สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการสกัดใยอาหารและแคโรทีนนอยด์จากกากแครอทที่เป็นส่วนเหลือทิ้งจากการผลิตน้ำแครอท
Temsiri Chaidet - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการสกัดใยอาหารและแคโรทีนนอยด์จากกากแครอทที่เป็นส่วนเหลือทิ้งจากการผลิตน้ำแครอท
ชื่อเรื่อง (EN): The study of extraction of dietary fiber and carotenoids from carrot pomace
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Temsiri Chaidet
บทคัดย่อ: กากแครอทที่เป็นส่วนเหลือกจากกระบวนการผลิตน้ำแครอท โดยปกติมักจะถูกทิ้งเป็นขยะหรือนำไปทำอาหารสัตว์หรือปุ๋ย โดยที่ในกากแครอทนั้นยังมีสารประกอบที่มีประโยชน์เช่น ใยอาหารและแคโรทีนอยด์ในปริมาณมาก ดังนั้นการวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการสกัดใยอาหารและแคโรทีนอยด์จากกากแครอทที่เหลือจากกระบวนการผลิตน้ำแครอท วิเคราะห์สมบัติทางกายภาพและทางเคมี และทดสอบความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร การสกัดกากแครอทใช้วิธีสกัดด้วยเอธานอล ได้ผลผลิตใยอาหารจากกากแครอทประมาณ 7% โดยมีปริมาณใยอาหารทั้งหมด 84% จากการศึกษาสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของใยอาหารพบว่า ใยอาหารจากกากแครอทมีค่าความสามารถในการอุ้มน้ำ 12.92 กรัมต่อกรัมตัวอย่าง ความสามารถในการอุ้มน้ำมัน 3.52 กรัมต่อกรัมตัวอย่าง ค่า emulsifying activity 3.83% แต่ไม่มีสมบัติ emulsion stability ค่า water activity (Aw) 0.45 ปริมาณความชื้น 11.37% และค่าความเป็นกรด-ด่างเป็นกลาง (6.03) ใยอาหารที่สกัดมีสีขาวครีม เมื่อนำใยอาหารจากกากแครอทไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารคือไส้กรอกหมูและคุกกี้ พบว่าระดับที่เหมาะสมในการเสริมใยอาหารในไส้กรอกหมูคือที่ 1% โดยน้ำหนัก โดยไม่มีความแตกต่างทางด้านสมบัติทางกายภาพและทางเคมี ยกเว้นค่าสีและเนื้อสัมผัส สีของไส้กรอกเสริมใยอาหารเข้มกว่าและมีเนื้อสัมผัสนิ่มกว่าสูตรควบคุม ในขณะที่การยอมรับทางประสาทสัมผัสไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สำหรับคุกกี้ ระดับที่เหมาะสมของใยอาหารที่เติมลงไปแทนที่แป้งสาลีคือ 3% โดยน้ำหนัก ซึ่งไม่ทำให้สมบัติทางกายภาพและทางเคมีเปลี่ยนแปลง ยกเว้นค่าสี โดยที่สีของคุกกี้สูตรเสริมใยอาหารจะเข้มกว่าสูตรควบคุม ซึ่งส่งผลต่อความชอบของลักษณะทั่วไปของคุกกี้ในการประเมินผลทางประสาทสัมผัส อย่างไรก็ตามไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อทดสอบด้านการยอมรับโดยรวม และความเหมาะสมของรสชาติ และเนื้อสัมผัสระหว่างคุกกี้สูตรควบคุมและสูตรเสริมใยอาหาร นอกจากนี้ในการศึกษาได้เตรียมสารแคโรทีนอยด์จากเอธานอลที่ใช้สกัดใยอาหาร โดยทำให้เข้มข้นด้วยการระเหยภายใต้สุญญากาศและนำไปพ่นระเหยแห้งเพื่อผลิตเป็นแคโรทีนอยด์ผง จากการศึกษาค่าความคงตัวของเบต้า-แคโรทีนและค่าสีของผงแคโรทีนอยด์หลังจากเก็บไว้ในที่มืดที่ 4 และ 25 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่า ในการเก็บที่ 4 องศาเซลเซียส การสูญเสียของเบต้า-แคโรทีน (40%) น้อยกว่าเมื่อเก็บที่อุณหถูมิ 25 องศาเซลเซียส (90%) เช่นเดียวกับการลดลงของสีเหลืองของแคโรทีนอยด์ผง สำหรับการประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร ใช้แคโรทีนอยด์ผงแต่งสีของเครื่องดื่มรสส้มแทนการใช้สีผสมอาหาร พบว่าที่ปริมาณการใช้ 5% โดยน้ำหนักและไม่ต้องเติมสารเพิ่มความขุ่น จะได้เครื่องดื่มรสส้มที่มีลักษณะปรากฏใกล้เคียงกับเครื่องดื่มที่ใช้สีและสารเพิ่มความขุ่น
บทคัดย่อ (EN): C (90%). The yellowness of carotenoid powder similarly decreased. For food application, carotenoid powder was used in orange flavor beverage to replace food colorant. Addition of carotenoid powder at 5% by weight without a clouding agent resulted in a similar appearance to the orange beverage with added color and clouding agent.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3616&obj_id=5087
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Carotenoids
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: กากแครอทที่เป็นส่วนเหลือกจากกระบวนการผลิตน้ำแครอท โดยปกติมักจะถูกทิ้งเป็นขยะหรือนำไปทำอาหารสัตว์หรือปุ๋ย โดยที่ในกากแครอทนั้นยังมีสารประกอบที่มีประโยชน์เช่น ใยอาหารและแคโรทีนอยด์ในปริมาณมาก ดังนั้นการวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการสกัดใยอาหารและแคโรทีนอยด์จากกากแครอทที่เหลือจากกระบวนการผลิตน้ำแครอท วิเคราะห์สมบัติทางกายภาพและทางเคมี และทดสอบความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร การสกัดกากแครอทใช้วิธีสกัดด้วยเอธานอล ได้ผลผลิตใยอาหารจากกากแครอทประมาณ 7% โดยมีปริมาณใยอาหารทั้งหมด 84% จากการศึกษาสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของใยอาหารพบว่า ใยอาหารจากกากแครอทมีค่าความสามารถในการอุ้มน้ำ 12.92 กรัมต่อกรัมตัวอย่าง ความสามารถในการอุ้มน้ำมัน 3.52 กรัมต่อกรัมตัวอย่าง ค่า emulsifying activity 3.83% แต่ไม่มีสมบัติ emulsion stability ค่า water activity (Aw) 0.45 ปริมาณความชื้น 11.37% และค่าความเป็นกรด-ด่างเป็นกลาง (6.03) ใยอาหารที่สกัดมีสีขาวครีม เมื่อนำใยอาหารจากกากแครอทไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารคือไส้กรอกหมูและคุกกี้ พบว่าระดับที่เหมาะสมในการเสริมใยอาหารในไส้กรอกหมูคือที่ 1% โดยน้ำหนัก โดยไม่มีความแตกต่างทางด้านสมบัติทางกายภาพและทางเคมี ยกเว้นค่าสีและเนื้อสัมผัส สีของไส้กรอกเสริมใยอาหารเข้มกว่าและมีเนื้อสัมผัสนิ่มกว่าสูตรควบคุม ในขณะที่การยอมรับทางประสาทสัมผัสไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สำหรับคุกกี้ ระดับที่เหมาะสมของใยอาหารที่เติมลงไปแทนที่แป้งสาลีคือ 3% โดยน้ำหนัก ซึ่งไม่ทำให้สมบัติทางกายภาพและทางเคมีเปลี่ยนแปลง ยกเว้นค่าสี โดยที่สีของคุกกี้สูตรเสริมใยอาหารจะเข้มกว่าสูตรควบคุม ซึ่งส่งผลต่อความชอบของลักษณะทั่วไปของคุกกี้ในการประเมินผลทางประสาทสัมผัส อย่างไรก็ตามไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อทดสอบด้านการยอมรับโดยรวม และความเหมาะสมของรสชาติ และเนื้อสัมผัสระหว่างคุกกี้สูตรควบคุมและสูตรเสริมใยอาหาร นอกจากนี้ในการศึกษาได้เตรียมสารแคโรทีนอยด์จากเอธานอลที่ใช้สกัดใยอาหาร โดยทำให้เข้มข้นด้วยการระเหยภายใต้สุญญากาศและนำไปพ่นระเหยแห้งเพื่อผลิตเป็นแคโรทีนอยด์ผง จากการศึกษาค่าความคงตัวของเบต้า-แคโรทีนและค่าสีของผงแคโรทีนอยด์หลังจากเก็บไว้ในที่มืดที่ 4 และ 25 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่า ในการเก็บที่ 4 องศาเซลเซียส การสูญเสียของเบต้า-แคโรทีน (40%) น้อยกว่าเมื่อเก็บที่อุณหถูมิ 25 องศาเซลเซียส (90%) เช่นเดียวกับการลดลงของสีเหลืองของแคโรทีนอยด์ผง สำหรับการประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร ใช้แคโรทีนอยด์ผงแต่งสีของเครื่องดื่มรสส้มแทนการใช้สีผสมอาหาร พบว่าที่ปริมาณการใช้ 5% โดยน้ำหนักและไม่ต้องเติมสารเพิ่มความขุ่น จะได้เครื่องดื่มรสส้มที่มีลักษณะปรากฏใกล้เคียงกับเครื่องดื่มที่ใช้สีและสารเพิ่มความขุ่น
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาการสกัดใยอาหารและแคโรทีนนอยด์จากกากแครอทที่เป็นส่วนเหลือทิ้งจากการผลิตน้ำแครอท
Temsiri Chaidet
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
การสกัดใยอาหารจากส่วนเหลือทิ้งจากตะไคร้และการนำไปใช้ในอาหาร การศึกษาผลของการลวกและอุณหภูมิอบแห้งต่อฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของใยอาหารผงผลิตจากเปลือกแครอท การศึกษาการสกัดและสมบัติของเซอีนจากกากที่เหลือจากการผลิตนมข้าวโพด การศึกษาผลของใยอาหารจากเปลือกมะนาวในน้ำสับปะรด การสกัดเพกทินจากของเหลือทิ้งของขนุน การใช้ประโยชน์ของเสียจากกากน้ำตาล น้ำกากส่า และเศษผักเพื่อผลิตปุ๋ยน้ำชีวภาพในการหมักแบบไร้อากาศ การศึกษาอัตราส่วนผสมของเชื้อเพลิงจากกากไขมันและกากของกากไขมันกับวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร การวางแผนการผลิตเพื่อเพิ่มผลผลิตของโรงงานผลิตอาหารเสริม การประเมินความเป็นพิษต่อพืชของปุ๋ยหมักร่วมที่ผลิตจากกากของเสียจากโรงงานผลิตสารให้ความหวานและเศษอาหารที่อัตราส่วนแตกต่างกัน การผลิตปุ๋ยกากตะกอนน้ำเสียอุตสาหกรรมผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวเพื่อการเพาะเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทอง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก