สืบค้นงานวิจัย
ความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดต่อระดับความรุนแรงของปัญหาที่ส่งผลต่อการประกอบอาชีพปลูกสับปะรด ตำบลตาสิทธิ์ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
วิภาวรรณ แซ่กัง - มหาวิทยาลัยบูรพา
ชื่อเรื่อง: ความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดต่อระดับความรุนแรงของปัญหาที่ส่งผลต่อการประกอบอาชีพปลูกสับปะรด ตำบลตาสิทธิ์ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
ชื่อเรื่อง (EN): Levels of violence affcting the pineapple agriculturists in tasit subdistrict, pluakdaeng district, Rayong Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิภาวรรณ แซ่กัง
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติของประชาชนต่อระดับความรุนแรงของปัญหาที่ส่งผลต่อเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติของประชาชนต่อระดับความรุนแรงของปัญหาที่ส่งผลต่อเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ แบบสอบถามซึ่งคำถามจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนที่ 2 ระดับความรุนแรงของปัญหาที่ส่งผลต่อเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด ส่วนที่ 3ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม โดยทำการศึกษาทั้งหมด 3 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านการเพาะปลูก 2.ด้านการผลิต และ 3.ด้านการตลาด และ ทำการศึกษาเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในพื้นที่เขตตำบลตาสิทธิ์ อำเภอ ปลวกแดง จังหวัดระยอง จำนวน 371 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่การแจกแจงความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage) การหาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ในการทดสอบสมมติฐาน ใช้ค่าสถิติ t-Test ในการทดสอบสมมติฐานหาความแตกต่างระหว่างตัวแปรอิสระที่มี 2 กลุ่ม กับตัวแปรตามใช้ค่าสถิติ F-test หรือ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way Analysis of Variance (ANOVA))ในการทดสอบสมมติฐานหาความแตกต่างระหว่างตัวแปรที่มีมากกว่า 2 กลุ่ม กับตัวแปรตามในการวิจัยครั้งนี้ ได้กำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการสำรวจ ประชาชนที่ตอบแบบสอบถามเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 60.6ส่วนใหญ่มีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 31-50 ปี คิดเป็นร้อยละ 55.8 และมีสถานภาพโสด คิดเป็นร้อยละ 66.6 มีระดับการศึกษาประถมศึกษา มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 23.7 ส่วนใหญ่มีพื้นที่ถือครองทำการเกษตรจำนวน 30-60 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 45.8 มีสมาชิกในครัวเรือน จำนวน 4-6 คน มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 57.4 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนระหว่าง 10,001-15,000 บาท มากที่สุด ร้อยละ 41.8 และ มีระยะเวลาในการเพาะปลูกอยู่ที่ 1- 5 ปี มากที่สุด ร้อยละ 46.7 ตามลำดับและเมื่อพิจารณาในรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับน้อย ทุกประเด็นประเด็น ซึ่งสามารถเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ประเด็นด้านที่ 2.ด้านการผลิต ( X =2.52) ประเด็นด้านที่ 3.ด้านการตลาด ( X =3.24) และประเด็นด้านที่ 1.ด้านการเพาะปลูก ( X =3.51) ตามลำดับ
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยบูรพา
คำสำคัญ: การประกอบอาชีพ
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยบูรพา
รายละเอียด: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติของประชาชนต่อระดับความรุนแรงของปัญหาที่ส่งผลต่อเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติของประชาชนต่อระดับความรุนแรงของปัญหาที่ส่งผลต่อเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ แบบสอบถามซึ่งคำถามจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนที่ 2 ระดับความรุนแรงของปัญหาที่ส่งผลต่อเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด ส่วนที่ 3ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม โดยทำการศึกษาทั้งหมด 3 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านการเพาะปลูก 2.ด้านการผลิต และ 3.ด้านการตลาด และ ทำการศึกษาเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในพื้นที่เขตตำบลตาสิทธิ์ อำเภอ ปลวกแดง จังหวัดระยอง จำนวน 371 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่การแจกแจงความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage) การหาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ในการทดสอบสมมติฐาน ใช้ค่าสถิติ t-Test ในการทดสอบสมมติฐานหาความแตกต่างระหว่างตัวแปรอิสระที่มี 2 กลุ่ม กับตัวแปรตามใช้ค่าสถิติ F-test หรือ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way Analysis of Variance (ANOVA))ในการทดสอบสมมติฐานหาความแตกต่างระหว่างตัวแปรที่มีมากกว่า 2 กลุ่ม กับตัวแปรตามในการวิจัยครั้งนี้ ได้กำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการสำรวจ ประชาชนที่ตอบแบบสอบถามเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 60.6ส่วนใหญ่มีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 31-50 ปี คิดเป็นร้อยละ 55.8 และมีสถานภาพโสด คิดเป็นร้อยละ 66.6 มีระดับการศึกษาประถมศึกษา มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 23.7 ส่วนใหญ่มีพื้นที่ถือครองทำการเกษตรจำนวน 30-60 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 45.8 มีสมาชิกในครัวเรือน จำนวน 4-6 คน มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 57.4 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนระหว่าง 10,001-15,000 บาท มากที่สุด ร้อยละ 41.8 และ มีระยะเวลาในการเพาะปลูกอยู่ที่ 1- 5 ปี มากที่สุด ร้อยละ 46.7 ตามลำดับและเมื่อพิจารณาในรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับน้อย ทุกประเด็นประเด็น ซึ่งสามารถเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ประเด็นด้านที่ 2.ด้านการผลิต ( X =2.52) ประเด็นด้านที่ 3.ด้านการตลาด ( X =3.24) และประเด็นด้านที่ 1.ด้านการเพาะปลูก ( X =3.51) ตามลำดับ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดต่อระดับความรุนแรงของปัญหาที่ส่งผลต่อการประกอบอาชีพปลูกสับปะรด ตำบลตาสิทธิ์ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
มหาวิทยาลัยบูรพา
2554
ความพึงพอใจของเกษตรกรในการประกอบอาชีพทำนาในตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง พฤติกรรม ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ในเขตและนอกเขตรับผิดชอบของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวงตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ความคิดเห็น ความต้องการและปัญหาของเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในจังหวัดเชียงรายต่อการส่งเสริมปลูกยางพาราของสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง / จักร์กิจ พินิจ ความคิดเห็นของเกษตรกรต่อการปลูกถั่วเหลืองโดยการลดต้นทุนการผลิตในจังหวัดเชียงใหม่ การบริหารความเสี่ยงสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในเขตจังหวัดกระบี่และนครศรีธรรมราช กระบวนการผลิตข้าวของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ตำบลปะอาว อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ.2550 ต้นทุนโลจิสติกส์ของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวก่ำพะเยาในจังหวัดพะเยา การประเมินความพร้อมด้านการปฏิบัติทางการเกษตรดีที่เหมาะสมของเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองฝักสดในอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย การศึกษากระบวนการผลิตและประสิทธิภาพปุ๋ยน้ำหมักต่อ การผลิตข้าวของเกษตรกรในอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการปลูกหอมหัวใหญ่ของเกษตรกร จังหวัดเชียงใหม่ ปีการเพาะปลูก 2541/42
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก