตว์อาหารสัตว์ที่ได้จากภาคเกษตรกรรมประมาณ 127,025.81 ตันฟอสฟอรัสนี้จะไปรวมไปอาหารสัตว์ที่นำเข้า และแร่ธาตุอาหารเสริมรวมจำนวน 32,025.47 ตันฟอสฟอรัส รวมทั้งสิ้นจำนวน 159,051.28 ตันฟอสฟอรัสต่อปีที่จะเข้าสู่ระบบการเลี้ยงสัตว์ (รายละเอียดในส่วนนี้ได้กล่าวสรุปไว้ในส่วนแรกของภาคปศุสัตว์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว) และเมื่อนำการเคลื่อนตัวของสารฟอสฟอรัสทั้งจากภาคเกษตรกรรมและภาคปศุสัตว์มาทำการต่อกันเป็นวงจร จะพบว่ามีจุดที่น่าสนใจคือ มีปริมาณสารฟอสฟอรัสที่สูญเสียออกไปจากระบบนิเวศน์ของมนุษย์โดยเปล่าประโยชน์กว่าร้อยละ 14.5 หรือประมาณ 35,844.08 ตันฟอสฟอรัสต่อปี ส่วนใหญ่จะถูกพัดพาไปโดยอิทธิพลของน้ำ ซึ่งสุดท้ายฟอสฟอรัสที่สูญเสียไปเหล่านี้จะไปสะสมอยู่รวมกันเป็นตะกอนบริเวณปากแม่น้ำต่างๆ และหากตะกอนมีการสะสมและทับถมกันเป็นจำนวนมาก เราก็จะสามารถเห็นได้ชัดเจน จากสันดอนที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา และถ้าเราสามารถนำกลับฟอสฟอรัสจากตะกอนแม่น้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ ก็จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากผลลัพธ์ที่ได้ของการศึกษา จึงมีข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้ 1. ปริมาณการสูญเสียของสารฟอสฟอรัสที่มีการระบายออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการระบายที่เกิดขึ้นในภาคเกษตรกรรมหรือในภาคปศุสัตว์ก็ตาม เป็นจุดหนึ่งที่ควรให้ความสนใจและมองข้ามไปไม่ได้ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2557 กลุ่มผู้ทำการวิจัย ได้มีโอกาสไปเก็บตะกอนแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ทำการขุดลอกโดยกรมเจ้าท่าบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาปริมาณสารฟอสฟอรัสที่สะสมอยู่ในตะกอนเหล่านั้น ซึ่งเปรียบได้กับเป็นจุดสุดท้ายที่สารฟอสฟอรัสจากการสูญเสียในแหล่งต่างๆจะมาสะสมอยู่ และผลการวิเคราะห์ พบว่าค่าความเข้มข้นของสารฟอสฟอรัสในตะกอนปากแม่น้ำเจ้าพระยามีค่าโดยเฉลี่ยเท่ากับ 109.23 มิลลิกรัมต่อลิตร และในแต่ละปีกรมเจ้าท่าจะทำการขุดลอกตะกอนบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาในปริมาณ 1,000,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเทียบเท่าปริมาณฟอสฟอรัส 109.23 ตันฟอสฟอรัสต่อปี และปริมาณสารฟอสฟอรัสในตะกอนแม่น้ำเหล่านี้ จะถูกนำไปทิ้งกลางทะเลในอ่าวไทย ซึ่งถือเป็นการทิ้งทรัพยากรไปโดยเปล่าประโยชน์ 2. ควรศึกษาแนวทางการนำกลับของฟอสฟอรัสจากตะกอนในแม่น้ำ ไม่ว่าจะเป็นจากแม่น้ำเจ้าพระยา หรือแม่น้ำสายสำคัญอื่นๆในประเทศ ซึ่งจากกรณีศึกษาตะกอนในปากแม่น้ำเจ้าพระยานี้ ปริมาณฟอสฟอรัสกว่า 109.23 ตันต่อปี จะถูกนำไปทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ หากมีวิธีการที่สามารถนำกลับมาได้ จะเทียบเท่าปริมาณหินฟอสเฟต 546 ตัน และคิดเป็นมูลค่าได้ประมาณ 1,989,625 บาท (จากราคาหินฟอสเฟต ตันละ 3,643 บาท) ฉะนั้นปริมาณสารฟอสฟอรัสที่สะสมอยู่ในตะกอนแม่น้ำต่างๆใน 25 ลุ่มน้ำของประเทศ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับการนำกลับมาใช้ประโยชน์ในการทำเกษตรกรรมการเพาะปลูก
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ: การรีไซเคิลฟอสฟอรัส
คำสำคัญ (EN): Phosphorus recycling
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาปริมาณฟอสฟอรัสจากมูลสัตว์
มหาวิทยาลัยมหิดล
30 กันยายน 2557
ปริมาณฟอสฟอรัสในอาหารสำเร็จรูปสำหรับปลานิลและวัตถุดิบอาหารสัตว์บางชนิด แก๊สชีวภาพพลังงานจากมูลสัตว์ อิทธิพลของชนิดและปริมาณของถ่านชาร์ต่อการดูดซับฟอสฟอรัส การปรับปรุงปริมาณฟอสฟอรัสในกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสีย และสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อผลิตปุ๋ยสูตรเร่งดอก การศึกษา ปริมาณ มูลค่าและคุณภาพสัตว์น้ํานําเข้า ทางด่านตรวจสัตว์น้ําจังหวัดระนอง ระหว่างปี พ.ศ. 2556-2559 การศึกษาชนิด ปริมาณ และมูลค่าการนำเข้าส่งออกสัตว์น้ำ ทางด่านตรวจสัตว์น้ำสะเดา ระหว่างปี พ.ศ. 2555-2558 การใช้ประโยชน์จากมูลสัตว์ที่ได้รับสิ่งเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมผลิตกรดซิตริคเป็นแหล่งอาหารต่อการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน :ประสิทธิภาพของปุ๋ยที่ผลิตต่อพืช ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินและการเติบโตของกาแฟพันธุ์อาราบิกาด้วยเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาร่วมกับหินฟอสเฟตอัตราต่างกัน การใช้ปุ๋ยเคมี มูลสัตว์ และโสนแอฟริกันเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวและปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน การตอบสนองต่อปุ๋ยยูเรียและปุ๋ยมูลสัตว์ของหญ้าเนเปียร์ในท้องที่จังหวัดชัยนาท
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก