สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยและพัฒนาการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวเสาวรสหวาน
ธนะชัย พันธ์เกษมสุข - สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยและพัฒนาการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวเสาวรสหวาน
ชื่อเรื่อง (EN): Research and Development on Postharvest management of Passion fruit
บทคัดย่อ: การพัฒนาเทคโนโลยีการบ่มและยืดอายุการเก็บรักษาเสาวรสรับประทานสด Research and Development on Postharvest Management of Passion Fruit การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ทำในเสาวรสหวานพันธุ์เบอร์ 2 ซึ่งทำการปลูกที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย และเก็บเกี่ยวในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 (ฤดูหนาว) เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2552 (ฤดูร้อน) และสิงหาคม พ.ศ. 2552 (ฤดูฝน) วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้ คือ 1) พัฒนาเทคโนโลยีการบ่มเสาวรสให้มีสีผิวสม่ำเสมอเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค 2) ศึกษาวิธีการเก็บรักษาผลเสาวรสหวานที่เหมาะสมเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา การศึกษาครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 การทดลอง คือ 1) การหาวิธีการและชนิดของสารเพื่อเร่งกระบวนการสุกของเสาวรสหวาน 2) การหาชนิดของสารเคลือบผิวที่เหมาะสมสำหรับเสาวรสหวานภายหลังการบ่มให้สุก และ 3) การศึกษาผลกระทบของสารเคลือบผิวร่วมกับอุณหภูมิต่ำของผลเสาวรสหวานภายหลังกระบวนการบ่มให้สุก ผลการศึกษาพบว่าสารละลายเอธิฟอนที่มีความเข้มข้น 0.6 เปอร์เซ็นต์ มีความเหมาะสมที่สุดในการเร่งการสุกของเสาวรสหวาน โดยเสาวรสหวานทั้งหมดที่บ่มให้สุกด้วยเอธิฟอนความเข้มข้น 0.6 เปอร์เซ็นต์ มีการเปลี่ยนแปลงสีผิวอย่างสม่ำเสมอทั้งผล และไม่ทำให้ผลที่สุกเกิดอาการผิวผลยุบ ส่วนการเร่งการสุกของผลเสาวรสหวานโดยวิธีการที่ปฏิบัติอยู่ในปัจจุบันโดยการใช้แคลเซียมคาร์ไบด์เป็นแหล่งให้ก๊าซอะเซทธิลีนทำให้ผลเสาวรสหวานที่อยู่ในตะกร้าเดียวกันสุกอย่างไม่สม่ำเสมอโดยการสุกของผลขึ้นอยู่กับระยะทางระหว่างผลกับห่อของแคลเซียมคาร์ไบด์ที่วางอยู่ในตะกร้า และเมื่อผลสุกจากการบ่มด้วย แคลเซียมคาร์ไบด์ ผิวผลเกิดการยุบตัวระหว่างการสุก ซึ่งอาการยุบตัวนี้ไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามการใช้แคลเซียมคาร์ไบด์ทำให้เกิดการพัฒนาผิวผลเป็นสีแดงบนผิวชั้นนอกได้เร็วกว่าการใช้เอทธิฟอน สำหรับการเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมี, ปริมาณของแข็งทั้งหมดที่ละลายน้ำได้ ปริมาณกรดทั้งหมดที่ไทเทรตได้ และรสชาติของผลที่บ่มด้วยแคลเซียมคาร์ไบด์และเอทธิฟอน พบว่าไม่มีความแตกต่างกัน การบ่มผลที่เก็บเกี่ยวในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวด้วยแคลเซียมคาร์ไบด์ให้ผลที่คล้ายคลึงกัน แต่การบ่มผลในฤดูฝนด้วยแคลเซียมคาร์ไบด์ทำให้เกิดรอยแผลบนผิวผล หากผลเสาวรสหวานเปียกหรือมีหยดน้ำบนผิวผล แต่การบ่มด้วยเอทธิฟอนในทุกฤดูกาลไม่ทำให้เกิดรอยแผล อย่างไรก็ตามอุณหภูมิต่ำมีผลในการชะลอการสุกของผลเสาวรสหวานที่ทำการบ่มด้วยเอทธิฟอน สำหรับการเคลือบผิวผลพบว่า เสาวรสหวานมีกลิ่นผิดปกติ เมื่อเคลือบผิวผลด้วยสารที่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้น้อย ทำให้ผลเสาวรสเกิดการหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจนจึงมีกลิ่นผิดปกติเกิดขึ้น ในการศึกษาครั้งนี้พบว่า ROSY WAX เป็นสารเคลือบผิวเหมาะสมที่สุดสำหรับการเคลือบผิวเสาวรสหวาน ภายหลังการบ่มด้วยเอทธิฟอน หลังจากบ่มผลเสาวรสหวานด้วยเอทธิฟอนแล้วเคลือบผลด้วย ROSY WAX และนำไปเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส พบว่าผลที่เคลือบด้วย ROSY WAX มีผิวผลมันวาวกว่าที่ไม่ได้เคลือบ เมื่อเก็บรักษาผลเสาวรสหวานไว้นานกว่า 18 วัน ทำให้ผลเกิดอาการสะท้านหนาว (chilling injury) โดยบริเวณผิวผลเกิดการหลุดลอกเป็นแผ่นสีขาว และผลไม่มีการพัฒนาสีผิวจากสีเขียวเป็นสีแดง และผลที่เก็บรักษาไว้ในถุงพลาสติก (polyethylene) มีการสูญเสียน้ำหนักน้อยกว่าผลที่ไม่ได้เก็บในถุงพลาสติก (polyethylene) จากการศึกษาในครั้งนี้อาจสรุปได้ว่าการบ่มผลเสาวรสหวานด้วยเอทธิฟอนแล้วเคลือบผิวผลด้วย ROSY WAX และนำไปเก็บรักษาที่ 5 องศาเซลเซียส ผลเสาวรสหวานมีอายุการเก็บรักษาได้นาน 18 วัน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: เสาวรส
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ธนะชัย พันธ์เกษมสุข. "โครงการวิจัยและพัฒนาการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวเสาวรสหวานResearch and Development on Postharvest management of Passion fruit". สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน). 2552

ธนะชัย พันธ์เกษมสุข. "โครงการวิจัยและพัฒนาการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวเสาวรสหวานResearch and Development on Postharvest management of Passion fruit". สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน). 2552. Print.



TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยและพัฒนาการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวเสาวรสหวาน
ธนะชัย พันธ์เกษมสุข
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
30 กันยายน 2552
การวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมการข้าวกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ระยะที่ 2 โครงการวิจัยและพัฒนากระบวนการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวของผลิตผลโครงการหลวง โครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวสินค้าสำคัญของโครงการหลวง การวิจัยและพัฒนาการผลิตเสาวรสหวานปลอดโรค โครงการย่อยที่ 1: การศึกษาคัดเลือกพันธุ์และพัฒนาระบบปลูกเสาวรสหวานปลอดโรค โครงการวิจัยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว และการตลาดผักอินทรีย์โครงการหลวง โครงการวิจัยและพัฒนากระบวนการและการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวผลิตผลพืชเมืองหนาว โครงการศึกษาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวผลิตผลโครงการหลวง โครงการวิจัยวิธีการผลิตต้นแม่พันธุ์เสาวรสหวานปลอดโรคไวรัส โครงการศึกษาคัดเลือกพันธุ์และพัฒนาระบบปลูกเสาวรสหวานปลอดโรค โครงการศึกษาวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเสาวรสหวาน เบอร์ 2 ปลอดโรค
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair