สืบค้นงานวิจัย
การประเมินค่าและจัดชั้นที่ดินทางการเกษตรแบบบูรณาการเพื่อการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืนในจังหวัดอุทัยธานี
Buncha Apai - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การประเมินค่าและจัดชั้นที่ดินทางการเกษตรแบบบูรณาการเพื่อการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืนในจังหวัดอุทัยธานี
ชื่อเรื่อง (EN): An integrative agricultural land evaluation and classification for sustainable land-use in Uthai Thani province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Buncha Apai
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้เป็นการประเมินความเหมาะสมของที่ดินทางการเกษตร โดยคำนึงถึงเงื่อนไขทางกายภาพ สังคมเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ศึกษาโดยประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) ร่วมกับเทคนิคการประเมินค่าที่ดินแบบสองขั้นตอน (Two-stage Land Evaluation Approach) สมการการ สูญเสียดินสากล (Universal Soil Loss Equation) การประเมินการสูญเสียธาตุอาหารพืชในดิน และการ โปรแกรมเชิงเส้น (Linear Programming) โดยใช้พื้นที่จังหวัดอุทัยธานีเป็นพื้นที่ศึกษา ในการศึกษาครั้งนี้มีการประเมินความเหมาะสมของที่ดินทางด้านกายภาพสำหรับการปลูกพืชหลักในปัจจุบัน และพืชชนิดอื่นๆที่เสนอเป็นทางเลือก รวมทั้งการประเมินการสูญเสียดิน และธาตุอาหารพืชในรูปของปุ๋ยยูเรีย ซูเปอร์ฟอสเฟส และโปแตสเซียมคลอไรด์ ในพื้นที่การเกษตรภายใต้การเพาะปลูกพืชหลักในปัจจุบันและพืชชนิด อื่นๆที่เสนอเป็นทางเลือก จากนั้นจึงเป็นการวิเคราะห์ในภาพรวมเพื่อหาองค์ประกอบของการปลูกพืชที่เหมาะสม ที่สุดภายใต้เงื่อนไขให้มีการสูญเสียธาตุอาหารพืชต่ำที่สุด ในขณะที่ยังคงระดับรายได้เฉลี่ยของเกษตรกรไว้ไม่ให้ ต่ำกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และภายใต้เงื่อนไขการทำรายได้ของเกษตรกรสูงสุดในขณะที่ให้มีการสูญเสียธาตุ อาหารพืชไม่เกินกว่าระดับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ผลการศึกษาความเหมาะสมของที่ดินพบว่า เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวไปเป็นการ ทำสวนผลไม้ในเนื้อที่ประมาณร้อยละ 25 ของเนื้อที่ทางการเกษตรโดยรวมของจังหวัด นอกจากนั้นยังพบว่า โอกาสของการสูญเสียดินในพื้นที่การเกษตรประมาณปีละ 41.50 ล้านตัน และประมาณร้อยละ 8.95 และ 4.52 ของพื้นที่การเกษตรมีอัตราการสูญเสียดินในระดับที่รุนแรง และรุนแรงมาก ตามลำดับ และโอกาสการสูญเสียปุ๋ย ยูเรีย ซูเปอร์ฟอสเฟส และโปแตสเซียมคลอไรด์ จากพื้นที่การเกษตรปีละ 90,005.70, 2,761.96 และ 7,394.57 ตัน ตามลำดับ สำหรับองค์ประกอบของการปลูกพืชที่เหมาะสมที่สุดภายใต้เงื่อนไขให้มีการสูญเสียธาตุ อาหารพืชต่ำที่สุดในขณะที่ยังคงระดับรายได้เฉลี่ยของเกษตรกรไว้ไม่ให้ต่ำกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้น ได้แก่การ ปลูกข้าว ข้าวโพด อ้อยโรงงาน มันสำปะหลัง และสับปะรด ในสัดส่วนร้อยละ 2.72, 54.90, 0.45, 19.54 และ 22.40 ตามลำดับ ส่วนองค์ประกอบของการปลูกพืชที่เหมาะสมที่สุดภายใต้เงื่อนไขการทำรายได้ของเกษตรกร สูงสุดในขณะที่ให้มีการสูญเสียธาตุอาหารพืชไม่เกินกว่าระดับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่การปลูกข้าว ข้าวโพด อ้อยโรงงาน มันสำปะหลัง และสับปะรด ในสัดส่วนร้อยละ 1.16, 42.49, 1.11, 19.95 และ 35.29 ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): This study investigated and evaluated the suitability of agricultural land use taking into account physical, socioeconomic and environmental conditions of the study area. A soil conservation-oriented land use planning technique using Geographic Information System (GIS) technology together with Two-stage Land Evaluation Approach, Universal Soil Loss Equation (USLE), macro nutrient loss assessment, and linear programming were conducted in Uthai Thani Province of Thailand. Physical land suitability evaluation for major present and alternative land utilization types was performed. Predicted potential soil erosion (PE) and actual soil erosion (AE) volume in agricultural land under present land cover management and alternative crop types were measured. Then, the predicted actual soil loss together with nutrient availability data of each soil type were used to calculate the macro plant nutrient loss in the form of Urea, Super Phosphate, and Potassium Chloride in each soil series under alternative crop types. The overall land suitability assessment using linear programming was conducted using two postulates - minimizing macro nutrient loss while maintaining current levels of average net farm income and maximizing net farm income while not exceeding current levels of macro nutrient loss. Results of the study indicate that even though most of the soil types in the study area are not fertile, changing farming patterns from intensive mono-crops to fruit trees may provide more profitable and sustainable returns in approximately 25% of the total agricultural area. Some alternative crops including coffee, cocoa, vegetables, and rubber would not be recommended for the study area because of severe limitations of the soils. The study results also indicated that approximately 41,500,000 tons of soil are annually lost from agricultural land of the province with 8.95% and 4.52% of the area under severe and very severe erosion while the total actual losses of urea, super phosphate, and potassium chloride were estimated at 90,005.70, 2,761.96, and 7,394.57 tons/year respectively. The most suitable crop combination to minimize macro nutrient loss while maintaining the average levels of net farm income is suggested as wetland rice, maize, sugarcane, cassava, and pineapple at the proportions of 2.72%, 54.90%, 0.45%, 19.54%, and 22.40% of total agricultural area respectively while the most suitable crop combination to maximize net farm income while not exceeding the current level of macro nutrient loss is wetland rice, maize, sugarcane, cassava, and pineapple at 1.16%, 42.49%, 1.11%, 19.95%, and 35.29% respectively
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=1772&obj_id=1911
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Soil erosion
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษาครั้งนี้เป็นการประเมินความเหมาะสมของที่ดินทางการเกษตร โดยคำนึงถึงเงื่อนไขทางกายภาพ สังคมเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ศึกษาโดยประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) ร่วมกับเทคนิคการประเมินค่าที่ดินแบบสองขั้นตอน (Two-stage Land Evaluation Approach) สมการการ สูญเสียดินสากล (Universal Soil Loss Equation) การประเมินการสูญเสียธาตุอาหารพืชในดิน และการ โปรแกรมเชิงเส้น (Linear Programming) โดยใช้พื้นที่จังหวัดอุทัยธานีเป็นพื้นที่ศึกษา ในการศึกษาครั้งนี้มีการประเมินความเหมาะสมของที่ดินทางด้านกายภาพสำหรับการปลูกพืชหลักในปัจจุบัน และพืชชนิดอื่นๆที่เสนอเป็นทางเลือก รวมทั้งการประเมินการสูญเสียดิน และธาตุอาหารพืชในรูปของปุ๋ยยูเรีย ซูเปอร์ฟอสเฟส และโปแตสเซียมคลอไรด์ ในพื้นที่การเกษตรภายใต้การเพาะปลูกพืชหลักในปัจจุบันและพืชชนิด อื่นๆที่เสนอเป็นทางเลือก จากนั้นจึงเป็นการวิเคราะห์ในภาพรวมเพื่อหาองค์ประกอบของการปลูกพืชที่เหมาะสม ที่สุดภายใต้เงื่อนไขให้มีการสูญเสียธาตุอาหารพืชต่ำที่สุด ในขณะที่ยังคงระดับรายได้เฉลี่ยของเกษตรกรไว้ไม่ให้ ต่ำกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และภายใต้เงื่อนไขการทำรายได้ของเกษตรกรสูงสุดในขณะที่ให้มีการสูญเสียธาตุ อาหารพืชไม่เกินกว่าระดับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ผลการศึกษาความเหมาะสมของที่ดินพบว่า เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวไปเป็นการ ทำสวนผลไม้ในเนื้อที่ประมาณร้อยละ 25 ของเนื้อที่ทางการเกษตรโดยรวมของจังหวัด นอกจากนั้นยังพบว่า โอกาสของการสูญเสียดินในพื้นที่การเกษตรประมาณปีละ 41.50 ล้านตัน และประมาณร้อยละ 8.95 และ 4.52 ของพื้นที่การเกษตรมีอัตราการสูญเสียดินในระดับที่รุนแรง และรุนแรงมาก ตามลำดับ และโอกาสการสูญเสียปุ๋ย ยูเรีย ซูเปอร์ฟอสเฟส และโปแตสเซียมคลอไรด์ จากพื้นที่การเกษตรปีละ 90,005.70, 2,761.96 และ 7,394.57 ตัน ตามลำดับ สำหรับองค์ประกอบของการปลูกพืชที่เหมาะสมที่สุดภายใต้เงื่อนไขให้มีการสูญเสียธาตุ อาหารพืชต่ำที่สุดในขณะที่ยังคงระดับรายได้เฉลี่ยของเกษตรกรไว้ไม่ให้ต่ำกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้น ได้แก่การ ปลูกข้าว ข้าวโพด อ้อยโรงงาน มันสำปะหลัง และสับปะรด ในสัดส่วนร้อยละ 2.72, 54.90, 0.45, 19.54 และ 22.40 ตามลำดับ ส่วนองค์ประกอบของการปลูกพืชที่เหมาะสมที่สุดภายใต้เงื่อนไขการทำรายได้ของเกษตรกร สูงสุดในขณะที่ให้มีการสูญเสียธาตุอาหารพืชไม่เกินกว่าระดับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่การปลูกข้าว ข้าวโพด อ้อยโรงงาน มันสำปะหลัง และสับปะรด ในสัดส่วนร้อยละ 1.16, 42.49, 1.11, 19.95 และ 35.29 ตามลำดับ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การประเมินค่าและจัดชั้นที่ดินทางการเกษตรแบบบูรณาการเพื่อการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืนในจังหวัดอุทัยธานี
Buncha Apai
มหาวิทยาลัยมหิดล
2546
การประเมินมูลค่าที่ดินที่ใช้ในการเกษตรในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ การประเมินค่าที่ดินเพื่อการเพาะปลูกข้าวของจังหวัดสระบุรี การวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมและวัฒนธรรมการเกษตร : กรณีศึกษา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ผล ของการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและรูปแบบการใช้ที่ดินต่อคุณภาพดิน กรณีศึกษา : หมู่บ้านละเบ้ายา ตำบลสะเนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน การคาดการณ์รูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่แตง จ. เชียงใหม่ ประเมินผลการดำเนินนโยบายปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของราษฎรในการจัดระเบียบที่ดินเพื่อการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในที่ดินของรัฐ : ศึกษากรณีการบุกรุกที่ดินบริเวณ หมู่ที่ 1 และ 8 ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี การวิเคราะห์ความเหมาะสมของที่ดินเพื่อสนับสนุนการวางแผนการใช้ที่ดินในอำเภอเดิ๋นกวอย จังหวัดดองนาย ประเทศเวียดนาม การประเมินการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตพื้นที่ เมืองปากอู แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว การบุกรุกที่ดินของชาวต่างประเทศ : ศึกษากรณีที่ดินในเขตทรงสงวน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก