สืบค้นงานวิจัย
การเสริมกรดไขมันไม่อิ่มตัว (HUFAs) ร่วมกับสาหร่ายเซลล์เดียวเป็น อาหารปรับสภาพพ่อ-แม่พันธุ์หอยตะโกรมกรามขาว: ผลต่อองค์ประกอบ ทางชีวเคมี การเจริญเติบโต และการลงเกาะของลูกหอย
วรพร ธารางกูร - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
ชื่อเรื่อง: การเสริมกรดไขมันไม่อิ่มตัว (HUFAs) ร่วมกับสาหร่ายเซลล์เดียวเป็น อาหารปรับสภาพพ่อ-แม่พันธุ์หอยตะโกรมกรามขาว: ผลต่อองค์ประกอบ ทางชีวเคมี การเจริญเติบโต และการลงเกาะของลูกหอย
ชื่อเรื่อง (EN): Supplementation of Highly Unsaturated Fatty Acids (HUFAs) to Unicellular Algae Diet as Food for the Tropical Oyster Crassostrea belcheri (Sowerby 1871) Broodstock Conditioning: Effects on Biochemical Compositions, Growth and Settlement of Laval
บทคัดย่อ: บทคัดย่อ จากการศึกษาการเสริมกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว (unsaturated fatty acid) โดยการผสมน้ำมันปลาทูน่าสกัดรูป emulsion ในสาหร่ายเซลล์เดียวผสมเป็นอาหารแม่พันธุ์หอยตะโกรมกรามขาว (Crassostrea belcheri) พบว่าไม่มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของปริมาณกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวชนิด Arachidonic acid (ARA), Eicosapentaenoic acid (EPA), Docosahexaenoic acid (DHA) และปริมาณของกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวทั้งหมด (Total unsaturated fatty acid) เมื่อเปรียบเทียบการใช้สาหร่ายเซลล์เดียวเป็นอาหารเพียงอย่างเดียว การผสมน้ำมันปลาทูน่าสกัดยังส่งผลให้อัตราการผสมติดของไข่ อัตราการรอดของลูกหอยระยะ D-shape และ Umbo มีค่าต่ำกว่าการไม่เสริมน้ำมันปลาทูน่าสกัดในอาหารและลูกหอยไม่สามารถพัฒนาถึงระยะลงเกาะได้ การเสริมกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด DHA สูงประกอบด้วยสาหร่ายขาว Schizochytrium limacinum และน้ำมันปลาทูน่าสกัดในสาหร่ายเซลล์ผสมรูป emulsion เป็นอาหารลูกหอยตะโกรมกรามขาวระยะวัยเกล็ด ผลการศึกษาพบว่าการเสริมกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด DHA สูงจากทั้ง 2 แหล่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของลูกหอย การเสริม S. limacinum ในอัตรา 0.5%/กรัมน้ำหนักเปียกของลูกหอยมีผลต่อการเจริญเติบโตของเปลือกไม่แตกต่างจากการใช้สาหร่ายเซลล์เดียว 100% ขณะที่การเสริม S. limacinum ในอัตรา 1.0%/กรัมน้ำหนักเปียกของลูกหอย และการเสริมน้ำมันปลาทูน่าสกัดในอัตรา 0.1% และ 0.5% ของปริมาตรน้ำที่ใช้ทดลอง มีผลทำให้การเจริญเติบโตของเปลือกมีค่าต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้สาหร่ายเซลล์เดียว 100% และน้ำทะเลธรรมชาติ ลูกหอยนางรมที่ให้อาหารสาหร่ายเซลล์เดียวโดยไม่เสริมกรดไขมันมีค่าผลผลิตรายวันสูงกว่าการเสริมกรดไขมันทั้ง 2 แหล่ง ในช่วงสิ้นสุดการทดลองพบว่าอัตราการรอดของลูกหอยที่ให้สาหร่ายเซลล์เดียวเป็นอาหารโดยไม่เสริมกรดไขมันจากทั้ง 2 แหล่งมีค่าสูงกว่าการเสริมกรดไขมันและน้ำทะเลธรรมชาติ การเสริมกรดไขมันมีผลต่อสัดส่วนขนาดของลูกหอย คำสำคัญ: กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว, สาหร่ายขาว, น้ำมันปลาทูน่า, หอยนางรม, ผลผลิตรายวัน
บทคัดย่อ (EN): Supplementation of tuna oil emulsion in mixed microalgal as feed for the oyster (Crassostrea belcheri) broodstock conditioning revealed that unaffected in increasing of highly unsaturated fatty acids, includes Arachidonic acid (ARA), Eicosapentaenoic acid (EPA), Docosahexaenoic acid (DHA) and total unsaturated fatty acid in comparison with non-supplemented. Tuna oil supplementation was effected on fertilization rate, survival rate of D-shape and umbo stages and larval can’t develop to setting stage in comparison with non-supplemented. Supplementation with DHA-rich Schizochytrium limacinum and tuna oil emulsion in microalgal diets were tested in the nursery culture of juvenile oysters. The results reveal that using DHA-rich supplements from both sources affected the growth performance of juvenile oysters. Supplementation with 0.5% DHA from S. limacinum/g wet weight was found to cause non-significant differences in absolute shell growth compared with 100% microalgal, while 1.0% DHA from S. limacinum/g wet weight, 0.1% and 0.5% of tuna oil/water volume supplemented in feed were decreased in absolute shell growth compared with a 100% microalgal diet and natural sea water. Juvenile oysters fed on non-supplemented mixture microalgal diets were found to have a higher daily yield than those fed on a diet using DHA-rich supplements from different sources and in different ratios. At the end of the experiment, a lower survival rate was found for juvenile oysters fed on a mixed microalgal diet supplemented with S. limacinum (1%) and tuna oil (0.2%) than for oysters fed on 100% microalgal diets, 0.5% DHA from S. limacinum/g wet weight, 0.1% of tuna oil/water volume and natural sea water. Using DHA-rich supplements from different sources and in different ratios affected on the size fraction of juvenile oysters. Keywords: HUFAs, Schizochytrium limacinum, tuna oil, lipid emulsion, daily growth rate, Crassostrea belcheri
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
คำสำคัญ: แม่พันธุ์
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเสริมกรดไขมันไม่อิ่มตัว (HUFAs) ร่วมกับสาหร่ายเซลล์เดียวเป็น อาหารปรับสภาพพ่อ-แม่พันธุ์หอยตะโกรมกรามขาว: ผลต่อองค์ประกอบ ทางชีวเคมี การเจริญเติบโต และการลงเกาะของลูกหอย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
30 กันยายน 2557
การเสริมกรดไขมัน EPA และ DHA ในสาหร่ายเซลล์เดียวเข้มข้นจากบ่อเลี้ยงกุ้งเป็นอาหารปรับสภาพพ่อแม่พันธุ์หอยตะโกรมกรามขาว : ผลต่อองค์ประกอบของกรดไขมันในไข่และลูกหอยระยะวัยอ่อน การเจริญเติบโตและอัตราการรอด ขอบเขตการเจริญเติบโต ของพ่อแม่พันธุ์หอยตะเภา (Donax scortum Linne, 1758) ที่เลี้ยงด้วยอาหารต่าง ๆ กัน ในโรงเพาะฟัก การผลิตพ่อแม่พันธุ์ปูทะเล (Scylla paramamosain Estampador, 1949) จากลูกพันธุ์ที่เพาะฟักได้จากโรงเพาะฟัก การผลิตเศษซากเซลล์เดียวจากสาหร่ายทะเลเพื่อใช้ทดแทนสาหร่ายเซลล์เดียวในการอนุบาลลูกหอยตะโกรมกรามขาวในโรงเพาะฟัก ผลของการใช้ Microalgae pastes จากบ่อเลี้ยงกุ้งต่อการเจริญเติบโตและองค์ประกอบทางชีวเคมีของลูกหอยตะโกรมกรามขาว ผลของกระแสน้ำ,ระยะเวลา ที่มีผลต่อการเจริญเติบโต คุณภาพ และวัยเจริญพันธุ์ของพ่อแม่พันธุ์กุ้งกุลาดำที่เลี้ยงในบ่อดิน การจัดการพันธุกรรมพ่อแม่พันธุ์ปลาดุกลำพันในโรงเพาะฟักโดยใช้โมเลกุลเครื่องหมาย AFLP การจัดการที่เหมาะสมในการลำเลียงพ่อแม่พันธุ์ปลาทู Rastrelliger brachysoma (Bleeker,1851) จากแหล่งทำการประมงสู่โรงเพาะฟัก การฟื้นฟูแหล่งพ่อแม่พันธุ์หอยลาย (Paphia undulata)บริเวณจังหวัดตราด สภาวะทรัพยากรหอยลายในแหล่งอนุรักษ์พ่อแม่พันธุ์ บริเวณจังหวัดตราด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก