สืบค้นงานวิจัย
การเพิ่มประสิทธิภาพในการฟักไข่ปูม้าจากโรงงานแปรรูป
ณิชาพล บัวทอง - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การเพิ่มประสิทธิภาพในการฟักไข่ปูม้าจากโรงงานแปรรูป
ชื่อเรื่อง (EN): The efficiency of blue swimming crab eggs hatchery from process industrial
บทคัดย่อ: การศึกษาแนวทางในการประโยชน์จากปูไข่นอกกระดองจากโรงงานแกะเนื้อปูเพื่อเพาะฟักแล้วปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ โดยการทดลองในครั้งนี้ได้มีการแบ่งการทดลองออกเป็น 2 การทดลองใหญ่ๆ คือ การทดลองที่1 จะเป็นการศึกษาวิธีการแยกไข่ปูม้าจากตับปิ้งปูไข่นอกกระดอง ส่วนการทดลองที่2 จะเป็นการศึกษาวิธีการเพาะฟักไข่ปูม้าจากตับปิ้งปูไข่นอกกระดอง โดยทั้ง 2 การทดลองนี้ จะประกอบด้วยการทดลองย่อย 3 การทดลองย่อย คือ ชุดไข่ปูม้าสีเหลือง ชุดไข่ปูม้าสีน้าตาล และชุดไข่ปูม้าสีดา แล้วฟักไข่ปูที่ความหนาแน่นเดียวกัน คือ 660,900 ฟอง ต่อน้าทะเล 6 ลิตร (ไข่ปูม้า 5 กรัมต่อน้าทะเล 1 ลิตร) เหมือนกัน แล้วพิจารณาเปรียบเทียบจากอัตราการฟักของไข่ปูม้า โดยการทดลองที่1 ในแต่ละการทดลองย่อยจะประกอบด้วย 2 ชุดการทดลอง คือ ชุดการทดลองที่1 ใช้มือขยี้เบาๆ และ ชุดการทดลองที่2 ใช้น้ายาแยกไข่ปูม้า สรุปว่า วิธีการแยกไข่ปูม้าออกจากตับปิ้ง สาหรับไข่ปูม้าสีเหลืองควรใช้น้ายาที่มีสารผสมของทริปซิน 0.05 เปอร์เซ็นต์ และEDTA 400 มิลลิลิตรต่อลิตร (Pillai and Mohanty, 2003) ส่วนไข่ปูม้าสีน้าตาลและไข่ปูม้าสีดาสามารถใช้มือขยี้ที่ไข่ปูม้าได้โดยตรง ส่วนการทดลองที่2 ในแต่ละการทดลองย่อยจะประกอบด้วย 4 ชุดการทดลอง คือ ชุดการทดลองที่1 เป็นการฟักไข่ปูทั้งตับปิ้ง ชุดการทดลองที่2 เป็นการฟักไข่ปูที่แยกจากตับปิ้งปูภายใน 2 โหลแก้ว ชุดการทดลองที่3 เป็นการฟักไข่ปูม้าที่แยกจากตับปิ้งปูด้วยระบบกรวยฟักไข่ และ ชุดการทดลองที่4 เป็นการฟักไข่ปูที่แยกจากตับปิ้งปูภายในโหลแก้วพร้อมติดตั้งตัวกวน สรุปว่า การทดลองย่อยในชุดไข่ปูม้าสีเหลือง ควรใช้วิธีการเพาะฟักไข่ปูที่แยกจากจับปิ้งปูภายในโหลแก้ว แล้วในวันที่ 7 ซึ่งมีค่าอัตราการฟักสูงสุด เท่ากับ 78.45?1.38 เปอร์เซ็นต์ และให้ผลแตกต่างกับวิธีอื่นๆ (p<0.05) ส่วน การทดลองย่อยในชุดไข่ปูม้าสีน้าตาล และ ชุดไข่ปูม้าสีดานั้น ควรใช้วิธีการฟักไข่ปูทั้งจับปิ้งภายในโหลแก้วเหมือนกัน โดยชุดไข่ปูม้าสีน้าตาล ในวันที่ 5 อัตราการฟักจะมีค่าสูงสุด เท่ากับ 44.61?2.79 เปอร์เซ็นต์ ส่วนไข่ปูม้าที่มีสีดา ในวันที่ 4 อัตราการฟักจะมีค่าสูงสุด ซึ่งมีค่าเท่ากับ 52.32?1.97 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ และให้ผลแตกต่างกับวิธีอื่นๆ (p<0.05) คาสาคัญ : การฟักไข่ปูม้า และ ปูม้า
บทคัดย่อ (EN): pelagicus) at egg-mass over their abdominal flaps stage from crab processing plants, was made by bringing their eggs to be hatched to young crabs and release them back to the nature. In this experiment, it was divided into 2 main experiments, namely, the 1st one was the study of how to separate the egg-mass out of the blue crab’s abdominal flaps and the 2nd one was the study of how to hatch the egg-mass out of the abdominal flap. Whereby both experiments individually consisted of 3 sub-experiments, including, the 1st sub-experiment was made when the egg-mass was yellow, the 2nd sub-experiment made when the egg-mass was brown and the 3rd sub-experiment made when the egg-mass was black. Thereafter, the crab’s eggs were hatched or incubated at the same density levels in all sub-treatments which was 660,900 eggs per 6 liters of sea water (equally to 5 grams of the crab’s eggs per 1 liter of sea water), and then compared the hatching rate of the crab’s eggs in each sub-experiment. The 1st experiment, each sub-experiment consisted of 2 treatments or sets of experiment. Whereby there were 2 differently egg-mass separating methods, including, the first method, using hand to gently rub or scrub the egg-mass and the 2nd method the crab’s egg-mass was stimulated to disintegrate by using a solution. From the experimental result. It could be concluded that the appropriate method to separate the crab’s egg-mass when it was yellow was using the solution 3 mixed with 0.05 percents of Trypsin and 400 mg of EDTA per liter. For the brown crab egg-mass and black egg-mass, they could be rubbed or scrubbed directly by hand to be disintegrated. The 2nd experiment, in each sub-experiment consisted of four treatments of different hatching methods, namely, the 1st treatment, the whole egg-mass with the abdominal flap was hatched together, the disintegrated crab’s eggs were hatched in a big glass bottle, the 3rd treatment, the disintegrated crab’s eggs were hatched in a hatchery system funnel and the 4th treatment, the disintegrated crab’s eggs were hatched in a big glass bottle with stirring gear. It could be concluded that the treatment with the crab’s yellow integrated eggs should be hatched in a glass bottle and it was found that on the 7th day, the highest hatch rate was 78.45 ? 1.38 percent and the yield different result from other methods (p < 0.05). But for the treatments made with the crab’s brown and black eggs, the black series, the whole egg-mass with the abdominal flap should be hatched together in a big glass bottle too. For the brown egg-mass treatment, it was found that on the 5th day of hatchery, the highest hatch rate was 44.61 ? 2.79 percent. But the black egg-mass treatment, it was found that on the 4th day of hatchery, the highest hatch rate was 52.32 ? 1.97 percent, respectively and they yielded different result from other methods (p < 0.05). Keywords: Blue swimming crab, Hatching system, Gravid females and Portunus pelagicus
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: โรงงานแปรรูปปูม้า
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ณิชาพล บัวทอง. "การเพิ่มประสิทธิภาพในการฟักไข่ปูม้าจากโรงงานแปรรูปThe efficiency of blue swimming crab eggs hatchery from process industrial". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2558

ณิชาพล บัวทอง. "การเพิ่มประสิทธิภาพในการฟักไข่ปูม้าจากโรงงานแปรรูปThe efficiency of blue swimming crab eggs hatchery from process industrial". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2558. Print.



TARR Wordcloud:
การเพิ่มประสิทธิภาพในการฟักไข่ปูม้าจากโรงงานแปรรูป
ณิชาพล บัวทอง
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
30 กันยายน 2558
ศึกษาผลของการเคลือบไข่และอัตราการถ่ายเทน้ำในการฟักไข่ปลาดุกด้านโดยใช้กรวยพลาสติก การเพาะเลี้ยงปูม้าในบ่อดินแบบครบวงจร การศึกษาทรัพยากรปูม้าและการเพิ่มกำลังผลิตปูม้าในบริเวณอ่าวประจวบ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การเพิ่มเปอร์เซ็นต์การฟักไข่ไหมพันธุ์ไทยด้วยน้ำอุ่น ผลของวิตามินซีต่อการเจริญเติบโต อัตรารอดตายและการลอกคราบของปูม้า (Portunus pelagicus, Linnaeus 1758) ผลของการเสริม Schizochytrium limacinum(D.Honda & Yokochi, 1998) 4 ระดับ ในการอนุบาลลูกปูม้า (Portunus pelagicus Linnaeus, 1758) อิทธิพลของฤดูกาลต่อการฟักไข่เป็ดเทศ ความหลากหลายทางชีวภาพของปูบริเวณหมู่เกาะมัน จังหวัดระยอง ประสิทธิภาพการฟักไข่ปลากดแก้วโดยใช้วิธีฟักไข่ที่แตกต่างกัน การประเมินทรัพยากรปูม้าและผลผลิตหลังการปล่อยพันธุ์ปูม้าในทะเลสาบสงขลา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair