สืบค้นงานวิจัย
การเพิ่มประสิทธิภาพการขยายพันธุ์หน้าวัวด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช
ปิยนันท์ ชมนาวัง - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
ชื่อเรื่อง: การเพิ่มประสิทธิภาพการขยายพันธุ์หน้าวัวด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช
ชื่อเรื่อง (EN): Propagation Efficiency Enhanced of Anthurium (Araceae) Using Tissue Culture Technique
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ปิยนันท์ ชมนาวัง
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของสารควบคุมการเจริญเติบโตพืชกลุ่มออกซินและไซโตไคนินที่มีต่อการการเจริญพัฒนาของหน้าวัวที่เพาะเลี้ยงในสภาพปลอดเชื้อ และศึกษาหาวัสดุปลูกที่เหมาะสมต่อการเตรียมต้นกล้าหน้าวัว จากการนำชิ้นส่วนต่างๆ ของหน้าวัว มาเพาะเลี้ยงบนอาหาร Murashige and Skoog (MS), Gamborg B-5 (B5) และ Knudson (Kn) พบว่า อาหารที่เหมาะสมในการชักนำให้เกิดแคลลัสได้ดีคือ B5 โดยชิ้นส่วนที่สามารถชักนำให้เกิดแคลลัสได้ดีคือแผ่นใบ เมื่อนำแคลลัสที่ได้มาชักนำให้เกิดต้นอ่อนบนอาหาร MS พบว่า สายพันธุ์ที่สามารถชักนำให้เกิดต้นได้ในปริมาณมาก 2 สายพันธุ์คือ ทรอปิคอล และพิชตาเช่ จึงทำการศึกษาการเพิ่มจำนวน โดยนำต้นกล้าที่มีความสูงเฉลี่ย 2 เซนติเมตร มี 2-3 ใบ นำไปเพาะเลี้ยงในห้องที่ 25 องศาเซลเซียส นาน 2 เดือน ผลของสภาพอาหารแข็งและอาหารเหลวร่วมกับสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซินและไซโตไคนิน 6 ชนิด ได้แก่ Indole butyric acid (IBA), Napthalene acetic acid (NAA), 2,4-dichlorophenoxyacetic acid (2,4-D), 6-Benzyl adenine (BA), Kinetin และ Zeatin ในระดับความเข้มข้น 1 มิลลิกรัมต่อลิตร ต่อสายพันธุ์ ทรอปิคอล พบว่าอาหารแข็งให้จำนวนต้นเฉลี่ยได้สูงกว่าอาหารเหลว และอาหารแข็งที่มี BA ให้จำนวนต้นเฉลี่ยสูงที่สุด ผลต่อความสูงของต้นก็ให้ผลการทดลองที่คล้ายกัน แต่พบว่า จำนวนรากเฉลี่ยและความยาวเฉลี่ยของราก พบว่าอาหารแข็งที่มี IBA ให้ค่าสูงที่สุด ส่วนผลต่อสายพันธุ์พิชตาเช่ พบว่าอาหารแข็งที่มี Kinetin ให้จำนวนต้นเฉลี่ยสูงที่สุด แต่อาหารแข็งที่มี BA ให้ความสูงเฉลี่ยสูงที่สุด และอาหารที่มี IBA ให้จำนวนรากเฉลี่ย และความยาวรากเฉลี่ยสูงที่สุด ผลของ NAA และ BA ต่อสายพันธุ์ทรอปิคอล พบว่าในอาหารแข็งที่มี BA 1 มิลลิกรัมต่อลิตร ให้จำนวนต้นเฉลี่ย และความสูงเฉลี่ยของต้นได้สูงที่สุด แต่พบว่าอาหารที่มี BA 1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับ NAA 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ชักนำให้เกิดรากได้ดี ในขณะที่อาหารที่มี BA และ NAA ที่ระดับ 2 มิลลิกรัมต่อลิตรทำให้ความยาวเฉลี่ยของรากสูงที่สุด สายพันธุ์พิชตาเช่ พบว่า อาหารแข็งที่มี BA 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ให้จำนวนต้นและความสูงเฉลี่ยของต้น มากที่สุด ในขณะที่อาหารที่มี BA 1 มิลลิกรัมต่อลิตร และ NAA 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ชักนำให้เกิดรากได้มากที่สุด และมีค่าความยาวรากเฉลี่ยสูงที่สุด ผลของ NAA และ Kinetin ต่อ สายพันธุ์ทรอปิคอล เมื่อเพาะเลี้ยงในอาหารแข็งที่มี Kinetin 1 มิลลิกรัมต่อลิตรร่วมกับ NAA 2 มิลลิกรัมต่อลิตรสามารถเพิ่มจำนวนต้นเฉลี่ยได้มากที่สุด และ จำนวนรากเฉลี่ยมากที่สุด แต่อาหารที่มี Kinetin และ NAA 2 มิลลิกรัมต่อลิตรทำให้ต้นมีความสูงเฉลี่ยมากที่สุด และอาหารที่มีเฉพาะ NAA 2 มิลลิกรัมต่อลิตรทำให้รากมีความยาวเฉลี่ยสูงที่สุด สายพันธุ์พิชตาเช่ พบว่า อาหารแข็งที่มี Kinetin และ NAA 2 มิลลิกรัมต่อลิตรชักนำให้เกิดต้นมากที่สุด และความยาวเฉลี่ยของต้นสูงที่สุด ในขณะที่ Kinetin 1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับ NAA 2 มิลลิกรัมต่อลิตรสามารถเพิ่มจำนวนรากเฉลี่ยได้มากที่สุด และ จำนวนรากเฉลี่ยมากที่สุด ผลของ NAA และ zeatin ต่อสายพันธุ์ทรอปิคอล พบว่า อาหารแข็งที่มี Zeatin 2 มิลลิกรัมต่อลิตรชักนำให้เกิดต้นมากที่สุด และความยาวเฉลี่ยของต้นสูงที่สุด ในขณะที่ Zeatin 1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับ NAA 2 มิลลิกรัมต่อลิตรสามารถเพิ่มจำนวนรากเฉลี่ยได้มากที่สุด และ อาหารที่มี Zeatin และ NAA ที่ระดับ 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ความยาวรากเฉลี่ยมากที่สุด สายพันธุ์พิชตาเช่ พบว่า อาหารแข็งที่มี Zeatin และ NAA 2 มิลลิกรัมต่อลิตรชักนำให้เกิดต้นมากที่สุด ความยาวเฉลี่ยของต้นสูงที่สุด และ จำนวนรากเฉลี่ยมากที่สุด ในขณะที่ Zeatin 1 มิลลิกรัมต่อลิตร สามารถเพิ่มความยาวรากเฉลี่ยได้มากที่สุด ในการทดลองที่ทำการศึกษาหาวัสดุปลูกที่เหมาะสมต่อการเตรียมต้นกล้าหน้าวัว สายพันธุ์ทรอปิคอลและพิชตาเช่ ที่ได้จากการขยายพันธุ์ในสภาพปลอดเชื้อก่อนทำการย้ายออกปลูกในสภาพธรรมชาติ ผลการทดลองพบว่า วัสดุปลูกที่ให้ค่าความสูงเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ขุยมะพร้าว ซึ่งให้ค่าความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ รองลงมาคือ ขี้เลื่อย และดินทราย มีค่าต่ำที่สุด ในหน้าวัวทั้งสองสายพันธุ์
บทคัดย่อ (EN): The objective of the study was to evaluate effect of culture media condition, some auxins and cytokinins and various growing media on growth and development of adventitious shoot in Anthurium spp. The study consisted of four experiments. Experiment I to prepare callus by cultivate various explants on Murashige and Skoog (MS), Gamborg B-5 (B5) and Knudson (Kn). The results showed that the highest calluses were obtained on B5 medium and leaf in every cultivar. Experiment II was used callus from experiment I for multiply number of shoot. The highest numbers of shoot were found in cultivar Tropical, Pistache and Champion pink cultured on MS medium. Experiment III cultivar Tropical and Pistache were used in four experiments. Experiment A was laid in Completely Randomized Design (CRD) with two main plots (solid and liquid media) and six sub plots (Plant growth regulator; Auxin and cytokinin; Indole butyric acid (IBA), Napthalene acetic acid (NAA), 2,4-dichlorophenoxyacetic acid (2,4-D), 6-Benzyl adenine (BA), Kinetin and Zeatin in concentration 1 mg/l) with fourteen experiments, three replications per cultivar, the adventitious shoot were cultured for two months in the incubated room (25 Celsius). The results showed that the higher growth and development in Tropical were obtained on MS solid than liquid medium, highest number of shoot and shoot height were obtained on MS solid contained BA but number of root and root long were found on MS solid medium contained IBA. The results in Pistache, the highest number of shoot were found on MS solid medium contained Kinetin. MS solid medium plus BA gave the shoot height, number of root and root long. Experiment B was study on effect of NAA and BA combination. MS solid medium contained of BA 1 mg/l gave highest number of shoot and shoot height in Tropical and MS solid medium contained of BA 1 mg/l plus NAA 2 mg/l gave the highest number of root, but MS solid medium contained of BA 2 mg/l plus NAA 2 mg/l gave the highest root long. In Pistache, MS solid medium contained of BA 2 mg/l gave number of shoot and shoot height, and MS solid medium contained of BA 1 mg/l plus NAA 2 mg/l gave highest number of root and root long. Experiment C was study on effect of NAA and Kinetin combination. In Tropical, the optimum medium for highest number of shoot and number of root was MS solid medium contained of Kinetin 1 mg/l plus NAA 2 mg/l, but the highest of shoot height was cultured on MS solid medium contained Kinetin and NAA 2 mg/l and the highest of root long was cultured on MS solid medium contained of NAA 2 mg/l. In Pistache, the optimum medium for highest number of shoot and shoot height was MS solid medium contained of Kinetin 2 mg/l plus NAA 2 mg/l, in case of the highest of number of root and root long was cultured on MS solid medium contained Kinetin 1 mg/l and NAA 2 mg/l. Experiment D was study on effect of NAA and Zeatin combination. In Tropical, the highest of number of shoot and shoot height was cultured on MS solid medium contained with Zeatin 2 mg/l, but the highest of number of root was cultured on MS solid medium plus Zeatin 1 mg/l and NAA 2 mg/l. The best of medium for root long was MS solid medium contained with Zeatin and NAA 2 mg/l. In Pitache, the highest of number of shoot, shoot height and number of root was cultured on MS solid medium contained with Zeatin and NAA 2 mg/l, in case of the highest of root long the best of medium was MS plus Zeatin 1 mg/l. Experiment IV was to the study on various growing media (sand, coconut dust, sawdust, charcoal and rice hull) affecting growth of young plants from tissue culture of Anthurium Tropical and Champion pink cultivars. Young plant of Anthurium grew very well in coconut dust and sawdust after transplantation for 2 months.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
คำสำคัญ: แคลลัส
คำสำคัญ (EN): callus
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ปิยนันท์ ชมนาวัง. "การเพิ่มประสิทธิภาพการขยายพันธุ์หน้าวัวด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชPropagation Efficiency Enhanced of Anthurium (Araceae) Using Tissue Culture Technique". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน. 2554

ปิยนันท์ ชมนาวัง. "การเพิ่มประสิทธิภาพการขยายพันธุ์หน้าวัวด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชPropagation Efficiency Enhanced of Anthurium (Araceae) Using Tissue Culture Technique". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
การเพิ่มประสิทธิภาพการขยายพันธุ์หน้าวัวด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช
ปิยนันท์ ชมนาวัง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
30 กันยายน 2554
การขยายพันธุ์ต้น Tea Tree โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การขยายพันธุ์ไม้ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์บางชนิด โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อการอนุรักษ์พันธุกรรมและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน การเพาะเลี้ยงพรรณพืชวงศ์ขิงบางชนิดที่พบที่เขื่อนสิริกิติ์โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตต้นพันธุ์ดาหลาด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โครงการวิจัยการขยายพันธุ์และปรับปรุงพันธุ์พืชโดยใช้เทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ศึกษาการขยายพันธุ์ผักย่านางด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การขยายพันธุ์และการเติบโตของไม้พะยูง การผลิตต้นกล้าพืชสกุลเร่วโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การปรับปรุงพันธุ์หญ้าแพงโกล่าโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การขยายพันธุ์ใบไม้สีทอง (Bauhinia aureifolia) ด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair