สืบค้นงานวิจัย
การประมงเบ็ดราวปลาทูน่าในมหาสมุทรอินเดียโดยเรือประมงต่างชาติ ที่ขึ้นท่าจังหวัดภูเก็ตของประเทศไทย
สุภชัย รอดประดิษฐ์ - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: การประมงเบ็ดราวปลาทูน่าในมหาสมุทรอินเดียโดยเรือประมงต่างชาติ ที่ขึ้นท่าจังหวัดภูเก็ตของประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Tuna Longline Fishery in the Indian Ocean of Foreign Fishing Vessels Landing at Phuket Province of Thailand
บทคัดย่อ: ศึกษาการทำประมงเบ็ดราวปลาทูน่าในมหาสมุทรอินเดีย โดยรวบรวมข้อมูลจากเรือประมงต่างชาติที่ นำสัตว์น้ำมาขนถ่าย ณ ท่าเทียบเรือในจังหวัดภูเก็ต ระหว่างเดือนมกราคมถึงธันวาคม 2554 ได้แก่ เรือไต้หวัน เบลีซ มาเลเซีย อินเดีย และอินโดนีเซีย เรือมีขนาดความยาว 19-40 เมตร บรรจุปลาได้ 20-60 ตัน โครงสร้างเรือ เป็นไม้หรือไม้หุ้มด้วยไฟเบอร์กลาสใช้เบ็ด 1,300-1,500 ตัว/ลำใช้ทุ่นวิทยุในการระบุตำแหน่งของเบ็ดราว ใช้กว้านไฮดรอลิกทุ่นแรงในการกู้เบ็ด ใช้เหยื่อปลาทูแขกแช่แข็ง และปลานวลจันทร์ทะเลมีชีวิต มีลูกเรือ 8-11 คน/ลำ ทำการประมงบริเวณเส้นรุ้งที่ 2? ใต้ถึง 12? เหนือ และ เส้นแวงที่ 77? ถึง 95? 40? ตะวันออก มีการทำประมงมาก ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ปริมาณผลจับสัตว์น้ำทั้งหมด 5,543,244 กิโลกรัม ประกอบด้วย ปลาทูน่า 4,318,743 กิโลกรัม ปลากระโทงแทง 92,351 กิโลกรัม และปลาชนิดอื่นๆ 1,132,150 กิโลกรัม กลุ่มปลาทูน่า ประกอบด้วย ปลาทูน่าครีบเหลือง (Thunnus albacares) ปลาทูน่าตาโต (T. obesus) ร้อยละ 68.77 และ 9.14 ของสัตว์น้ำที่จับได้ทั้งหมด และปลาทูน่าครีบยาว (T. alalunga) จับได้น้อยกว่าร้อยละ 0.01 กลุ่มปลากระโทงแทง ประกอบด้วย ปลากระโทงแทงสีน้ำเงิน (Makaira mazara) ปลากระโทงแทงดำ (M. indica) ปลากระโทงแทงดาบ (Xiphias gladius) และปลากระโทงแทงลาย (Tetrapturus audax) ร้อยละ 0.57 0.45 0.44 และ 0.21 ตามลำดับ มีผลจับปลาอื่นๆ ร้อยละ 20.42 ประกอบด้วย ปลาฉลาม ปลาอินทรี ปลาขี้มัน (Ruvettus pretiosus) และ ปลากระโทงแทงร่ม (Istiophorus platypterus) ปลาที่นำมาขนถ่ายเป็นปลาที่ตัดแต่ง และเอาอวัยวะภายในออกแล้ว ปลาทูน่าครีบเหลืองมีน้ำหนักตัวอยู่ในช่วง 6-100 กิโลกรัม น้ำหนักเฉลี่ย 38.47?14.01 กิโลกรัม กลุ่มปลาที่ถูกจับได้มากสุด มีขนาดน้ำหนักตัว 30 กิโลกรัม ปลาทูน่าตาโตมีน้ำหนักตัว อยู่ในช่วง 9-118 กิโลกรัม น้ำหนักเฉลี่ย 38.46?17.78 กิโลกรัม กลุ่มปลาที่ถูกจับได้มากสุด มีขนาดน้ำหนักตัว 25 และ 27 กิโลกรัม ปลาทูน่าครีบยาว มีน้ำหนักตัวอยู่ในช่วง 8-39 กิโลกรัม น้ำหนักเฉลี่ย 14.25?3.09 กิโลกรัม กลุ่มปลาที่ถูกจับได้มากสุด มีขนาดน้ำหนักตัว 12 และ 13 กิโลกรัม มีการทำประมงทั้งสิ้น 375 เที่ยวเรือ ทำประมงเฉลี่ย 12.6 วัน/เที่ยวเรือ มีการวางเบ็ดเฉลี่ย 1,385 ตัว/วัน อัตราการจับสัตว์น้ำทั้งหมดเฉลี่ย เท่ากับ 14,781.98 กิโลกรัม/เที่ยวเรือ อัตราการจับสัตว์น้ำเฉลี่ย 847 กิโลกรัม/เบ็ด 1,000 ตัว อัตราการจับกลุ่มปลาทูน่า 660 กิโลกรัม/เบ็ด 1,000 ตัว กลุ่มปลากระโทงแทง 14 กิโลกรัม/เบ็ด 1,000 ตัว และกลุ่มปลาอื่นๆ 173 กิโลกรัม/ เบ็ด 1,000 ตัว ตามลำดับ ผลจับสัตว์น้ำทั้งหมดมีมูลค่า 766,788,686 บาท เป็นค่าตอบแทนเท่ากับ 2,044,770 บาท/เที่ยวเรือ การใช้เหยื่อต่างกันส่งผลให้ต้นทุนผันแปรต่างกัน เมื่อใช้เหยื่อปลานวลจันทร์ทะเลมีชีวิต และ ปลาทูแขกแช่แข็ง จะมีต้นทุนผันแปรรวม เท่ากับ 1,008,075 และ 970,575บาท/เที่ยวเรือ และกำไรเหนือ ต้นทุนผันแปร เท่ากับ 1,036,695 และ 1,100,695 บาท/เที่ยวเรือ หรือคิดเป็นร้อยละ 50.70 และ 53.83 ของ ต้นทุนผันแปรต่อเที่ยว ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Study on tuna longline fishery in the Indian Ocean by collecing data from foreign vessels landing in Phuket Province during January to December, 2011.The vessels were from Taiwan, Belize, Malaysia, India and Indonesia. The vessel were wood or wood-fiberglass which the lengths were 19-40 m and the storage capacitywere 20-60 tons. Numbers of employed hooks per vessel were 1,300-1,500. Radio bouys were used to identify the position of longline, and hydraulic winches were used for hauling. Baits were round scads and/or lived milkfish. There were 8-11 crew members per vessel. Fishing ground was in the latitude of 2?S to 12?N and longitude of 77? to 95? 40?E. The high fishing period was during November to March. The total catch were 5,543,244 kg that included 4,318,743 kg of tuna,92,351 kg of billfishes and 1,132,150 kg of other fishes. Tunas comprised yellowfin (Thunnus albacares) and bigeye (T. obesus) for 68.77 and 9.14%, and less than 0.01% of albacore. Billfishes comprised blue marlin (Makaira mazara), black marlin (M.indica), swordfish (Xiphias gladius) and striped malin (Tetrapturus audax) for 0.57, 0.45, 0.44 and 0.21%, respectively. Other fishes contributed 20.42% of sharks, king mackerel, oilfish (Ruvettus pretiosus) and sailfish (Istiophorus platypterus). Individual weights of yellowfin tuna were 6-100 kg; the average weight was 38.47?14.01 kg, and the modal weight was 30 kg. The individual weights of bigeye tuna were 9-118 kg; the average weight was 38.46?17.78 kg, and the modal weights were 25 and 27 kg. The individual weights of albacore were 8-39 kg; the average weight was 14.25?3.09 kg, and the modal weights were 12 and 13 kg. There weretotally 375 fishing trips with average 12.6 fishing day per trip and 1,385 employed hooks per day. The average catch was 14,781.98 kg per trip or 847 kg per 1,000 hooks. Catch rate of tunas, billfishes and other fishes were 660, 14 and 173 kg per 1,000 hooks, respectively. The total catch value was 766,788,686 baht. The average return was 2,044,770 baht/trip. The variable costs depending on the used baits of lived milkfish and frozen round scad and the averagevariable costs of which were 1,008,075 and 970,575 baht/trip, and the returns over the variable costs were 1,036,695 and 1,100,695 baht/trip which were 50.70% and 53.83% of the total variable cost per trip, respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: ภูเก็ต
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การประมงเบ็ดราวปลาทูน่าในมหาสมุทรอินเดียโดยเรือประมงต่างชาติ ที่ขึ้นท่าจังหวัดภูเก็ตของประเทศไทย
กรมประมง
30 กันยายน 2555
กรมประมง
องค์ประกอบชนิดและอัตราการติดเบ็ดของสัตว์น้ำจากเครื่องมือเบ็ดราวปลาทูน่าบริเวณ Ninety East Ridge ในมหาสมุทรอินเดีย Ninety East Ridge แหล่งประมงทางเลือกของการประมงไทยในมหาสมุทรอินเดีย สมุทรศาสตร์การประมงบริเวณแหล่งประมงปลาทูน่าในทะเลอันดามัน การทำประมงเบ็ดราวทูน่าของเรือประมงไทยบริเวณมหาสมุทรอินเดียระหว่างปี 2550-2554 ระดับความลึกของเบ็ดที่เหมาะสมในการทำประมงเบ็ดราวปลาผิวน้ำบริเวณ Ninety East Ridge ในมหาสมุทรอินเดีย อนุกรมวิธานของฟิล์มมี่เฟิร์นสกุล Hymenophyllum s.l. (Hymenophyllaceae) ในประเทศไทย ชีววิทยาบางประการของปลาทูน่าท้องแถบ (Katsuwonus pelamis) และปลาทูน่าครีบเหลือง (Thunnus albacares) ที่จับได้จากเครื่องมืออวนล้อมจับของเรือสำรวจประมงมหิดล บริเวณมหาสมุทรอินเดียตะวันออก การสำรวจทรพยากรสัตว์น้ำด้วยเครื่องมือเบ็ดราวปลาทูน่าบริเวณไหล่ทวีปในทะเลอันดามัน สภาวะทรัพยากรและการประมงปลาโอทางฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย ผลจับปลาทูน่าจากเรืออวนล้อมจับของไทยบริเวณมหาสมุทรอินเดียระหว่างปี 2548-2550
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก