สืบค้นงานวิจัย
ผลของปัจจัยการผลิตบางประการต่อการสังเคราะห์สารเมทาบอไลท์ทุติยภูมิในสะระแหน่ญี่ปุ่น (Metha arvensis)
ชัยอาทิตย์ อิ่นคำ - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: ผลของปัจจัยการผลิตบางประการต่อการสังเคราะห์สารเมทาบอไลท์ทุติยภูมิในสะระแหน่ญี่ปุ่น (Metha arvensis)
ชื่อเรื่อง (EN): Influence of Some Production Factors Inducing Synthesis of Secondary Metabolites in Japanese Mint (Metha arvensis)
บทคัดย่อ: สะระแหน่ญี่ปุ่น (Mentha arvensis) เป็นพืชสมุนไพรในเขตกึ่งร้อนที่มีศักยภาพในด้านอุตสาหกรรมน้ำมันหอมระเหย ทั้งนี้ด้วยข้อจำกัดทางด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตจึงส่งผลให้มีปริมาณผลผลิตและคุณภาพของน้ำมันหอมระเหยต่ำ การจัดการด้านธาตุอาหารพืชและการจัดการน้ำจึงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการออกดอก การเติบโตและการพัฒนารวมทั้งการผลิตสารเมทาบอไลท์ทุติยภูมิ การทดลองนี้จึงมุ่งศึกษาผลของปัจจัยการผลิตบางประการต่อการสังเคราะห์สารเมทาบอไลท์ทุติยภูมิในสะระแหน่ญี่ปุ่น (Mentha arvensis) ดำเนินการโดยควบคุมปัจจัยการผลิตพืช ได้แก่ (1) ระดับการให้น้ำ 4 ระดับ [ETc (Evapotransportation crop]= 25 50 75 และ 100%) และ (2) ระดับการให้ปุ๋ยไนโตรเจน 4 ระดับ (0 105 210 และ 315 มิลลิกรัมต่อลิตร) โดยปลูกพืชภายใต้โรงเรือนที่มีการพรางแสง 50% อุณหภูมิที่ 25 – 28 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ที่ 60 – 65% หลังปลูกพืชนาน 12 สัปดาห์ ผลการทดลองพบว่าระดับการให้น้ำที่ระดับ 75 และ 100% ทำให้พืชมีการเจริญเติบโตมากที่สุดในด้านความสูง (เฉลี่ย=22.96 ซม.)จำนวนต้นต่อกระถาง (เฉลี่ย=7.75 ต้น) ความหนาของลำต้น (เฉลี่ย=3.69 มม.) ความกว้างทรงพุ่ม (เฉลี่ย=28.03 ซม.) จำนวนใบ (เฉลี่ย=151.28 ใบ) น้ำหนักสด (เฉลี่ย=108.07 กรัม) และน้ำหนักแห้ง (เฉลี่ย=22.29 กรัม) ในขณะที่ระดับการให้น้ำ 75% ทำให้พืชมีพื้นที่ใบมากที่สุด (1104.10 ตร.ซม.) นอกจากนี้พบว่าระดับการให้น้ำที่ระดับ 25% ทำให้พืชมีความเข้มสีของใบมากที่สุด (41.13 SPAD unit) ส่วนระดับของสารเมทาบอไลท์ทุติยภูมิในด้านศักยภาพของสารต้านอนุมูลอิสระโดยวิธี DPPH และ ABTS พบว่า ทุกกรรมวิธีไม่มีความต่างทางด้านสถิติ อย่างไรก็ตามพบว่าระดับการให้น้ำที่ระดับ 25% และ 50% ทำให้พืชมีปริมาณฟีนอลลิกทั้งหมดมากกว่ากรรมวิธีอื่น (เฉลี่ย=0.41 mg gallic acid/g sample) ในการทดลองที่ 2 ระดับการให้ปุ๋ยไนโตรเจนที่ความเข้มข้น 210 และ 310 มิลลิกรัมต่อลิตร ส่งผลให้พืชมีการเจริญเติบโตมากที่สุดในด้านความสูงต้น (เฉลี่ย 21.41 ซม.) และความเข้มสีของใบ (เฉลี่ย 25.54 ซม.) นอกจากนี้ระดับการให้ปุ๋ยไนโตรเจนที่ความเข้มข้น 310 มิลลิกรัมต่อลิตร ทำให้พืชมีการเจริญเติบโตมากที่สุดในด้านจำนวนต้นต่อกระถาง (9.00 ต้น) ความหนาลำต้น (3.28 มม.) ความกว้างทรงพุ่ม (27.55 ซม.) จำนวนใบ (162.57 ใบ) พื้นที่ใบ (568.38 ตร.ซม.) น้ำหนักสด (80.79 กรัม) และน้ำหนักแห้ง (17.09 กรัม) สำหรับการตรวจติดตามกระบวนการสังเคราะห์เมทาบอไลท์ทุติยภูมิในการต้านอนุมูลอิสระโดยวิธี DPPH และ ABTS พบว่าระดับการให้ปุ๋ยไนโตรเจนที่ความเข้มข้น 0 มิลลิกรัมต่อลิตร ทำให้พืชมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระโดยวิธี DPPH และ ABTS มากที่สุด (17.32% และ 23.09% ตามลำดับ) ส่วนปริมาณฟีนอลลิกทั้งหมดพบว่าไม่มีความแตกต่างทางด้านสถิติ ดังนั้นการจัดการน้ำและระดับของปุ๋ยไนโตรเจนมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช โดยการให้น้ำที่ระดับ ETc= 75% และ 100% และการให้ระดับของปุ๋ยไนโตรเจนที่ 315 มิลลิกรัมต่อลิตร ทำให้พืชมีการเจริญเติบโตรวมทั้งน้ำหนักสดและน้ำหนักแห้งมากที่สุด ทั้งนี้ในการกระตุ้นกระบวนการสังเคราะห์สารเมทาบอไลท์ทุติยภูมิของพืชกลับพบว่าการให้น้ำที่ระดับ ETc= 25% และ 50% และการให้ระดับของปุ๋ยไนโตรเจนที่ 0 และ 105 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งส่งผลทำให้ต้นสะระแหน่ญี่ปุ่นมีปริมาณเมนทอลมากที่สุด
บทคัดย่อ (EN): Japanese mint (Mentha arvensis) is a sub-tropical herbaceous plant with high potential for essential oil industry. However, the limitation of knowledge and production technology of such crop results in low production yield and essential oil quality. Plant nutrition and water management are important factors during flowering, plant growth and development as well as secondary metabolite production. Within this study, influences of some production factors inducing synthesis of secondary metabolites in Japanese mint (Mentha arvensis) were studies. The factors of interest were (I) water management4 levels [ETc (Evapotransportation crop]=25, 50, 75 and 100%) and (II) nitrogen 4 levels (0, 105, 210 and 315 mg/L). Plants were growing under 50% shading, temperature at 25 – 28 ๐c and relative humidity at 60 – 65 %. After planting at 12 weeks the result showed that water management at 75% and 100% gave the highest growth measures namely; plant height (average=22.96 cm), number of stem (average=7.75 stems), stem thickness (average=3.69 mm), diameter of canopy (average=28.03 cm), number of leaves per plant (average=151.28 leaves), fresh weight (average=108.07 grams) and dry weight (average=22.29 grams). While, leaves area value indicates that water management at 75% has the highest value (1104.10 cm2). In addition, SPAD value indicates that water management at 25% has the highest value (41.13 SPAD unit). Level of secondary metabolite as potential of antioxidant by DPPH and ABTS methods had no significant different, however, total phenolic content was higher in Etc 25% and 50% than other treatments (average=0.41 mg gallic acid/g sample). In the second experiment, nitrogen level at 210 and 310 mg/L gave the highest in growth measures namely; plant height (average=21.41 cm) and SPAD unit (average=25.54 SPAD unit). In addition, nitrogen level at 310 mg/L gave the highest in growth measures viz; number of stem (9.00 stems), stem thickness (3.28 mm), diameter of canopy (27.55 cm), number of leaves per plant (162.57 leaves), leave area (568.38 cm2), fresh weight (80.79 grams) and dry weight (17.09 grams) than other treatments. Synthesis of secondary metabolites as described by antioxidant by DPPH and ABTS methods, nitrogen level at 0 mg/L was higher than other treatments (17.32% and 23.09%, respectively). However, total phenolic content had no significant different. Thus, water management and nitrogen level had affected on generally growth. Giving water at 75%, 100% and nitrogen level at 315 mg/L gave the highest growth, fresh and dry weights. Synthesis of secondary metabolites found that water management at 25%, 50% and nitrogen levels at 0 and 105 mg/L had the highest of menthol content.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: สมุนไพร
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ชัยอาทิตย์ อิ่นคำ. "ผลของปัจจัยการผลิตบางประการต่อการสังเคราะห์สารเมทาบอไลท์ทุติยภูมิในสะระแหน่ญี่ปุ่น (Metha arvensis)Influence of Some Production Factors Inducing Synthesis of Secondary Metabolites in Japanese Mint (Metha arvensis)". มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2560

ชัยอาทิตย์ อิ่นคำ. "ผลของปัจจัยการผลิตบางประการต่อการสังเคราะห์สารเมทาบอไลท์ทุติยภูมิในสะระแหน่ญี่ปุ่น (Metha arvensis)Influence of Some Production Factors Inducing Synthesis of Secondary Metabolites in Japanese Mint (Metha arvensis)". มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2560. Print.



TARR Wordcloud:
ผลของปัจจัยการผลิตบางประการต่อการสังเคราะห์สารเมทาบอไลท์ทุติยภูมิในสะระแหน่ญี่ปุ่น (Metha arvensis)
ชัยอาทิตย์ อิ่นคำ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
30 กันยายน 2560
การประเมินความสัมพันธ์และประสิทธิภาพของปัจจัยการผลิตต่อผลผลิตข้าว ในเขตจังหวัดพิษณุโลก โดยใช้แบบจำลองทางการเกษตร การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การจัดการปัจจัยการผลิตที่เหมาะสม ระหว่างการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตผักจาก GAP สู่เกษตรอินทรีย์ การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การศึกษาการผลิตอาหารสุนัข ปัจจัยการผลิตที่มีผลกระทบต่อผลผลิตยาง การพื้นฟูดินสันป่าตองด้วยหญ้าแฝกเพื่อเพิ่มผลิตมันสำปะหลัง ผลของการใช้สารสกัดสมุนไพรกานพลูและสะระแหน่ต่อไรศัตรูผึ้ง ปัจจัยบางประการที่มีอิทธิพลต่อการผลิตทางการเกษตรและการบริโภคของเกษตรกร เขตเกษตรน้ำฝน กิ่งอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี การศึกษาผลของปัจจัยบางประการต่อการเลี้ยงปลาบึกในกระชังเชิงพาณิชย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair