สืบค้นงานวิจัย
โครงการย่อยที่ 1 การทดสอบฤทธิ์ของพืชสมุนไพรเพื่อต้านเชื้อราที่ก่อโรคในข้าวสู่การนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบน้ำสกัดสมุนไพรกำจัดเชื้อราเพื่อการผลิตข้าวอินทรีย์ในกลุ่มเกษตรกรรายย่อยของอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์
สุวรรณา จันคนา - มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
ชื่อเรื่อง: โครงการย่อยที่ 1 การทดสอบฤทธิ์ของพืชสมุนไพรเพื่อต้านเชื้อราที่ก่อโรคในข้าวสู่การนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบน้ำสกัดสมุนไพรกำจัดเชื้อราเพื่อการผลิตข้าวอินทรีย์ในกลุ่มเกษตรกรรายย่อยของอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์
ชื่อเรื่อง (EN): Determination of Antifungal in Rice of Local Herbs for Utilization of Water Herbal Extracts Fungicide in Organic Rice Production Integrate System on Smallholder Farmers at Pa Kham Distric, Buriram Provinces
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ก่อโรคไหม้และโรคเมล็ดด่างในข้าวของสารสกัดพืชสมุนไพร 7 ชนิด ได้แก่ ใบกะเพรา หัวข่าแก่ เปลือกแค ตะไคร้ ใบฝรั่ง ใบน้อยหน่า และใบสะเดา และพัฒนาน้ำสกัดพืชสมุนไพรเพื่อต้านเชื้อราที่ก่อโรคไหม้และโรคเมล็ดด่างในข้าว ทำการสกัดสารจากพืชสมุนไพรทั้ง 7 ชนิด โดยการแช่ในตัวทำละลาย ได้แก่ 50%เอทานอล/น้ำ ที่อุณหภูมิห้อง เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ได้สารสกัดหยาบด้วย 50%เอทานอล/น้ำ (crude 50% ethanol/water extract) ของใบกะเพรา หัวข่าแก่ เปลือกแค ตะไคร้ ใบฝรั่ง ใบน้อยหน่า และใบสะเดา มีเปอร์เซ็นต์สารสกัดหยาบต่อน้ำหนักพืชแห้งคือ 24.5172% 18.3880% 3.5106% 21.8894% 21.4368% 20.2292% และ 16.8788% ตามลำดับ นำสารสกัดทั้งหมดไปทำการทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ก่อโรคไหม้และโรคเมล็ดด่างในข้าวด้วยวิธี fluorometric method; 5(6)-carboxyfluorescene diacetate (CFDA) ผลการทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ก่อโรคไหม้ในข้าวพบว่า สารสกัดหยาบใบน้อยหน่าออกฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ก่อโรคไหม้ในข้าวมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มสารสกัดหยาบพืชตัวอย่าง 7 ชนิด โดยมีเปอร์เซ็นต์การยับยั้ง (% Inhibition) 23.59% ส่วนสารสกัดหยาบใบกระเพราและใบสะเดามีเปอร์เซ็นต์การยับยั้งใกล้เคียงกันคือ 10.96% และ 10.04% ตามลำดับ และสารสกัดหยาบตะไคร้มีเปอร์เซ็นต์การยับยั้ง 3.81% ในขณะที่สารสกัดหยาบหัวข่าแก่ สารสกัดหยาบเปลือกแค และ สารสกัดหยาบใบฝรั่ง ไม่ออกฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ก่อโรคไหม้ในข้าว ผลการทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ก่อโรคเมล็ดด่างในข้าวพบว่า สารสกัดหยาบใบน้อยหน่าออกฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ก่อโรคเมล็ดด่างในข้าวมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มสารสกัดหยาบพืชตัวอย่าง 7 ชนิด โดยมีเปอร์เซ็นต์การยับยั้ง 27.84% สารสกัดหยาบหัวข่าแก่มีเปอร์เซ็นต์การยับยั้ง 0.570% ในขณะที่สารสกัดหยาบใบกระเพรา สารสกัดหยาบเปลือกแค สารสกัดหยาบตะไคร้ สารสกัดหยาบใบฝรั่ง และสารสกัดหยาบใบสะเดา ไม่ออกฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ก่อโรคเมล็ดด่างในข้าว สำหรับการพัฒนาน้ำสกัดพืชสมุนไพรต้านเชื้อราทำการหมักใบน้อยหน่าซึ่งมีผลการออกฤทธิ์ต้านเชื้อราของสารสกัดหยาบมากที่สุด 2 แบบ คือ การหมักด้วย 50% เอทานอล/น้ำ และการหมักด้วยกากน้ำตาล ใช้อัตราส่วนพืชสมุนไพร 1 กรัมต่อตัวทำละลาย 20 มิลลิลิตร โดยทำการหมักเป็นระยะเวลา 3 วัน และ 7 วัน
บทคัดย่อ (EN): The purpose of this research was to test the antifungal activity that anti-blast disease and anti-dirty panicle disease in 7 medicinal plant extracts, Ocimum sanctum, Alpinia galangal, Sesbania grandiflora, Cymbopogon citrates, Annona squamosa, Psidium guajava and Azadirachta indica. In addition development of medicinal plant extracts for antifungal. The medicinal plants were extracted by marceration in 50% ethanol/water at room temperature for 24 hours to give crude 50% ethanol/water extracts in 24.5172% 18.3880% 3.5106% 21.8894% 21.4368% 20.2292% and 16.8788% dry weight, respectively. The results of anti-blast disease showed that the extract of Annona squamosa was the most active against fungal in 23.59% (% Inhibition). The extracts of Ocimum sanctum and Azadirachta indica had similar percentages of inhibition of 10.96% and 10.04%, respectively. Whereas the extracts of Alpinia galangal, Sesbania grandiflora and Psidium guajava were not active against fungal. The results of anti-dirty panicle disease showed that the extract of Annona squamosa was the most active against fungal in 27.84%. The extracts of galangal had 0.570%. Whereas the extracts of Ocimum sanctum, Sesbania grandiflora, Cymbopogon citrates, Psidium guajava and Azadirachta indica were not active against fungal. The development of medicinal plant extract, Annona squamosa were extracted by marceration in two solvents that 50% ethanol/water and molasses with ratio of 1 g per 20 ml of solvent for 3 days and 7 days.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
คำสำคัญ: น้ำสกัดสมุนไพร
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการย่อยที่ 1 การทดสอบฤทธิ์ของพืชสมุนไพรเพื่อต้านเชื้อราที่ก่อโรคในข้าวสู่การนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบน้ำสกัดสมุนไพรกำจัดเชื้อราเพื่อการผลิตข้าวอินทรีย์ในกลุ่มเกษตรกรรายย่อยของอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
30 กันยายน 2560
ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร น้ำสมุนไพรดื่มดีมีประโยชน์ การพัฒนาเชื้อราไตรโคเดอร์มาปฏิปักษ์ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดโรคข้าวเป็นชีวภัณฑ์เชิงพาณิชย์ บุก พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ การผลิต resistant starch จากแป้งข้าวด้วยวิธีการย่อยแป้งด้วยกรดร่วมกับการให้ความร้อนและความชื้น การสำรวจเชื้อแบคทีเรียสร้างสารต้านเชื้อราก่อโรคพืชเศรษฐกิจ ณ เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี โครงการสำรวจและศึกษาพืชสมุนไพรที่ใช้ในการผลิตยาสมุนไพรไทย สารสกัดสมุนไพรไทยยับยั้งเชื้อราน้ำสำคัญในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรในการควบคุมโรคติดเชื้อแบคทีเรีย ในปลาที่มีศักยภาพในการเลี้ยง ฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรบางชนิดในการยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อ Xanthomonas campestris
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก