สืบค้นงานวิจัย
การใช้ประโยชน์ขยะกากแคลเซียมคาร์ไบด์ในการปรับปรุง คุณสมบัติของดินชั้นพื้นทาง
จิระยุทธ สืบสุข - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
ชื่อเรื่อง: การใช้ประโยชน์ขยะกากแคลเซียมคาร์ไบด์ในการปรับปรุง คุณสมบัติของดินชั้นพื้นทาง
ชื่อเรื่อง (EN): Utilization of Calcium Carbide Waste in the stabilization of Base Course
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จิระยุทธ สืบสุข
บทคัดย่อ: กากแคลเซียมคาร์ไบด์เป็นกากของเสียที่เหลือจากปฏิกิริยาเคมีในการผลิตก๊าซอะเซทีลีนซึ่งมีส่วนประกอบของแคลเซียมไฮรดรอกไซด์เป็นองค์ประกอบหลัก และดินเหนียวจัดเป็นวัสดุปอซโซลานตามธรรมชาติ (มีส่วนประกอบของซิลิกาและอลูมิน่า) ดังนั้น กากแคลเซียมคาร์ไบด์จึงสามารถนำมาปรับปรุงคุณสมบัติทางวิศวกรรมของดินเหนียวได้ งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากำลังของดินลูกรังที่ถูกปรับปรุงด้วยกากแคลเซียมคาร์ไบด์ ผลจากการทดสอบ พบว่า การผสมกากแคลเซียมคาร์ไบด์ในดินลูกรัง จะทำให้ดัชนีพลาสติกของดินลูกรังมีค่าลดลง ปริมาณน้ำที่เหมาะสมของดินลูกรังบดอัดมีค่าสูงขึ้น ตามการลดลงของหน่วยน้ำหนักดินแห้งสูงสุด ทุกๆปริมาณกากแคลเซียมคาร์ไบด์ กำลังอัดของดินตัวอย่างบดอัดที่ปริมาณความชื้นที่เหมาะสมมี ค่าสูงสุด คุณสมบัติทางวิศวกรรมของดินตัวอย่างในสภาวะแช่น้ำมีค่าต่ำกว่าดินตัวอย่างในสภาวะแห้ง อย่างไรก็ตาม การพัฒนากำลังอัด โมดูลัสยืดหยุ่น และ หน่วยแรงแบกทานของดินตัวอย่าง ทั้งในสภาวะแห้งและสภาวะแช่น้ำที่ปริมาณกากแคลเซียมคาร์ไบด์ในช่วง Active และ Inert โซนสามารถสร้างความสัมพันธ์เชิงเส้นด้วยกำลังที่อายุบ่ม 28 วัน เนื่องจากปฏิกิริยาปอซโซลานเป็นปฏิกิริยาหลักการพัฒนากำลัง จึงทำให้ โมดูลัสยืดหยุ่น หน่วยแรงแบกทาน และกำลังอัด ในสภาวะแห้งและแช่น้ำ ของดินลูกรังผสมกากแคลเซียมคาร์ไบด์ มีความสัมพันธ์กันในฟังก์ชั่นเชิงเส้น โดยไม่ขึ้นอยู่กับสภาวะแช่น้ำและสภาวะแห้ง สำหรับดินตัวอย่างลูกรังผสมกากแคลเซียมคาร์ไบด์หมุนเวียน ผลจากการทดสอบพบว่า ขนาดอนุภาคของเม็ดดินมีขนาดโตขึ้นเนื่องจาก ผลจากปฏิกิริยาปอซโซลาน การที่อนุภาคของตัวอย่างที่โตขึ้นทำให้เกิดการลดลงของการหดตัวเชิงเส้นและการบวมตัวอิสระของตัวอย่างหมุนเวียน ที่พลังงานการบดอัดและปริมาณกากแคลเซียมคาร์ไบด์ที่เท่ากัน หน่วยน้ำหนักดินแห้งของตัวอย่างดินตัวอย่างลูกรังผสมกากแคลเซียมคาร์ไบด์หมุนเวียนมีค่าต่ำกว่าดินลูกรังบดอัด เพราะเป็ นมาจากความแข็งแรงระหว่างอนุภาคของเม็ดดินจากปฏิกิริยาปอซโซลานต้านทานพลังงานในการบดอัด การพัฒนากำลังอัด ที่ปริมาณกากแคลเซียมคาร์ไบด์แตกต่างกัน สามารถสร้างความสัมพันธ์เชิงเส้นด้วยกำลังที่อายุบ่ม 7 และ 28 วัน ผลจากงานวิจัยนี้ แสดงถึงความเป็ นได้ในการนำกากแคลเซียมคาร์ไบด์มาทำการปรับปรุงดินสำหรับเป็นวัสดุงานทาง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
คำสำคัญ: ปฏิกิริยาปอซโซลาน
คำสำคัญ (EN): Pozzolanic reaction
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน
รายละเอียด: กากแคลเซียมคาร์ไบด์เป็นกากของเสียที่เหลือจากปฏิกิริยาเคมีในการผลิตก๊าซอะเซทีลีนซึ่งมีส่วนประกอบของแคลเซียมไฮรดรอกไซด์เป็นองค์ประกอบหลัก และดินเหนียวจัดเป็นวัสดุปอซโซลานตามธรรมชาติ (มีส่วนประกอบของซิลิกาและอลูมิน่า) ดังนั้น กากแคลเซียมคาร์ไบด์จึงสามารถนำมาปรับปรุงคุณสมบัติทางวิศวกรรมของดินเหนียวได้ งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากำลังของดินลูกรังที่ถูกปรับปรุงด้วยกากแคลเซียมคาร์ไบด์ ผลจากการทดสอบ พบว่า การผสมกากแคลเซียมคาร์ไบด์ในดินลูกรัง จะทำให้ดัชนีพลาสติกของดินลูกรังมีค่าลดลง ปริมาณน้ำที่เหมาะสมของดินลูกรังบดอัดมีค่าสูงขึ้น ตามการลดลงของหน่วยน้ำหนักดินแห้งสูงสุด ทุกๆปริมาณกากแคลเซียมคาร์ไบด์ กำลังอัดของดินตัวอย่างบดอัดที่ปริมาณความชื้นที่เหมาะสมมี ค่าสูงสุด คุณสมบัติทางวิศวกรรมของดินตัวอย่างในสภาวะแช่น้ำมีค่าต่ำกว่าดินตัวอย่างในสภาวะแห้ง อย่างไรก็ตาม การพัฒนากำลังอัด โมดูลัสยืดหยุ่น และ หน่วยแรงแบกทานของดินตัวอย่าง ทั้งในสภาวะแห้งและสภาวะแช่น้ำที่ปริมาณกากแคลเซียมคาร์ไบด์ในช่วง Active และ Inert โซนสามารถสร้างความสัมพันธ์เชิงเส้นด้วยกำลังที่อายุบ่ม 28 วัน เนื่องจากปฏิกิริยาปอซโซลานเป็นปฏิกิริยาหลักการพัฒนากำลัง จึงทำให้ โมดูลัสยืดหยุ่น หน่วยแรงแบกทาน และกำลังอัด ในสภาวะแห้งและแช่น้ำ ของดินลูกรังผสมกากแคลเซียมคาร์ไบด์ มีความสัมพันธ์กันในฟังก์ชั่นเชิงเส้น โดยไม่ขึ้นอยู่กับสภาวะแช่น้ำและสภาวะแห้ง สำหรับดินตัวอย่างลูกรังผสมกากแคลเซียมคาร์ไบด์หมุนเวียน ผลจากการทดสอบพบว่า ขนาดอนุภาคของเม็ดดินมีขนาดโตขึ้นเนื่องจาก ผลจากปฏิกิริยาปอซโซลาน การที่อนุภาคของตัวอย่างที่โตขึ้นทำให้เกิดการลดลงของการหดตัวเชิงเส้นและการบวมตัวอิสระของตัวอย่างหมุนเวียน ที่พลังงานการบดอัดและปริมาณกากแคลเซียมคาร์ไบด์ที่เท่ากัน หน่วยน้ำหนักดินแห้งของตัวอย่างดินตัวอย่างลูกรังผสมกากแคลเซียมคาร์ไบด์หมุนเวียนมีค่าต่ำกว่าดินลูกรังบดอัด เพราะเป็ นมาจากความแข็งแรงระหว่างอนุภาคของเม็ดดินจากปฏิกิริยาปอซโซลานต้านทานพลังงานในการบดอัด การพัฒนากำลังอัด ที่ปริมาณกากแคลเซียมคาร์ไบด์แตกต่างกัน สามารถสร้างความสัมพันธ์เชิงเส้นด้วยกำลังที่อายุบ่ม 7 และ 28 วัน ผลจากงานวิจัยนี้ แสดงถึงความเป็ นได้ในการนำกากแคลเซียมคาร์ไบด์มาทำการปรับปรุงดินสำหรับเป็นวัสดุงานทาง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การใช้ประโยชน์ขยะกากแคลเซียมคาร์ไบด์ในการปรับปรุง คุณสมบัติของดินชั้นพื้นทาง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
2558
ศึกษาการเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดินชุดโคราช การปรับปรุงคุณสมบัติด้านกำลังของวัสดุชั้นทางเดิมกากแคลเซียมคาร์ไบด์ด้วยเถ้าลอย การศึกษาเปรียบเทียบคุณสมบัติของดินและหินแร่ต่าง ๆ ในจังหวัดกำแพงเพชร และตากเพื่อใชในการผลิตเครื่องปั้นดินเผา อิฐดินซีเมนต์ผสมกากแคลเซียมคาร์ไบด์ ผลการคลุกฟางข้าวติดต่อกันที่มีต่อดินและผลผลิตข้าว การศึกษาสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชี การตอบสนองของข้าวสาลีต่อปุ๋ยฟอสเฟตสองชนิด 5 ระดับในดินชุดโคราช การศึกษาลักษณะลักษณะการแตกตัวของดินเนื่องจากไถดินดานชนิดสั่นที่ปลายหัวเจาะ ปริมาณการพังทลายของดินในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี : วิเคราะห์โดยใช้สมการการสูญเสียดินสากล ศึกษาเปรียบเทียบผลจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่างๆ ต่อการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีและกายภาพบางประการของดินในระบบการปลูกผักอินทรีย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก