สืบค้นงานวิจัย
รายงายวิจัยการเลี้ยงหอยนางรมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สาโรธ เนติธรรมกุล - มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
ชื่อเรื่อง: รายงายวิจัยการเลี้ยงหอยนางรมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สาโรธ เนติธรรมกุล
บทคัดย่อ: หอยนางรมในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นหนึ่งในของดีที่มีอยู่ในคำขวัญของจังหวัด ปัจจุบันมีการเลี้ยงมากในอ่าวบ้านดอนเขตพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอเมือง อำเภอไชยา แต่มีการเลี้ยงมากที่สุดในอำเภอกาญจนดิษฐ์ บริเวณปากครองท่าทองอุเท ปากครองบ้านปากกะแดะ ปากครองเฉงอะ จนถึงหน้ากะเดะแจะ การเลี้ยงประสบปัญหาในเรื่องมลภาวะ การตลาด ตลอดจนปัญหาการขโมยหอยนางรมที่เลี้ยงในฟาร์ม หอยนางรมที่นิยมเลี้ยงมี 2 พวก คือ หอยนางรมพันธุ์เล็ก ซึ่งเรียกตามภาษาพื้นบ้านว่าหอยปากจีบ หอยเจาะ หรือหอยอีรม และหอยนางรมพันธุ์ใหญ่ได้แก่หอยตะโกรมกรามขาวกับหอยตะโกรมกรามดำ การเลี้ยงมีมานานกว่า 50 ปี แต่ส่วนมากเลี้ยงกันแบบดั้งเดิม พบว่าแถบชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกได้แก่จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด มีการเลี้ยงหอยนางรมขนาดเล็กกันมาก สำหรับบริเวณฝั่งอาวไทยได้แก่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี และฝั่งทะเลอันดามันมีการเลี้ยงหอยตะโกรมกรามดำ ส่วนหอยตะโกรมกรามขาวมีการเลี้ยงกันมากในเขตจังหวัดระนอง และพังงา รูปแบบการเลี้ยงมีหลายรูปแบบเช่นการเลี้ยงบนก้อนหิน การเลี้ยงในกระบะไม้การเลี้ยงแบบใช้แท่งซีเมนต์ การเลี้ยงโดยใช้หลักไม้ การใช้หลอดหรือท่อซีเมนต์ การเลี้ยงแบบพวงอุบะแขวน และการเลี้ยงโดยวัสดุบางประเภทเช่นยางรถยนต์ กระเบื้องลอนคู่ อิฐ อ่าง ไห ตุ่มที่ชำรุด หรือแม้แต่การหว่านลงเลี้ยงกับพื้นดินในเขตพื้นที่สภาพพื้นดินแข็ง การเลี้ยงเป็นอาชีพในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเริ่มจริงจังในปี พ.ศ.2523 และมีการพัฒนาในเรื่องวิธีการเลี้ยงมาตลอดจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เกษตรกรผู้เลี้ยงนิยมใช้หลอดปูน ปล่องขนาดเล็กและเสาปูนในการเลี้ยง ซึ้งวัสดุที่ใช้เลี้ยงแต่ละอย่างต่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน หลอดปูนสะดวกในการจัดการทั้งในพื้นที่น้ำลึกและน้ำตื้น ปล่องซีเมนต์มีข้อดีที่มีพื้นที่ของปล่องให้หอยเกาะมากแต่มีน้ำหนักค่อนข้างมากยุ่งยากในการจัดการ ส่วนเสาปูนง่ายต่อการวางปักเสาและมีความทนทานแต่มีปัญหาในเรื่องการทับถมของดินโคลน การเลี้ยงหอยนางรมจะได้ผลต้องมรการทำความสะอาดอุปกรณ์การเลี้ยงก่อนช่วงฤดูกาลที่หอยวางไข่ การเลี้ยงหอยในพื้นที่น้ำลึกหอยจะเติบโตได้รวดเร็วแต่การจัดการจะยุ่งยากกว่า ความลึกของพื้นที่ที่พอเหมาะคือน้ำลึกประมาณหัวเข่าในช่วงที่น้ำลดลงต่ำสุด ปัญหาที่ตามมาในปัจจุบันคือการเลี้ยงหอยชนิดอื่นร่วมกับการเลี้ยงหอยนางรม ที่มีปัญหามากที่สุดคือหอยแมลงภู่ซึ่งมีความสามารถในการแย่งกินแพลงตอนระดับน้ำเดียวกับหอยนางรม ส่วนปัญหาที่เกิดจากการเลี้ยงหอยแครงเป็นปัญหาโดยอ้อมที่เกิดจากตะกอนโคลนที่เกิดจากการคราดหอยแครง และปัญหาปริมาณสัตว์น้ำที่ลดลงทำให้ได้รายได้เสริมของเกษตรกรจากการจับสัตว์น้ำลดลง ปัญหาอีกประการหนึ่งที่เกษตรกรผู้เลี้ยงหอยคาดไม่ถึงคือปัญหามลภาวะจากขนำเฝ้าหอยโดยการขับถ่ายของเสียลงในน้ำโดยตรง ส่งผลต่อนักท่องเที่ยวที่มาเห็นรูปแบบวิธีการเลี้ยง ทำให้นักท่องเที่ยวบางคนไม่กล้ารับประทานหอยนางรมและพูดกันต่อ หรือรับประทานไปแล้วเกิดท้องเสียจากเชื้อบางตัวที่หอยได้ดูดกินเข้าไป ส่งผลให้ราคาหอยนางรม ไม่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา แนวทางออกที่เป็นไปได้แบบยั่งยืน กลุ่มเกษตรกรจะต้องมีการรวบรวมกลุ่มและมีระบบบริหารจัดการในพื้นที่เลี้ยงหอยแบบมีส่วนร่วมที่ทุกกลุ่มทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ โดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการและการประชาสัมพันธ์ด้านการตลาดในภาพรวม ตลอดจนการส่งเสริมช่องทางกรมีรายได้ของเกษตรกรเป็นอาชีพเสริมอย่างต่อเนื่องจากกการทำประมงในฟาร์มหอยนางรม ตลอดจนการหาปู หาปลาในพื้นที่ ด้วยวิธีการฝึกอบรมเรื่องการอนุรักษ์ การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม การเพิ่มความสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ การหาความสมดุลในการเลี้ยงระหว่างหอยนางรม หอยแครง และหอยแมลงภู่ ตลอดจนธุรกิจการท่องเที่ยงในรูปฟาร์มสเตย์ ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะต้องสอดคล้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ครบวงจร
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
คำสำคัญ: วิจัย
คำสำคัญ (EN): 639.41
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
รายละเอียด: หอยนางรมในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นหนึ่งในของดีที่มีอยู่ในคำขวัญของจังหวัด ปัจจุบันมีการเลี้ยงมากในอ่าวบ้านดอนเขตพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอเมือง อำเภอไชยา แต่มีการเลี้ยงมากที่สุดในอำเภอกาญจนดิษฐ์ บริเวณปากครองท่าทองอุเท ปากครองบ้านปากกะแดะ ปากครองเฉงอะ จนถึงหน้ากะเดะแจะ การเลี้ยงประสบปัญหาในเรื่องมลภาวะ การตลาด ตลอดจนปัญหาการขโมยหอยนางรมที่เลี้ยงในฟาร์ม หอยนางรมที่นิยมเลี้ยงมี 2 พวก คือ หอยนางรมพันธุ์เล็ก ซึ่งเรียกตามภาษาพื้นบ้านว่าหอยปากจีบ หอยเจาะ หรือหอยอีรม และหอยนางรมพันธุ์ใหญ่ได้แก่หอยตะโกรมกรามขาวกับหอยตะโกรมกรามดำ การเลี้ยงมีมานานกว่า 50 ปี แต่ส่วนมากเลี้ยงกันแบบดั้งเดิม พบว่าแถบชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกได้แก่จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด มีการเลี้ยงหอยนางรมขนาดเล็กกันมาก สำหรับบริเวณฝั่งอาวไทยได้แก่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี และฝั่งทะเลอันดามันมีการเลี้ยงหอยตะโกรมกรามดำ ส่วนหอยตะโกรมกรามขาวมีการเลี้ยงกันมากในเขตจังหวัดระนอง และพังงา รูปแบบการเลี้ยงมีหลายรูปแบบเช่นการเลี้ยงบนก้อนหิน การเลี้ยงในกระบะไม้การเลี้ยงแบบใช้แท่งซีเมนต์ การเลี้ยงโดยใช้หลักไม้ การใช้หลอดหรือท่อซีเมนต์ การเลี้ยงแบบพวงอุบะแขวน และการเลี้ยงโดยวัสดุบางประเภทเช่นยางรถยนต์ กระเบื้องลอนคู่ อิฐ อ่าง ไห ตุ่มที่ชำรุด หรือแม้แต่การหว่านลงเลี้ยงกับพื้นดินในเขตพื้นที่สภาพพื้นดินแข็ง การเลี้ยงเป็นอาชีพในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเริ่มจริงจังในปี พ.ศ.2523 และมีการพัฒนาในเรื่องวิธีการเลี้ยงมาตลอดจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เกษตรกรผู้เลี้ยงนิยมใช้หลอดปูน ปล่องขนาดเล็กและเสาปูนในการเลี้ยง ซึ้งวัสดุที่ใช้เลี้ยงแต่ละอย่างต่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน หลอดปูนสะดวกในการจัดการทั้งในพื้นที่น้ำลึกและน้ำตื้น ปล่องซีเมนต์มีข้อดีที่มีพื้นที่ของปล่องให้หอยเกาะมากแต่มีน้ำหนักค่อนข้างมากยุ่งยากในการจัดการ ส่วนเสาปูนง่ายต่อการวางปักเสาและมีความทนทานแต่มีปัญหาในเรื่องการทับถมของดินโคลน การเลี้ยงหอยนางรมจะได้ผลต้องมรการทำความสะอาดอุปกรณ์การเลี้ยงก่อนช่วงฤดูกาลที่หอยวางไข่ การเลี้ยงหอยในพื้นที่น้ำลึกหอยจะเติบโตได้รวดเร็วแต่การจัดการจะยุ่งยากกว่า ความลึกของพื้นที่ที่พอเหมาะคือน้ำลึกประมาณหัวเข่าในช่วงที่น้ำลดลงต่ำสุด ปัญหาที่ตามมาในปัจจุบันคือการเลี้ยงหอยชนิดอื่นร่วมกับการเลี้ยงหอยนางรม ที่มีปัญหามากที่สุดคือหอยแมลงภู่ซึ่งมีความสามารถในการแย่งกินแพลงตอนระดับน้ำเดียวกับหอยนางรม ส่วนปัญหาที่เกิดจากการเลี้ยงหอยแครงเป็นปัญหาโดยอ้อมที่เกิดจากตะกอนโคลนที่เกิดจากการคราดหอยแครง และปัญหาปริมาณสัตว์น้ำที่ลดลงทำให้ได้รายได้เสริมของเกษตรกรจากการจับสัตว์น้ำลดลง ปัญหาอีกประการหนึ่งที่เกษตรกรผู้เลี้ยงหอยคาดไม่ถึงคือปัญหามลภาวะจากขนำเฝ้าหอยโดยการขับถ่ายของเสียลงในน้ำโดยตรง ส่งผลต่อนักท่องเที่ยวที่มาเห็นรูปแบบวิธีการเลี้ยง ทำให้นักท่องเที่ยวบางคนไม่กล้ารับประทานหอยนางรมและพูดกันต่อ หรือรับประทานไปแล้วเกิดท้องเสียจากเชื้อบางตัวที่หอยได้ดูดกินเข้าไป ส่งผลให้ราคาหอยนางรม ไม่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา แนวทางออกที่เป็นไปได้แบบยั่งยืน กลุ่มเกษตรกรจะต้องมีการรวบรวมกลุ่มและมีระบบบริหารจัดการในพื้นที่เลี้ยงหอยแบบมีส่วนร่วมที่ทุกกลุ่มทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ โดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการและการประชาสัมพันธ์ด้านการตลาดในภาพรวม ตลอดจนการส่งเสริมช่องทางกรมีรายได้ของเกษตรกรเป็นอาชีพเสริมอย่างต่อเนื่องจากกการทำประมงในฟาร์มหอยนางรม ตลอดจนการหาปู หาปลาในพื้นที่ ด้วยวิธีการฝึกอบรมเรื่องการอนุรักษ์ การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม การเพิ่มความสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ การหาความสมดุลในการเลี้ยงระหว่างหอยนางรม หอยแครง และหอยแมลงภู่ ตลอดจนธุรกิจการท่องเที่ยงในรูปฟาร์มสเตย์ ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะต้องสอดคล้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ครบวงจร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รายงายวิจัยการเลี้ยงหอยนางรมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
15 มกราคม 2550
รายงานการวิจัยเรื่องการทดลองใช้เปลือกหอยนางรมเพื่อเป็นส่วนผสมในน้ำเคลือบเซรามิกส์ รายงายผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เค็มไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี คุณภาพน้ำในแหล่งเลี้ยงหอยนางรมบริเวณอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี การศึกษาชีววิทยาของกบเลี้ยงและการพัฒนาการเลี้ยงกบในประเทศไทย : รายงานการวิจัย การพัฒนาการทำฟาร์มเลี้ยงกบและการใช้เทคโนโลยีในการเลี้ยงโดยวิธีผสมผสาน : รายงานวิจัย รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ยุทธวิธีการผลิตปลานิลรุ่นเชิงคุณภาพสำหรับการเลี้ยงในกระชังอย่างยั่งยืน : อุปกรณ์คัดขนาดลูกปลานิล เคลือบเซรามิกส์จากเปลือกหอยนางรม เปรียบเทียบการให้โพรไบโอติกในการเลี้ยงไก่ : รายงานผลการวิจัย รายงานการวิจัยการพัฒนาคุณภาพของอาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับเลี้ยงกุ้ง ผลของโซเดียมฟลูออไรด์ต่อเซลล์สร้างเส้นใยที่เพาะเลี้ยงจากเหงือก : รายงานผลการวิจัย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก