สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการกักเก็บคาร์บอนในบริเวณพื้นที่โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ โคกภูตากา อ.เวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น
พิสิฏฐ์ เจริญสุดใจ - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการกักเก็บคาร์บอนในบริเวณพื้นที่โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ โคกภูตากา อ.เวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Carbon Sequestration in the area of the Plant Genetic Conservation  Project Kok Phutaka, Amphor Wiangkoa, Khon Kaen Province
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเก็บกักคาร์บอนของพื้นที่ปกปักพันธุกรรมพืชโคกภูตากา อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น โดยแยกศึกษาเป็นการเก็บกักคาร์บอนเหนือพื้นดินในเนื้อไม้เด่น และการเก็บกักคาร์บอนในอินทรียวัตถุในดิน โดยศึกษาการเก็บกักคาร์บอนในเนื้อไม้เด่น 5 ชนิด ได้แก่ พลวง รัง เหียง แดง และประดู่ โดยใช้วิธีประเมินจากปริมาตรเนื้อไม้ และสมการแอลโลเมตรี (Tsusumi et al, 1983) นอกจากนี้ยังทำการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างขนาดเส้นรอบวงที่ระดับความสูงเพียงอก และปริมาณการเก็บกักคาร์บอน ส่วนการศึกษาการเก็บกักคาร์บอนในรูปอินทรียวัตถุที่เสถียรในดิน ทำการวัดปริมาณคาร์บอนอินทรีย์สะสมในดินชั้นบน และศึกษากระบวนการที่เกี่ยวข้องการเปลี่ยนแปลงของอินทรียวัตถุ ได้แก่ ปริมาณการร่วงหล่นของใบไม้ อัตราการย่อยสลายใบไม้ และการสลายตัวอินทรียวัตถุในดินเป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ โดยทำการเก็บตัวอย่างระหว่างเดือน ธันวาคม 2552 (หน้าแล้ง) ถึงเดือน ตุลาคม 2553 (หน้าฝน) พบว่าปริมาณคาร์บอนในเนื้อไม้โดยคำนวณจากปริมาตรเนื้อไม้พลวง ไม้แดง รัง เหียง และประดู่ มีค่าเฉลี่ย 1.35, 0.79 , 0.57, 0.67 และ 0.68 ตันคาร์บอน/ไร่ ซึ่งยังไม่รวมถึงไม้ชนิดอื่น ๆ ที่มีความหนาแน่นต่ำอีก 22 ชนิด เมื่อทำการเปรียบเทียบกับวิธีใช้สมการแอลโลเมตรี พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยปริมาณคาร์บอนจากการคำนวณด้วยสมการแอลโลเมตรีจะมีประมาณแค่ 57.43 % ของปริมาณที่คำนวณได้จากปริมาตรไม้ และพบความสัมพันธ์ของขนาดเส้นรอบวงกับปริมาณการสะสมคาร์บอนในเนื้อไม้ โดยพบความสัมพันธ์กันแบบเป็นเส้นตรง ในไม้พลวง และไม้รักใหญ่ และมีความสัมพันธ์กันแบบเอกซ์โปแนลเชียล ในไม้เหียง ไม้เต็ง และไม้รัง ซึ่งสอดคล้องกับสมการแอลโลเมตรี ส่วนปริมาณคาร์บอนที่เก็บกักในดินพบว่าส่วนใหญ่อยู่ในรูปของอินทรียวัตถุ และพบว่าอินทรียวัตถุในดินมีการเปลี่ยนแปลงตามระยะเวลาในรอบปี โดยเดือนธันวาคม(หน้าแล้ง) มีค่าสูงกว่าเดือนสิงหาคม(หน้าฝน) โดยมีปริมาณคาร์บอนในดิน 1.23 ตันคาร์บอนต่อไร่ และมีค่า 1.02 ตัน คาร์บอนต่อไร่ ตามลำดับ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะความชื้น และอุณหภูมิของอากาศที่มีผลต่อการย่อยสลายของสารอินทรีย์ และจากการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อกระบวนการในการเปลี่ยนแปลงของอินทรียวัตถุที่สะสมในดินพบว่า น้ำหนักใบเหียงที่ร่วงหล่นมีมากที่สุด 128.0 g/m 2 และน้ำหนักใบแดงที่ร่วงหล่นมีน้อยสุดคือ 98.92 g/m2 และภายในสามเดือนช่วงหน้าฝนใบไม้ของทุกชนิดจะสะลายตัวไปมากกว่า 99 % โดยใบเต็งและใบรังใหญ่จะสลายตัวค่อนข้างรวดเร็วโดยย่อยสลายเกือบหมดภายในหนึ่งเดือน และพบว่าอัตราการย่อยสลายนี้สัมพันธืกับปัจจัยทางกายภาพและชีวภาพอย่างซับซ้อนไม่ได้ขึ้นกับอัตราส่วนของ C ต่อ N ในใบพืชเพียงอย่างเดียว และในช่วงเดือนธันวาคม (หน้าแล้ง) มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากดินน้อยกว่าในเดือนสิงหาคม (หน้าฝน) ค่อนข้างมากโดยมีค่า 30.49 และ51.45 kg C/ ไร่ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): This research aims to study above ground carbon storage in wood dominant species and in soil stable organic matter at a plant genetic protection area at Kok Phu Ta Ka, Wiang Kao District, Khon Kaen Province. This study was conducted from December 2009 (dry season) to October 2010 (rainy season). The five highest IVI species including Dipterocarpus tuberculatns Roxb., Shorea siamensis Miq., Dipterocarpus obtusifolius Teijsm.ex Miq., Xylia xylocarpa (Roxb.) and Plerocarpus indicus were studied for their carbon storages using two techniques - the volume of wood and Allometry equation (Tsusumi et al., 1983). The relationships between the circumference at breast height and the amount of carbon sequestration of these species were also examined. For studying of carbon storage in the stable soil organic matter, the amount of total carbon content accumulated in the topsoil was measured using Walkley and Black method. The parameters in relation to the decomposition of organic matter including the fall of the leaf, the rate of leaf decomposition and the carbon dioxide evolution from the decomposition of soil organic matter were studied. The results showed that the average amount of carbon in woods calculated from the volume of wood were of 1.35, 0.79, 0.57, 0.67 and 0.68 tons carbon /rai in Dipterocarpus tuberculatns Roxb., Xylia xylocarpa (Roxb.), Dipterocarpus obtusifolius Teijsm.ex Miq., and Plerocarpus indicus respectively. This did not include other 22 species of wood with low density. The amount of sequestrated carbons calculated by Allometry equation were significant (p <0.05) lower (57.43%) than the wood volume technique. The linear relationships between the cabon in woods and the circumference were revealed in Dipterocarpus tuberculatns Roxb. and Gluta usitata (Wall.). However, the exponential relationships were found among the others which were consistent to the allometry equation. The carbon storage in soil was found mostly in form of soil organic matter. The soil organic carbon in December of 1.23 tons per rai was significantly higher than the amount of soil carbon in August (1.02 tons carbon per rai).. This may be because of the soil moisture and the air temperature. Leaf fall in this area was varied from the highest of Dipterocarpus obtusifolius Teijsm.ex Miq of 128.0 g /m2 to the lowest of Xylia xylocarpa (Roxb.) of 98.92 g/m2. The decomposition rate of Shorea obtusa Wall. and Gluta usitata (Wall.) were among the highest, within one month the leaves were decomposed completely while more than 99% of the other leaves were decay within three months during the rainy seaseon. It was also found that the rate of decomposition related to many physico-chemical factors not only on the ratio of C to N alone. The emission of carbon dioxide from soil in December (dry season) was lower than in August (rainy season) with the values of 30.49 and 51.45 kg C/rai, respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: อินทรียวัตถุในดิน
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาการกักเก็บคาร์บอนในบริเวณพื้นที่โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ โคกภูตากา อ.เวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
30 กันยายน 2553
การสำรวจและอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ป่าในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ การพัฒนาการเพาะเลี้ยงม้าน้ำเพื่อการอนุรักษ์ การอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ในพื้นที่โคกภูตากาด้วยวิธี encapsulation dehydration และการทำเมล็ดเทียม อนุกรมวิธาน การอนุรักษ์ ทรัพยากรพันธุ์พืชวงศ์ขิงในเขต พื้นที่โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อพ. สธ. จ. กาญจนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง การศึกษามาตรฐานและสารสำคัญจากพืชสมุนไพร ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยขอนแก่น พื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น การเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ป่าเพื่อการอนุรักษ์พันธุกรรมอย่างยั่งยืน การประเมินมวลชีวภาพและการกักเก็บคาร์บอนในสวนส้ม การลดมีเทนฟุตพริ้นท์ในนาข้าว จังหวัดขอนแก่น การกักเก็บคาร์บอนอินทรีย์และไนโตรเจนรวมในดินนาบริเวณที่ราบลุ่มภาคกลางของประเทศไทย การศึกษา และอนุรักษ์บัวหลวงราชินี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก