สืบค้นงานวิจัย
การสำรวจการใช้เครื่องดำนาของเกษตรกรผู้จัดทำแปลงขยายพันธุ์ข้าวของศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ฤดูฝน ปี 2547
ศราวุธ ประดับคำ - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การสำรวจการใช้เครื่องดำนาของเกษตรกรผู้จัดทำแปลงขยายพันธุ์ข้าวของศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ฤดูฝน ปี 2547
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศราวุธ ประดับคำ
บทคัดย่อ: การศึกษาการสำรวจการใช้เครื่องดำนาของเกษตรกรผู้จัดทำแปลงขยายพันธุ์ข้าวของศูนย์ขยาย-เมล็ดพันธุ์พืชที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ฤดูฝน ปี 2547 ในครั้งนี้ เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปและเพื่อการสำรวจการใช้เครื่องดำนาของเกษตรกรผู้จัดทำแปลงฯ กลุ่มตัวอย่างเป็นเกษตรกรผู้จัดทำแปลงขยายพันธุ์ข้าว ที่ใช้เครื่องดำนาในฤดูฝน ปี 2547 ในเขตจังหวัดศรีสะเกษ จำนวนทั้งหมด 92 คน เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสัมภาษณ์เก็บรวบรวมข้อมูลหลังจากกลุ่มตัวอย่างเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละและระยะเวลาในการศึกษา ตุลาคม 2547 - กุมภาพันธ์ 2548 ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้ เกษตรกรผู้จัดทำแปลงฯ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 64.13 มีอายุระหว่าง 30 - 39 ปี ส่วนใหญ่จบประถมศึกษา คิดเป็นร้อยละ 85.87 มีสถานภาพสมรส คิดเป็นร้อยละ 92.39 มีสมาชิกในครัวเรือน 3 - 4 คน มีอาชีพหลักคือทำนา คิดเป็นร้อยละ 100 มีรายได้ครัวเรือนต่อปีมากกว่า 80,000 บาท ส่วนใหญ่มีที่ดินเป็นของตนเองคิดเป็นร้อยละ 66.30 มีพื้นที่ทำนา 11 - 15 ไร่ ส่วนใหญ่ใช้น้ำชลประทานในการเพาะปลูกคิดเป็นร้อยละ97.83 ส่วนใหญ่มีรถไถเดินตาม คิดเป็นร้อยละ 88.04 เกษตรกรผู้จัดทำแปลงฯ ส่วนใหญ่ไม่เคยใช้เครื่องดำนามาก่อนคิดเป็นร้อยละ 86.96 ส่วนใหญ่มีความเห็นว่ามีวิธีการเตรียมกล้า, การดูแลรักษาแปลงกล้า, การจัดหาอุปกรณ์เตรียม แปลงกล้า, การตัดกล้าและนำแผ่นกล้าไปใช้กับเครื่องดำนาไม่มีความยุ่งยาก คิดเป็นร้อยละ 97.83, 94.57, 100 และ 92.39 ตามลำดับ ส่วนใหญ่ต้องการเมล็ดพันธุ์สำหรับตกกล้าเพื่อนำไปใช้กับเครื่องดำนา จำนวน 6 - 7 กิโลกรัมต่อไร่คิดเป็นร้อยละ 98.91 เกษตรกรผู้จัดทำแปลงฯ ส่วนใหญ่เห็นว่าการปักดำด้วยเครื่องดำนามีข้อเสียคือต้นกล้าเล็กปักดำ ในน้ำลึกไม่ได้, ต้องใช้สารเคมีควบคุมกำจัดวัชพืช หอยเชอรี่และปู, ใช้ได้เฉพาะแปลงนาที่ควบคุมระดับน้ำได้เท่านั้นและต้องคอยดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษในระยะกล้าและหลังปักดำใหม่ ๆ คิดเป็นร้อยละ 72.83 ส่วนข้อดีคือประหยัดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน, ตรวจดูพันธุ์ปนได้ง่าย, ได้ผลผลิตมากกว่าเดิม, ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานและต้นข้าวเป็นแถวเป็นแนวสะดวกต่อการปฏิบัติดูแลรักษา คิดเป็นร้อยละ 53.26 เกษตรกรผู้จัดทำแปลงฯ ส่วนใหญ่มี ความพึงพอใจต่อการปักดำด้วยเครื่องดำนาปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 67.39 ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในด้านประหยัดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน คิดเป็นร้อยละ 76.09 และเกษตรกรผู้จัดทำแปลงฯ ส่วนใหญ่คิดว่าจะใช้เครื่องดำนาในฤดูต่อไปเพราะเห็นว่าประหยัดค่าใช้จ่ายด้านแรงงานและประหยัดเวลา คิดเป็นร้อยละ 82.61
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ปี 2547
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การสำรวจการใช้เครื่องดำนาของเกษตรกรผู้จัดทำแปลงขยายพันธุ์ข้าวของศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ฤดูฝน ปี 2547
กรมส่งเสริมการเกษตร
2548
ความพึงพอใจของเกษตรกรในการร่วมดำเนินการจัดทำแปลงขยายพันธุ์ข้าว ฤดูแล้งปี 2547 กับศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก การดำเนินงานแบบมีส่วนร่วมของเกษตรกรสมาชิกกลุ่มผู้จัดทำแปลงขยายพันธุ์ข้าว ฤดูฝน ปี 2546 ของศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่ การประเมินคุณภาพและผลผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วลิสง ไทนาน 9 ที่เกษตรกรจัดทำแปลงขยายพันธุ์ในฤดูแล้ง ปี 2547 ความพึงพอใจของเกษตรกรต่อการจัดทำแปลงขยายพันธุ์ข้าวสันป่าตอง 1 ฤดูฝน ปี 2547 ทัศนคติของเกษตรกรต่อการจัดทำแปลงขยายพันธุ์ข้าว ชัยนาท 1 ฤดูฝน ปี 2546 ของศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชที่ 19 จังหวัดชลบุรี ความพึงพอใจของเกษตรกรที่มีต่อการจัดทำแปลงขยายพันธุ์ข้าว กข 15 ฤดูฝน ปี 2546 ของศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชที่ 8 จังหวัดพะเยา ความคิดเห็นของเกษตรกรที่มีต่อการจัดทำแปลงขยายพันธุ์ถั่วลิสง ฤดูแล้ง ปี 2547 ของศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชที่ 18 จังหวัดสกลนคร การผลิตพริกของเกษตรกรอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ปี 2547 พฤติกรรมการควบคุมคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าวชัยนาท 1 ฤดูฝน ปี 2546 ของเกษตรกรแปลงขยายพันธุ์ศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชที่ 22 จังหวัดสุราษฎร์ธานี สภาพและความต้องการของเกษตรกรผู้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวของ ศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก