สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยและพัฒนาการอารักขาพืชผัก
นายสมชัย สุวงศ์ศักดิ์ศรี - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยและพัฒนาการอารักขาพืชผัก
ชื่อเรื่อง (EN): Research and Development of Vegetables Plant Protection Project
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นายสมชัย สุวงศ์ศักดิ์ศรี
บทคัดย่อ: โครงการวิจัยและพัฒนาการอารักขาพืชผักมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบประสิทธิภาพและวิธีการใช้ของเชื้อจุลินทรีย์และสารสกัดจากพืชชนิดต่างๆ ในการควบคุมศัตรูพืชในระดับแปลงปลูก เพื่อลดการใช้สารเคมี และลดปัญหาการสร้างความต้านทานสารเคมีของศัตรูพืช โดยทำการศึกษาดังนี้ : 1.) การใช้เชื้อราปฏิปักษ์ Bs ในการป้องกันโรคใบจุดที่มีสาเหตุจากเชื้อรา Alternaria brassicicola 2.) การศึกษาการใช้เชื้อไวรัส NPV เพื่อการควบคุมหนอนคืบกะหล่ำ Trichoplusia ni Hubner และ 3.) การทดสอบประสิทธิภาพของจุลินทรีย์ในการควบคุมด้วงหมัดผักในคะน้า โดยใช้ไส้เดือนฝอย Steinernema riobrave โดยมีรายละเอียดดังนี้คือ การควบคุมโรคใบจุดคะน้าสาเหตุจากเชื้อรา Alternaria brassicicola พบว่าอัตราที่เหมาะสมของสารชีวภัณฑ์ Bs ไอโซเลท 20W1 อัตรา 20 30 40 50 และ 60 กรัม/น้ำ 20 ลิตร สามารถลดการเกิดโรคได้เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่มีการพ่น Bs โดยอัตรา 20-30 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ให้ผลดีเทียบเท่ากับการพ่นด้วยสาร mancozeb 80% WP และอัตรา 40-50 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ให้ผลดีกว่าการพ่นด้วยสาร mancozeb 80% WP อัตรา 40 กรัม/น้ำ 20 ลิตร การศึกษาการใช้เชื้อไวรัส NPV เพื่อการควบคุมหนอนคืบกะหล่ำ Trichoplusia ni Hubner โดยเลี้ยงขยายเพิ่มปริมาณหนอนคืบในห้องปฏิบัติการ ศึกษาวิจัยการผลิตสูตรสำเร็จไวรัส NPV ของหนอนคืบกะหล่ำได้สูตรสำเร็จ 2 สูตร คือ สูตรสำเร็จไวรัสรูปชนิดน้ำ และสูตรสำเร็จแบบแกรนูลละลายน้ำ ทำการทดสอบกับหนอนคืบกะหล่ำในห้องปฏิบัติการ พบมีหนอนตายจากการเชื้อราระหว่างการทดลอง ทำให้ไม่สามารถสรุปได้ว่าหนอนคืบกะหล่ำตายด้วยเชื้อไวรัสชนิดนี้จริง และได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างหนอนคืบกะหล่ำจากธรรมชาติ เพื่อนำมาขยายเพิ่มจำนวน เพื่อใช้ทำการทดสอบใหม่ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ รวมทั้งการทดสอบในแปลงทดลอง เนื่องจากไม่พบการระบาดของหนอนคืบ การทดสอบประสิทธิภาพของจุลินทรีย์ในการควบคุมด้วงหมัดผักในคะน้า โดยใช้ไส้เดือนฝอย Steinernema riobrave อัตรา อัตรา 2x107 ตัว ต่อน้ำ 20 ลิตร, Steinernema carpocapsae อัตรา 2x107 ตัว ต่อน้ำ 20 ลิตร, Metarhizium anisopae อัตรา 1x103 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร, Bacillus thruringiensis subsp. tenebrionis อัตรา 80 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร เปรียบเทียบกับการพ่นสาร fipronil (แอสเซ็นด์) 5% SC อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร และไม่พ่นสารป้องกันกำจัดแมลง (control) หลังจากการพ่นสารครั้งที่ 1 และ 2 พบว่าวิธีการใช้ไส้เดือน S. carpocapsae ให้ผลควบคุมด้วงได้ดีที่สุด หลังการพ่นสารครั้งที่ 3 พบว่าการใช้ไส้เดือนฝอย S. carpocapsae และ S. riobrave ให้ผลในการควบคุมด้วงหมัดผักดีที่สุด และการศึกษาหาระยะเวลาหรือความถี่ในการพ่นจุลินทรีย์เพื่อควบคุมด้วงหมัดผักในคะน้า โดยใช้ Steinernema carpocapsae อัตรา 2x107 ตัว ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 14 วัน, พ่น Bacillus thruringiensis subsp. tenebrionis อัตรา 80 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 7 วัน, พ่น fipronil (แอสเซ็นด์) 5% SC อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 7 วัน เปรียบเทียบกับการไม่พ่นสารป้องกันกำจัดแมลง (control) หลังพ่นสารครั้งที่ 1 พบว่ากรรมวิธีการใช้ไส้เดือนฝอย S. carpocapsae ให้ผลในการควบคุมด้วงหมัดผักได้ดีที่สุด หลังพ่นสารครั้งที่ 2 พบว่ากรรมวิธีการใช้ไส้เดือนฝอย S. carpocapsae ทุก 7 วัน ให้ผลในการควบคุมด้วงหมัดผักได้ดีที่สุด
บทคัดย่อ (EN): Vegetable crop-protection research and development project aimed to study the effectiveness and usage of micro-organisms and plant extracts in controlling pests at the field level. The ultimate goal was to reduce chemical usage and chemical resistance of the pests. This research explored 1) the use of antagonistic Bs in preventing leaf spot caused by the fungus Alternaria brassicicola 2) the use of viral NPV to control looper cabbage Trichoplusia ni Hubner and 3) the use of nematode Steinernema riobrave in controlling flea beetles on kale. In the experiment to control leaf spot kale caused by fungus Alternaria brassicicola found that the application of the biomass materials Bs (isolates 20W1) rate 20, 30, 40, 50, and 60 g/20 l of water could reduce the disease when compared to the no-spray. Bs by the rate of 20-30 g/20 l of water worked equally well as spraying with mancozeb 80% WP; while the rate of 40-50 g/20 l of water yielded better results than spraying with mancozeb 80% WP at 40 g/20 l of water. In the study of NPV virus to control cabbage looper Trichoplusia ni Hubner, the cabbage loopers were reared in the laboratory to increase in numbers. Two virus production formula have been developed - the water form and water soluble granules. The virus was tested on the cabbage looper in the laboratory. However, it was found that fungus grew on the dead worms; hence, it could not be concluded that the death of cabbage loopers was caused by the NPV virus. To restart the study, samples of cabbage loopers were collected from the nature to reproduce in numbers for the experiment. However, due to the lack of cabbage loopers outbreaks, field trials have not been done, yet. The study of using microbes to control flea beetle in kale by applying nematode Steinernema riobrave rate 2x107 IJs /20 l of water, Steinernema carpocapsae rate 2x107 IJs /20 l of water, Metarhizium anisopae rate 1x103 ml/20 l, Bacillus thruringiensis subsp. Tenebrionis rate of 80 ml/20 l in comparion with spraying fipronil (Ascent?) 5% SC rate of 40 ml/ 20 l of insecticide and untreated (control). After the first and second spraying it showed that the nematodes S. carpocapsae worked best in controlling beetles. After the third spraying, it was found that the nematode S. carpocapsae and S. riobrave were the best in flea beetles control . The study also explored the frequency of spraying different microbes to control flea beetles in kale. The application of Steinernema carpocapsae rate 2x107 IJs/ 20 l of water every 14 days, spraying Bacillus thruringiensis subsp. Tenebrionis rate 80 ml/ 20 l of water every 7 days, applying fipronil (Ascent Grand) 5% SC rate 40 ml/ 20 l of water every 7 days in comparion with untreated (control) revealed that after the first treatments of nematodes S. carpocapsae was the most effective in controlling flea beetles. Whereas, after the second application of nematodes S. carpocapsae every 7 days yielded the best result in flea beetle control.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: หนอนคืบกะหล่ำ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นายสมชัย สุวงศ์ศักดิ์ศรี. "โครงการวิจัยและพัฒนาการอารักขาพืชผักResearch and Development of Vegetables Plant Protection Project". กรมวิชาการเกษตร. 2556

นายสมชัย สุวงศ์ศักดิ์ศรี. "โครงการวิจัยและพัฒนาการอารักขาพืชผักResearch and Development of Vegetables Plant Protection Project". กรมวิชาการเกษตร. 2556. Print.



TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยและพัฒนาการอารักขาพืชผัก
นายสมชัย สุวงศ์ศักดิ์ศรี
กรมวิชาการเกษตร
30 กันยายน 2556
พัฒนาการของลูกปลากดเกราะวัยอ่อน คัพภะและพัฒนาการของลูกปลาตะพาก ชุดโครงการวิจัยและพัฒนาการเพิ่มมูลค่าผลผลิต โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพบ่อน้ำร้อนถ้ำเขาพลู โครงการวิจัย ศึกษาและพัฒนาการคุ้มครองพันธุ์พืชตามแผนปฏิบัติการประชาคมอาเซียน แผนงานวิจัยและพัฒนาการอารักขาพืช โครงการวิจัยและพัฒนาการอารักขาเห็ด พัฒนาการของลูกปลาหมอบัตเตอร์วัยอ่อน การศึกษาการใช้สารเคมีกับพืชผักของเกษตรกรในจังหวัดขอนแก่น ชุดโครงการวิจัยและพัฒนาการอารักขาพืช
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair