สืบค้นงานวิจัย
ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตกุหลาบบนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 2 การศึกษาและทดสอบกุหลาบสายพันธุ์ใหม่
วชิระ เกตุเพชร - สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตกุหลาบบนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 2 การศึกษาและทดสอบกุหลาบสายพันธุ์ใหม่
ชื่อเรื่อง (EN): Sub-Project 2 Study and test new varieties of rose.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วชิระ เกตุเพชร
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและทดสอบกุหลาบสายพันธุ์ใหม่จากต่างประเทศ ที่เหมาะสมสำหรับการผลิตเป็นการค้าบนพื้นที่สูง โดยได้นำเข้ากุหลาบสายพันธุ์ฮอลแลนด์จำนวน 4 กลุ่มสี ได้แก่ สีแดง สีขาว สีชมพู และสองสี สีละ 3 สายพันธุ์ รวม 12 สายพันธุ์ ปลูกเปรียบเทียบกับพันธุ์การค้าเดิมโดยปลูกทดสอบ ในโรงเรือนควบคุมอุณหภูมิ ที่สถานีเกษตรหลวงปางดะ โดยใช้วิธีปลูก 2 วิธี ได้แก่ ปลูกลงดิน และปลูกในซับสเตรท จากผลการดำเนินงานเป็นเวลา 4 เดือน พบว่ากุหลาบที่ปลูกในซับสเตรทมีการเจริญเติบโตที่ดีกว่าการปลูกลงดิน โดยมีการเจริญเติบโตแตกต่างกัน ดังนี้กลุ่มดอกสีแดง พันธุ์ Red Crown มีการเจริญเติบโตดีที่สุดทั้งปลูกในซับสเตรท (แตกกิ่ง 1.80 กิ่ง/ต้น และความสูงต้น 72.65 ซม.) และปลูกลงดิน (แตกกิ่ง 1.35 กิ่ง/ต้น และความสูง 67.52 ซม.) กลุ่มดอกสีขาว เมื่อปลูกในซับสเตรท พันธุ์ Dolomiti มีการแตกกิ่งมากที่สุด (3.15 กิ่ง/ต้น) ในขณะที่พันธุ์ Ice Bear มีความสูงต้นมากที่สุด (66.20 ซม.) แต่เมื่อปลูกในดินพบว่าพันธุ์ Ice Bear มีการเจริญเติบโตดีที่สุดทั้งการแตกกิ่ง (2.95 กิ่ง/ต้น) และความสูงต้น (48.28 ซม.) สำหรับกลุ่มดอกสีชมพู เมื่อปลูกในซับสเตรท พบว่าพันธุ์ Duchesse มีการแตกกิ่งมากที่สุด (2.50 กิ่ง/ต้น) ในขณะที่พันธุ์ Lovely Dolomiti มีความสูงมากที่สุด (59.50 ซม.) และเมื่อปลูกลงดินพบว่าผลการทดลองเป็นไปในทำนองเดียวกัน (แตกกิ่ง 1.90 กิ่ง/ต้น และความสูงต้น 40.75 ซม.) ส่วนกลุ่มดอกสองสี พบว่าพันธุ์ Jumilia มีการเจริญเติบโตดีที่สุดทั้งปลูกในซับสเตรท (แตกกิ่ง 3.10 กิ่ง/ต้น และความสูงต้น 60.00 ซม.) และปลูกลงดิน (แตกกิ่ง 3.20 กิ่ง/ต้น และความสูงต้น 65.80 ซม.) สำหรับการศึกษาผลของระยะการเก็บเกี่ยว ที่มีต่อคุณภาพของผลผลิตในฤดูฝน ได้ทำการศึกษาในกุหลาบ 2 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ Jumilia และ Lovely Dolomiti พบว่าระยะเก็บเกี่ยวในระยะที่ 2 เหมาะสมที่สุด เนื่องจากมีอายุปักแจกันยาวนานที่สุด 15 และ 13 วัน ตามลำดับ ดอกสามารถบานต่อไปได้ และคงระยะบานสวยงามอยู่ได้ประมาณ 5 วัน อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษานี้เป็นเพียงผลการศึกษาการเจริญเติบโตในระยะแรกเท่านั้น จำเป็นต้องศึกษาให้ละเอียดมากขึ้น ในด้านการให้ผลผลิตและคุณภาพดอก ความต้านทานโรคและแมลง อายุการใช้งาน และอื่นๆ ประกอบด้วย จึงจะทำให้สามารถคัดเลือกพันธุ์สำหรับแนะนำให้เกษตรกร ปลูกได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ โดยทั่วไปจะให้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี
บทคัดย่อ (EN): The objectives of the research are to study and test new rose varieties imported from aboard for commercial production on highland. The research takes 4 color group from Netherlands rose varieties; red, white, pink and bi-color. Each color has 3 varieties, totally 12 varieties, were grown compared to commercial varieties in the Evaporative greenhouse at the Pang-Da Royal Agricultural Station using 2 methods of planting; growing into soil and substrates. The operation takes 2 months. The research found the roses growing in substrates have better than in the soil. The red group, Red Crown grows best both in substrates (1.80 branches/plants and plants height: 72.65 cm.) and soil (1.35 branches/plants and plants height: 67.52 cm.). The white group, Dolomiti, has the most branches (3.15 branches/plants) when grown in substrates while Ice Bear rose varieties have the highest plants height (66.20 cm.). But when planted in soil shown that the Ice Bear has the best growing both branching (2.95 branches/plants) and plants height (48.28 cm). The pink group, Duchesse has the best branching (2.50 branches/ plants) while, Lovely Dolomiti, is the tallest (59.50 cm.). This also found when grown into the soil (1.90 branches/plants and plants height: 40.75 cm.). And the bi-color group found that the Jamilia has the best growing both in substrates (3.10 branches/ plants and plants height: 60.00 cm.) and soil (3.20 branches/ plants and plants height: 65.80 cm.). For the study of harvesting period in raining season, Jumilia and Lovely Dolomiti were two rose varieties in the study. The second period of harvesting is the appropriate duration, because it has the longest vase life, 15 and 13 days respectively. The rose can bloom and still bloom at beautiful stage for 5 days. However, this study only takes first step; it needs to be more carefully studied in several aspects, including production and quality of the flowers, resistant to pest and disease, their vaselife and so on. Generally, it takes 2 years of studying to accurately and confidently select the suitable varieties for the farmers.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: กุหลาบ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

วชิระ เกตุเพชร. "ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตกุหลาบบนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 2 การศึกษาและทดสอบกุหลาบสายพันธุ์ใหม่Sub-Project 2 Study and test new varieties of rose.". สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน). 2558

วชิระ เกตุเพชร. "ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตกุหลาบบนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 2 การศึกษาและทดสอบกุหลาบสายพันธุ์ใหม่Sub-Project 2 Study and test new varieties of rose.". สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน). 2558. Print.



TARR Wordcloud:
ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตกุหลาบบนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 2 การศึกษาและทดสอบกุหลาบสายพันธุ์ใหม่
วชิระ เกตุเพชร
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
30 กันยายน 2558
โครงการศึกษาและทดสอบกุหลาบสายพันธุ์ใหม่ การจัดการความรู้สำหรับโครงการวิจัยเชิงบูรณาการ โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตสุกรบนพื้นที่สูง การวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดของเสาวรสหวาน บนพื้นที่สูง ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดไม้ดอกที่เป็นทางเลือก โครงการย่อยที่ 2 : การศึกษาวิธีเพิ่มปริมาณหัวพันธุ์ปทุมมา ชุดโครงการศึกษาเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดของดอกกุหลาบ โครงการย่อยที่ 2 การศึกษาการจัดการธาตุอาหารกุหลาบที่เหมาะสม โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตกาแฟอราบิก้าในพื้นที่โครงการหลวงและขยายผลโครงการหลวง ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตของพืชไร่บนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 1 โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตของพืชไร่บนพื้นที่สูง โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตของอาโวกาโด โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตของพืชไร่บนพื้นที่สูง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair