สืบค้นงานวิจัย
การจัดการความรู้เพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดการวิสาหกิจชุมชน (มจก) อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
วรทัศน์ อินทรัคคัมพร - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การจัดการความรู้เพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดการวิสาหกิจชุมชน (มจก) อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง (EN): Potential evaluation community enterprise Samoeng District Chiangmai Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วรทัศน์ อินทรัคคัมพร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Woratat Intrakhamporn
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: โครงการวิจัยการประเมินศักยภาพวิสาหกิจชุมชน อาเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นงานวิจัยคุณภาพ รูปแบบวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action research) โดยเน้นกระบวนการวิจัยที่ให้ ความสาคัญกับการมีส่วนร่วม ของบุคคลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) กับสภาพปัญหาที่ ต้องการแก้ไข โดยที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการปรับปรุงปัญหาให้ดีขึ้น มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาถึง บริบทการดาเนินงานและศักยภาพของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน อาเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ตามเกณฑ์ การประเมินศักยภาพวิสาหกิจชุมชน 2) เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาศักยภาพตามการประเมิน ศักยภาพวิสาหกิจชุมชน 3) ศึกษาถึงสภาพปัญหาอุปสรรคและปัจจัยหนุนเสริม เพื่อเสนอแนะแนว ทางการพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจชุมชน มีวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) การสัมภาษณ์แบบกลุ่ม (focus group interview) และการสังเกตแบบมีส่วน ร่วม (participant observation) การตรวจสอบคุณภาพข้อมูลใช้วิธีสามเส้าด้านข้อมูล (Data Triangulation) โดยมีผู้ให้ข้อมูลหลักคือ ตัวแทนจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จานวน 79 กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน รวมเป็น 237 คน ผลจากการศึกษาพบว่า ตาบลบ่อแก้ว มีจานวนวิสาหกิจชุมชน ทั้งหมดจานวน 15 กลุ่ม เกณฑ์การประเมินศักยภาพวิสาหกิจชุมชน อยู่ในระดับดี 7 กลุ่ม และระดับปานกลาง 8 กลุ่ม ตาบล แม่สาบ มีจานวนวิสาหกิจชุมชน ทั้งหมดจานวน 15 กลุ่ม เกณฑ์การประเมินศักยภาพวิสาหกิจ ชุมชน อยู่ในระดับดี 8 กลุ่ม และระดับปานกลาง 7 กลุ่ม ตาบลยั้งเมิน มีจานวนวิสาหกิจชุมชน ทั้งหมด จานวน 9 กลุ่ม เกณฑ์การประเมินศักยภาพวิสาหกิจชุมชนอยู่ในระดับดี 3 กลุ่ม และระดับปานกลาง 6 กลุ่ม ตาบลสะเมิงเหนือ มีจานวนวิสาหกิจชุมชน ทั้งหมดจานวน 28 กลุ่ม เกณฑ์การประเมิน ศักยภาพวิสาหกิจชุมชนอยู่ในระดับดี 7 กลุ่ม และระดับปานกลาง 21 กลุ่ม ตาบลสะเมิงใต้มีจานวน วิสาหกิจชุมชน ทั้งหมดจานวน 27 กลุ่ม เกณฑ์การประเมินศักยภาพวิสาหกิจชุมชนอยู่ในระดับดี 5 กลุ่ม และระดับปานกลาง 22 กลุ่ม ในประเด็นการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาศักยภาพตามการ ประเมินศักยภาพวิสาหกิจชุมชน อาเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่. พบว่าเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมกัน โดยใช้กลุ่มที่ผ่านการประเมินศักยภาพวิสาหกิจชุมชนในเกณฑ์ระดับดี จานวน 30 กลุ่ม เป็นพี่ เลี้ยงการถ่ายทอดประสบการณ์และร่วมแลกเปลี่ยน ใน 6 ประเด็น คือ ทิศทางของวิสาหกิจชุมชน การวางแผนการดาเนินงานวิสาหกิจชุมชน การบริหารตลาด การจัดการความรู้และข้อมูลข่าวสาร การบริหารสมาชิกวิสาหกิจชุมชน กระบวนการจัดการสินค้าและบริการ สาหรับแนวทางการพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจชุมชน อาเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ สรุป ได้ดังนี้1. การทาให้ทุกฝ่ายมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประเมิน รวมไปถึงการสร้างให้เกิด ทัศนคติเชิงบวกเป็นพื้นฐานที่สาคัญซึ่งจะนาไปสู่การเอื้อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันและนาไปสู่ การพัฒนาการดาเนินงานวิสาหกิจชุมชนอย่างแท้จริง 2. ควรมีการพัฒนาศักยภาพทีมพี่เลี้ยง เช่น ทักษะการทาหน้าที่เป็นผู้นาการสนทนากลุ่ม จะ ช่วยให้กระบวนการประเมินศักยภาพวิสาหกิจชุมชนได้ข้อมูลเชิงลึก นาไปสู่การพัฒนาศักยภาพ วิสาหกิจชุมชนได้อย่างตรงประเด็นและเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง 3. ควรมีการสร้างต้นแบบการเรียนรู้หรือจัดให้มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของกลุ่ม วิสาหกิจชุมชน ในระดับอาเภอ 4. สานักงานเกษตรระดับอาเภอ ควรมีการสร้างกลไกและกระบวนการกากับติดตามเพื่อหนุน เสริมให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน มีการนาผลประเมินศักยภาพที่ได้รับรายงานไปใช้ในการพัฒนากลุ่มวิสา กิจชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ต่อเนื่อง และครอบคลุมทุกกลุ่ม 5.สานักงานเกษตรระดับอาเภอ ควรมีบทบาทในการเชื่อมประสานให้เกิดภาคีเครือข่าย ความร่วมมือระหว่างกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกับหน่วยงานสถาบันการศึกษา และสถานประกอบการ ภาคเอกชน ที่มีอยู่ในพื้นที่หรือใกล้เคียง เพื่อให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการดาเนินงาน ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในทุกด้าน
บทคัดย่อ (EN): This study employed action research putting the importance on stakeholder participation for improving problems. The objectives went to: 1) explore the context of group operation and potential of community enterprises in Samoeng district, Chiang Mai province; 2) propel potential development accordance with potential assessment of the community enterprises; and 3) explore problems encountered and supporting factors for giving suggestions about guidelines for potential development. Data were collected through in-depth interview, focus group discussion and participatory observation. Data triangulation was used for checking quality of obtained data. From 237 key informants (79 groups, 3 persons each). Results of study revealed that Borkaew sub-district had 15 community enterprise groups 7 groups were at a good level and 8 groups were at a fair level. Marsarb sub-district had 15 community enterprise groups 8 groups were at a good level and 7 groups were at a fair level. Yangmeon had 9 community enterprise groups 3 groups were at a good level and 6 groups were at a fair level. Samoeng Nua had 28 community enterprise groups 7 groups were at a good level and 21 groups were ate a fair level. Samoeng Tai had 27 community enterprise groups 5 groups were at a good level and 22 groups were at a moderate level. For the propelling of potential development, there was common leaning exchange in which 50 good level of the community enterprise acted as a trainer. This was under 6 aspects: direction of the community enterprise, operational planning, management of the community enterprise members, and process of product and service management. The following were guidelines for potential development of the community enterprise: 1. All concerned parties must have knowledge and understanding about an assessment as well as positive attitudes leading to the occurrence of common learning exchange. 2. Potential of the trainers must be developed such as various skills of leadership for community enterprise development.3. A learning model must be constructed and a common learning exchange venue must be prepared. 4. The district Agriculture office should have a process to supervise and monitor the community enterprise operation. 5. The district Agriculture office should play roles in collaboration and operation of network of concerned agencies for propelling operation of the community enterprise.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: เชียงใหม่
คำสำคัญ (EN): manage community enterprises
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการความรู้เพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดการวิสาหกิจชุมชน (มจก) อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2562
ความรู้ของนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรระดับอำเภอต่อวิสาหกิจชุมชน แนวทางการจัดการความรู้ที่ได้มาตรฐานระดับสากล การบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรในจังหวัดเชียงใหม่ กระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพการจัดการเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ วิสาหกิจชุมชน อาเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในการดำเนินงานวิสาหกิจชุมชน : กรณีโรงสีชุมชนครบวงจรตำบลไก่คำ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ กระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาให้เกิดช่องทางการตลาดอิเล็คทรอนิคส์ วิสาหกิจชุมชน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ กลยุทธ์การบริหารจัดการธุรกิจการท่องเที่ยวโดยชุมชนบนพื้นที่สูงในจังหวัดเชียงใหม่ ประโยชน์ของการจัดการความรู้ เครื่องมือในการจัดการความรู้ บทบาทของ IT ต่อการจัดการความรู้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก