สืบค้นงานวิจัย
เซลล์พันธุศาสตร์ของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกในประเทศไทย
Thavorn Supaprom - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: เซลล์พันธุศาสตร์ของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกในประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Cytogenetics of amphibians in Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Thavorn Supaprom
บทคัดย่อ: การวิเคราะห์ไมโททิกคาริโอไทป์ของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกจำนวน 33 ชนิด ที่เก็บจาก ประชากรในธรรมชาติในประเทศไทย โดยการย้อมสี Giemsa และย้อมแถบโครโมโซมหลังจาก เตรียมโครโมโซมด้วยวิธี in vivo colchicine treatment สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกจำแนกออกได้ 5 กลุ่ม คือ 1) อึ่งกราย 4 ชนิด 2) คางคก 4 ชนิด 3) กบเขียด 15 ชนิด 4) ปาด 2 ชนิด 5) อึ่ง 8 ชนิด ใน จำนวนนี้ มีจำนวนโครโมโซมแบบดิพลอยด์ 4 แบบ คือ 2n=22 2n=24 2n=26 และ 2n=28 เมื่อ วิเคราะห์โครโมโซมอย่างละเอียดทั้ง 33 ชนิด พบว่า มีความผันแปรในขนาด รูปร่าง และ ตำแหน่ง ของ chromosome marker โครโมโซมคู่ที่ 1 ถึง 5 มีขนาดใหญ่ และมีลักษณะอนุรักษ์ทางด้านรูปร่าง ค่อนข้างสูง ส่วนโครโมโซมที่เหลือคู่อื่นๆ มีขนาดเล็ก และมีรูปร่างแตกต่างกันออกไป พบ chromosome marker ที่มีความจำเพาะในแต่ละชนิดในรูปแบบ secondary sonstriction หรือ โครง สร้างพิเศษ เช่น ปุ่มยื่น ทั้งในกลุ่มโครโมโซมขนาดใหญ่และขนาดเล็ก คาริโอไทป์ของสัตว์พวกนี้มี ความแตกต่างกันในจำนวนของกลุ่มโครโมโซมที่มีขนาดใหญ่และกลุ่มโครโมโซมที่มีขนาดเล็ก ยก เว้นในพวกกบเขียดและคางคก ไม่พบโครโมโซมเพศในสัตว์ที่ทำการศึกษา แต่พบตำแหน่ง nucleolar organizer บนโครโมโซมเพียงคู่เดียว และพบการกระจายของคอนสทิทิวทีฟเฮเทโร โครมาตินบริเวณตำแหน่งเซนต์โตรเมีย บริเวณปลายสุดและภายในแขนของโครโมโซม เนื่องจาก โครโมโซมมีการหดตัวมากเกินไป จึงทำให้การชักนำให้เกิดแถบแบบจีด้วยเอนไซม์ทริปชินเกิดขึ้น ได้ไม่ดี โครงสร้างพันธุกรรมในระดับโครโมโซมของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกในประเทศไทยยัง อยู่ในสภาพอนุรักษ์สูงมากโดยเฉพาะในพวกคางคก และกบเขียด นอกจากนี้ยังพบความผันแปร ของโครโมโซมภายในชนิดเดียวกันในประชากรธรรมชาติอีกด้วย ข้อมูลทางสัณฐานวิทยาและ เซลล์พันธุศาสตร์ ทำให้ทราบสายสัมพันธ์ทางพันธุกรรมตามสายวิวัฒนาการของสัตว์สะเทินน้ำ สะเทินบกในประเทศไทย
บทคัดย่อ (EN): and 5) 8 species of microhylid frogs. There were 4 diploid chromosome number (2n) groups: 22, 24, 26 and 28. Detailed study of karyotypes of 33 anuran species exhibited variation in size, shape of chromosomes and the position of chromosome markers. Chromosome Nos. 1-5 of all anuran species investigated were mostly large in size and appeared to be highly conserved. The remaining mitotic chromosomes were relatively small and variable in size. Species-specific chromosome markers were determined and included secondary constriction or special structures, such as satellite or knob-like projections, on both large and small chromosomes. Karyotypes of all species investigated differed in the localization of the step between the large and the small chromosome groups in each karyotype, except that most ranid frogs displayed 5+8 karyotype and bufonid frogs exhibited 6+5 karyotype. Sex chromosomes could not be identified in anuran amphibians studied. Most anuran species examined had only one pair of the nucleolar organizer regions in their chromosomes. Most of the chromosomes of the species studied showed clear telomeric and interstitial c-bands apart from the centromeric heterochromatin. The strong contraction of metaphase chromosomes prevents the differential demonstration of G-bands in the euchromatic regions. The genetic structure of anuran amphibians at the chromosome level was found to be highly conserved, especially in bufonid and ranid frogs. Moreover, intraspecific variation in chromosome structure and the position of secondary constriction was observed in some anuran species. The combined morphological and cytogenetic data were used to generate a phylogenetic tree depicting genome evolution in the amphibians of Thailand.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=1353&obj_id=852
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Karyotyping
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การวิเคราะห์ไมโททิกคาริโอไทป์ของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกจำนวน 33 ชนิด ที่เก็บจาก ประชากรในธรรมชาติในประเทศไทย โดยการย้อมสี Giemsa และย้อมแถบโครโมโซมหลังจาก เตรียมโครโมโซมด้วยวิธี in vivo colchicine treatment สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกจำแนกออกได้ 5 กลุ่ม คือ 1) อึ่งกราย 4 ชนิด 2) คางคก 4 ชนิด 3) กบเขียด 15 ชนิด 4) ปาด 2 ชนิด 5) อึ่ง 8 ชนิด ใน จำนวนนี้ มีจำนวนโครโมโซมแบบดิพลอยด์ 4 แบบ คือ 2n=22 2n=24 2n=26 และ 2n=28 เมื่อ วิเคราะห์โครโมโซมอย่างละเอียดทั้ง 33 ชนิด พบว่า มีความผันแปรในขนาด รูปร่าง และ ตำแหน่ง ของ chromosome marker โครโมโซมคู่ที่ 1 ถึง 5 มีขนาดใหญ่ และมีลักษณะอนุรักษ์ทางด้านรูปร่าง ค่อนข้างสูง ส่วนโครโมโซมที่เหลือคู่อื่นๆ มีขนาดเล็ก และมีรูปร่างแตกต่างกันออกไป พบ chromosome marker ที่มีความจำเพาะในแต่ละชนิดในรูปแบบ secondary sonstriction หรือ โครง สร้างพิเศษ เช่น ปุ่มยื่น ทั้งในกลุ่มโครโมโซมขนาดใหญ่และขนาดเล็ก คาริโอไทป์ของสัตว์พวกนี้มี ความแตกต่างกันในจำนวนของกลุ่มโครโมโซมที่มีขนาดใหญ่และกลุ่มโครโมโซมที่มีขนาดเล็ก ยก เว้นในพวกกบเขียดและคางคก ไม่พบโครโมโซมเพศในสัตว์ที่ทำการศึกษา แต่พบตำแหน่ง nucleolar organizer บนโครโมโซมเพียงคู่เดียว และพบการกระจายของคอนสทิทิวทีฟเฮเทโร โครมาตินบริเวณตำแหน่งเซนต์โตรเมีย บริเวณปลายสุดและภายในแขนของโครโมโซม เนื่องจาก โครโมโซมมีการหดตัวมากเกินไป จึงทำให้การชักนำให้เกิดแถบแบบจีด้วยเอนไซม์ทริปชินเกิดขึ้น ได้ไม่ดี โครงสร้างพันธุกรรมในระดับโครโมโซมของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกในประเทศไทยยัง อยู่ในสภาพอนุรักษ์สูงมากโดยเฉพาะในพวกคางคก และกบเขียด นอกจากนี้ยังพบความผันแปร ของโครโมโซมภายในชนิดเดียวกันในประชากรธรรมชาติอีกด้วย ข้อมูลทางสัณฐานวิทยาและ เซลล์พันธุศาสตร์ ทำให้ทราบสายสัมพันธ์ทางพันธุกรรมตามสายวิวัฒนาการของสัตว์สะเทินน้ำ สะเทินบกในประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
เซลล์พันธุศาสตร์ของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกในประเทศไทย
Thavorn Supaprom
มหาวิทยาลัยมหิดล
2546
การศึกษาเซลล์พันธุศาสตร์ของแมลงริ้นดำกลุ่ม Tuberosum (diptera : simuliidae) ในประเทศไทย การผลิตเซลล์ต้นกำเนิดจากกระบือปลักและการแปรสภาพไปเป็นเซลล์กระดูกอ่อน ผลทางห้องปฏิบัติการของว่านหางจระเข้ต่อการเพิ่มจำนวนเซลล์และการสร้างคอลลาเจนของเซลล์เนื้อเยื่อในโพรงฟันหนู ความเป็นพิษต่อเซลล์ การต้านการก่อกลายพันธุ์และผลยับยั้งการเปลี่ยนแปลงสัณฐานของเซลล์เลี้ยงที่ถูกเหนี่ยวนำจากรังสีย การหมักเอทานอลแบบต่อเนื่องโดยใช้ระบบแบบหมุนเวียนกับเซลล์ยีสต์และเซลล์ยีสต์ตรึงรูป การปรับปรุงพันธุ์เบญจมาศโดยการคัดเลือกจากความแปรปรวนของเซลล์ พันธุศาสตร์เซลล์ของปลาวงศ์ปลากราย (Family Notoperidae) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย การกำจัดแคดเมียมโดยการใช้ไซยาโนแบคทีเรียที่ผ่านการตรึงเซลล์และเซลล์อิสระในระบบการเลี้ยงแบบกะ ผลของน้ำยาบ้วนปากต่อการเกิดไมโครนิวเคลียสของเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มและเซลล์เพาะเลี้ยง ผลของเมลาโทนินในการป้องกันการเหนี่ยวนำให้เกิดการตายของเซลล์โดย exogenous reactive oxygen species ในเซลล์เพาะเลี้ยง SH-SY5Y
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก