สืบค้นงานวิจัย
การเปรียบเทียบพันธุ์ยางแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ ( เค 219 )
รัศมี ด่านสกุลผล - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: การเปรียบเทียบพันธุ์ยางแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ ( เค 219 )
ชื่อเรื่อง (EN): International Exchange Clone Trial (K. 219 )
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รัศมี ด่านสกุลผล
บทคัดย่อ: การเปรียบเทียบพันธุ์ยางแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ (เค 219) เป็นการทดสอบพันธุ์ยางที่ได้รับตามโครงการแลกเปลี่ยนพันธุ์ยางระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับผลผลิต ความเจริญเติบโต ความต้านทานลม ความต้านทานโรค และอื่นๆในประเทศไทย เพื่อคัดเลือกยางพันธุ์ดีแนะนำสู่เกษตรกรชาวสวนยาง เริ่มทำการทดลองเมื่อเดือนสิงหาคม 2519 (ปลูกแบบ 2) และสิ้นสุดการทดลองในเดือนมีนาคม 2539 ที่สถานีทดลองยางพังงา อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา โดยใช้พันธุ์ยาง 25 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ RRIM 701, RRIM 703, RRIM 712, RRIM 717, RRIM 722, RRIM 725, RRIM 728, BPM 1, BPM 3, BPM 22, BPM 24, BPM 26, PR 302, PR 305, PR 306, PR 307, PR 309, RRIC 100, RRIC 101, RRIC 102, RRIC 103, RRIC 110, KRS 21 และใช้พันธุ์ GT 1 และ RRIM 600 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบ วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block มี 4 ซ้ำ ระยะปลูก 3 x 8 เมตร (ระยะระหว่างต้น x ระยะระหว่างแถว) พื้นที่การทดลองทั้งหมด 100 ไร่ แปลงทดลองนี้ได้ทำการเปิดกรีดในเดือนเมษายน 2526 เมื่อต้นยางมีอายุ 5½ ปี มีต้นที่ได้ขนาดเปิดกรีด (45 เซนติเมตรขึ้นไป) 60 เปอร์เซ็นต์ของแปลง โดยเปิดกรีดสูงจากพื้นดิน 150 เซนติเมตร และใช้ระบบกรีดครึ่งลำต้นวันเว้นวัน ผลจากการเก็บข้อมูลผลผลิตและลักษณะรองที่สำคัญอื่นๆ ตั้งแต่ระยะยางอ่อนจนถึงเปิดกรีดได้เป็นเวลา 13 ปี พบว่ามีพันธุ์ยางจำนวน 5 พันธุ์ให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของค่าเฉลี่ยพันธุ์เปรียบเทียบ โดยพันธุ์ BPM 24 ให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงสุด (307 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี, 163%) ความเจริญเติบโตปานกลาง ต้านทานต่อโรคใบร่วงไฟทอปโทราดี ค่อนข้างต้านทานโรคใบจุดออยเดียม (ราแป้ง) แสดงอาการเปลือกแห้งปานกลาง รองลงมา ได้แก่ พันธุ์ BPM 1 (257 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี, 137 %) ความเจริญเติบโตดีที่สุด สามารถแนะนำให้ปลูกเป็นไม้โตเร็วได้ ค่อนข้างต้านทานต่อโรคราแป้ง ต้านทานต่อโรคใบร่วงไฟทอปโทราปานกลาง แสดงอาการเปลือกแห้งปานกลาง พันธุ์ RRIC 110 (255 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี, 136%) ความเจริญเติบโตดี ค่อนข้างต้านทานต่อโรคใบร่วงไฟทอปโทรา ต้านทานต่อโรคราแป้งปานกลาง แสดงอาการเปลือกแห้งปานกลาง พันธุ์ RRIC 100 (249 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี, 132 %) ความเจริญเติบโตดี ค่อนข้างต้านทานต่อโรคราแป้ง ต้านทานต่อโรคใบร่วงไฟทอปโทราปานกลาง แสดงอาการเปลือกแห้งปานกลาง และพันธุ์ PR 305 (244 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี, 130 %) ความเจริญเติบโตปานกลาง ต้านทานต่อโรคใบร่วงไฟทอปโทราปานกลาง ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคราแป้ง และไม่ต้านทานลม ไม่สามารถแนะนำให้ปลูกในพื้นที่ที่มีลมแรงได้ ส่วนพันธุ์ BPM 3 ให้ผลผลิตเฉลี่ยต่ำสุด (58 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี, 31 %) สำหรับพันธุ์เปรียบเทียบ GT 1 (201 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี, 107 %) ความเจริญเติบโตปานกลาง ต้านทานต่อโรคใบร่วงไฟทอปโทราปานกลาง ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคราแป้ง แสดงอาการเปลือกแห้งปานกลาง และพันธุ์ RRIM 600 (175 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี, 93 %) ความเจริญเติบโตปานกลาง ต้านทานต่อโรคราแป้งปานกลาง ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคใบร่วงไฟทอปโทรา แสดงอาการเปลือกแห้งปานกลาง นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ยางที่น่าสนใจอีก ได้แก่ พันธุ์ RRIM 728, PR 302 และ RRIC 101 เนื่องจากให้ผลผลิตในเกณฑ์ดีและต้านทานโรคปานกลาง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: พันธุ์ยางแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเปรียบเทียบพันธุ์ยางแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ ( เค 219 )
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก