สืบค้นงานวิจัย
การศึกษารูปแบบที่เหมาะสมการเลี้ยงหมูหลุม ของเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
สิริวัฒน์ กล่อมปัญญา - กรมปศุสัตว์
ชื่อเรื่อง: การศึกษารูปแบบที่เหมาะสมการเลี้ยงหมูหลุม ของเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
ชื่อเรื่อง (EN): Study of appropiate model bio swine production of farmers in the Lower Northeastern Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สิริวัฒน์ กล่อมปัญญา
บทคัดย่อ: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพการเลี้ยงหมูหลุม 2) ทราบรูปแบบที่เหมาะสม การเลี้ยงหมูหลุม 3) ปัญหาอุปสรรคในการเลี้ยงหมูหลุม ของเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง ศึกษากลุ่มตัวอย่างจากประชากรที่เลี้ยงหมูหลุม จ านวน 110 ราย เก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้แบบ สัมภาษณ์ในระหว่างเดือน มกราคม ถึง มีนาคม 2558 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมส าเร็จรูป อธิบายผล การศึกษา ใช้ค่าสถิติ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสูงสุด ค่าต่ าสุด สามารถสรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะดังนี้ เกษตรกรผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากร้อยละ 50.9 เป็นเพศชาย มีอายุเฉลี่ย 49.08 ปี การศึกษาส่วนมากร้อยละ 26.4 เรียนจบชั้นประถมศึกษาตอนปลาย มีพื้นที่ท าการเกษตรที่มีเอกสารสิทธิ์ รวมเฉลี่ย 18.55 ไร่ต่อราย มีพื้นที่เลี้ยงปศุสัตว์ เฉลี่ย 0.98 ไร่ต่อราย และร้อยละ 64.5 มีรูปแบบท า การเกษตรแบบผสมผสาน มีจ านวนแรงงานในครอบครัวท าการเกษตร เฉลี่ย 2.03 รายต่อครอบครัว เกษตรกรร้อยละ 90.0 จะเลี้ยงสุกรพันธุ์เพื่อการค้า รองลงมาเลี้ยงสุกรลูกผสมพื้นเมือง และพันธุ์พื้นเมือง ส าหรับการตัดสินใจเลือกเลี้ยงพันธุ์สุกร ร้อยละ 87.3 เลือกพันธุ์สุกรตามความต้องการของตลาด เกษตรกร ร้อยละ 57.3 จะมีการคัดเลือกสุกรไว้เลี้ยงเป็นพ่อแม่พันธุ์ทดแทน โดยพิจารณาจาก สุกรที่ให้ลูกดกเลี้ยงลูก เก่ง รูปร่างดีโตเร็วและสุขภาพแข็งแรง ร้อยละ 74.6, 71.4, 63.5 ตามล าดับ ส าหรับการผสมพันธุ์สุกร เกษตรกรร้อยละ 57.3 จะผสมจริงโดยใช้พ่อพันธุ์ รองลงมา ใช้วิธีการผสมจริงและผสมเทียม และผสม เทียมอย่างเดียว ซึ่งการผสมเทียม เกษตรกรร้อยละ 32.7 จะซื้อน้ าเชื้อมาผสมเอง และ ร้อยละ 30.9 จ้างเจ้าหน้าที่มาผสมให้ เกษตรกรร้อยละ 77.2 ใช้อาหารส าเร็จรูปร่วมกับวัตถุดิบในท้องถิ่น รองลงมา ซื้อ วัตถุดิบอาหารสัตว์มาผสมเอง และ ใช้อาหารส าเร็จรูป เกษตรกรร้อยละ 72.7 ใช้ต้นกล้วยหมักเลี้ยงสุกร รองลงมา ใช้หญ้าหมัก ผักตบชวาหมักและพืชผักหมัก เกษตรกรจะมีโรงเรือนเลี้ยงสุกร เฉลี่ย 1.44 หลังต่อ ราย ลักษณะรูปแบบโรงเรือนร้อยละ 63.6 เป็นแบบหน้าจั่ว มีสัดส่วนของพื้นที่คอกต่อการเลี้ยงสุกรเฉลี่ย 1.35 ตารางเมตรต่อตัว วัสดุที่ใช้ท าโรงเรือน ได้แก่ พื้นคอก ร้อยละ 68.2 มีลักษณะเป็นพื้นดิน วัสดุผสม รองพื้นคอก เรียงจากมากไปน้อย ประกอบด้วย แกลบดิบ ใบไม้แห้ง หญ้าแห้ง มูลสัตว์ ดิน ฟางข้าว ขี้เลื่อย ผักตบชวา และเมล็ดข้าวลีบ ตามล าดับ หลังคาโรงเรือน ร้อยละ 86.4 มุงด้วยสังกะสี ผนังโรงเรือน ร้อยละ 38.2 ท าด้วยไม้ไผ่ ส าหรับลักษณะพื้นคอก ร้อยละ 38.2 มีลักษณะเป็นพื้นดินทั้งหมด รองลงมา มีสัดส่วน ของพื้นดิน 70 ต่อ คอนกรีต 30 พื้นดิน 60 ต่อ คอนกรีต 40 พื้นดิน 50 ต่อ คอนกรีต 50 ร้อยละ 25.5,22.7, 13.6 ตามล าดับ โดยความลึกของการขุดพื้นคอกก่อนน าวัสดุใส่รองพื้น เฉลี่ย 64.54 เซนติเมตร การใช้สารสกัดชีวภาพ พบว่าเกษตรกรร้อยละ 87.3 มีการท าสารสกัดชีวภาพเลี้ยงสุกร ร้อยละ 71.8 ใช้ สูตรสารสกัดชีวภาพจากพืชสีเขียวมากที่สุด รองลงมา ผลไม้เนื้อสัตว์ แคลเซียมจากเปลือกไข่ ฟอสฟอรัส จากถ่านกระดูกสัตว์ และอื่นๆ การใช้สมุนไพรพบว่าเกษตรกรร้อยละ 55.5 มีการใช้สมุนไพรเลี้ยงสัตว์ มี วัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้มีอันตรายจากสารเคมี ร้อยละ 56.4 ใช้ประโยชน์เพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพสัตว์ รองลงมา รักษาโรคสัตว์ ไล่แมลง ลดกลิ่น ช่วยการเจริญเติบโตและอื่น เกษตรกรร้อยละ 56.4 มีรูปแบบ การใช้สมุนไพรโดยผสมน้ าให้สัตว์กิน รองลงมา ผสมอาหาร กลิ่นหอมระเหย ทาบาดแผล และให้กิน โดยตรง โดยชนิดพืชสมุนไพรที่ปลูกเองร้อยละ 61.8 จะปลูกบอระเพ็ด รองลงมา ตะไคร้หอม ขมิ้นชัน และ ฟ้าทะลายโจร การศึกษารูปแบบการเลี้ยงหมูหลุมที่เหมาะสม เกษตรกรได้ยอมรับในรูปแบบการเลี้ยงหมู หลุมของเกษตรกรเครือข่ายในพื้นที่ปศุสัตว์เขต 3 โดยแบ่งเป็นด้านพันธุ์ อาหารและการจัดการให้อาหาร การจัดการโรงเรือนและสิ่งแวดล้อม และการจัดการด้านสุขภาพสัตว์และการป้องกันโรค ส าหรับปัญหา อุปสรรคในการเลี้ยงหมูหลุม พบว่าเกษตรกรมีปัญหามากที่สุด เรียงล าดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ อาหาร สัตว์มีราคาแพง จ านวนลูกสุกรหย่านมเพื่อเลี้ยงขุนหายากและขาดแคลนแม่สุกรพันธุ์ดี
บทคัดย่อ (EN): The purposes of this research are includes; 1 ) To study the conditions of its models. 2) To find an appropriated models for biological swine productions. 3) To study the problems and obstacle of farmers who used biological swine production in the Lower-part of North Eastern.The study objects and information were taken from 110 farmers who raising swine by using biological models. The data was collected by interviewing in between January to March, 2015. Data analyzed by computer software program. The study describes the use of the frequency, percentage, arithmetic, standard deviation, maximum and minimum values. A summary of findings and recommendations are below. The farmers who answered the interview, 50.9 percents are male. An average age is 49.08 years old, and 26.4 percents of these farmers are high school graduated. The famers who have title deed or license for their land is in average of 18.5 Rai per person. The average land use for live stock is about 0.98 Rai, and 64.5 percents are used for an integrate agriculture. The average labor used is 2.03 people for each family. The purposes of raising swine are for selling in average of 90.0 percents, cross-breeding 36.4 percents, and native swine 0.9 percent. Farmers’ decision of raising swine 87.3 percents base on the market demand, and breeding must be easy to manage, resistant to diseases 70.0 percent, and high productivity 67.3 percents.The 57.3 percents of farmers will select the breeders based on the litter capacity and good ability of nursing, body score and growth performance, and healthy which are 42.7,40.9, and 36.4 percents. Breeding methods, 57.3 percents of framers used natural breeding, 23.6 percents of farmers used both natural and artificial insemination, and 19.2 percents used only artificial insemination. For an artificial insemination, 32.7 percents of farmers would purchased siemen to inseminate on own, and 30.9 percents of farmers would hired the inseminator to do it for them. Feeding, the 77.22 percents of famers used pellet feed along with local raw material feed, 16.4 percents mixed feeding materials on own, and 6.4 percents used only pellet feeding. Farmers used fermented banana for feeding 72.7 percents, fermented grass 13.6 percents, fermented water hyacinth 10.9 percents, and fermented vegetable 7.3 percents. The animal house, each farmer has an average of 1.44 unit, which is an isosceles triangle type of housing 63.6 percents. The animal house had ratio of animal capacity at 1.35 square meters per animal. The material used for building; the ground floor is 68.2 percents, the primer stall is in order of husk, dry leaves, hay ,dung, soil, sawdust, water hyacinth, and blighted grain. The roof, 86.4 percents made by galvanized sheet metal. The wall, 38.2 percents made by bamboo. Majority of building’s floor is the ground 38.2 percents, concrete mixed ground 70:30 is 25.5 percents, concrete mixed ground 60:40 is 22.7, and concrete mixed ground 50:50 is 13.6 percents. The pens depth is average at 64.54 centimeters.The use of biological extract, 87.3% of farmers made their own, about 71.8% used green plants which is the major matters that been used. Minor are fruits, meats calcium from egg shells, phosphorus from charcoal animal bones, and other 63.6 per cent, 51.8, 22.7, 22.7, 10.9 respectively.The use of herbs, found that 55.5 percent of farmers are using herbal to raise animals. The purpose is to prevent the danger from using chemicals. A 56.4 percent utilization to help enhance the health of animals, followed by treatment of the animals, prevent insects, decreased odors, help the growth rate and percentage, 55.5, 50.9, 50.0, 33.6, 6.4 respectively. The methods of using 56.4 percent mixed the water for the animals to drink, mixed in food, aromatherapy, treat skin wounds and fed directly followed by the percentage of 44.5, 15.5, 9.1, 4.5, respectively. Herbs which farmers grow on own are wormwood plant 61.8 percent, turmeric, lemongrass and Creat 49.1 percent, 22.7, 15.5 respectively. The study of appropriated models for biological swine productions, farmers acknowledge that the factors that associated can be categorized by breed, feeds, feeding management, housing and environmental management, animal health management and disease prevention. The barriers of biological swine that been found most were prices of animals feed is expensive, weaning piglets are hard to find, and there are not enough quality bred sows
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมปศุสัตว์
คำสำคัญ: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษารูปแบบที่เหมาะสมการเลี้ยงหมูหลุม ของเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
กรมปศุสัตว์
30 กันยายน 2558
กรมปศุสัตว์
การเลี้ยงผึ้งพันธุ์ของเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การเลี้ยงปศุสัตว์ในระบบเกษตรผสมผสานของเกษตรกรรายย่อย ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง วิจัยและพัฒนาพันธุ์ไหมให้เหมาะกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง การศึกษาระบบการเลี้ยงกระบือ และแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกระบือที่เหมาะสมของเกษตรกรรายย่อย ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง การศึกษาสภาพครัวเรือนเกษตรยากจนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง การปฏิบัติของเกษตรกรในการจัดการหนูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การปฏิบัติของเกษตรกรในการจัดการหนูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การสำรวจและวินิจฉัยโรคไหมในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างเพื่อ การป้องกันกำจัด ผลกระทบของการใช้ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยเคมีต่อการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในดินภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง กลุ่มเกษตรกรที่มีประสิทธิภาพตามทรรศนะของเกษตรอำเภอในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก