สืบค้นงานวิจัย
อิทธิพลของถ่านชีวภาพต่อการปรับปรุงสมบัติทางเคมีของดินกรดสำหรับปลูกอ้อย
จิราพร สวยสม - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: อิทธิพลของถ่านชีวภาพต่อการปรับปรุงสมบัติทางเคมีของดินกรดสำหรับปลูกอ้อย
ชื่อเรื่อง (EN): Influence of biochar on improving chemical properties of acidic soil for sugar cane plantation
บทคัดย่อ: ดินกรดเป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่ต้องได้รับการแก้ไขเพราะส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตร ในการศึกษานี้จึงใช้ถ่านชีวภาพที่ผลิตขึ้นจากเศษไม้ไผ่มาปรับปรุงสมบัติเคมีบางประการเพื่อเพิ่มผลผลิตอ้อยในพื้นที่ดินกรดถ่านชีวภาพที่ผลิตขึ้นน าไปวิเคราะห์ขนาดของพื้นที่ผิวจ าเพาะและปริมาตรรูพรุนด้วยเทคนิค BrunauerEmmett-Teller (BET) โครงสร้างสัณฐานวิทยาและองค์ประกอบธาตุบนพื้นผิวด้วยเทคนิค Scanning electron microscopy and Energy Dispersive X-ray Spectrometer (SEM/EDS) และสมบัติทางเคมีได้แก่ ความเป็นกรดเป็นด่าง ความค่าการน าไฟฟ้า ความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารและความสามารถในการแลกเปลี่ยนแคตไอออนของดิน เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานก่อนน าไปใช้ในแปลงทดลอง วางแผนการทดลองแบบFactorial in Randomize Complete Block Design ศึกษาถ่านชีวภาพ 3 อัตรา ได้แก่ 0, 1 และ 2 ตันต่อไร่และปุ๋ยหมัก 2 อัตรา คือ 0 และ 1 ตันต่อไร่ ผลการทดลอง พบว่า ต ารับการใส่ถ่านชีวภาพร่วมกับปุ๋ยหมักและต ารับการใส่ปุ๋ยหมักเพียงอย่างเดียวจะสามารถเพิ่มค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินโดยท าให้ดินมีค่าความเป็นกรดลดลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณแคลเซียมออกไซด์และแมกนีเซียมออกไซด์ที่มีอยู่ในถ่านชีวภาพและปุ๋ยหมัก นอกจากนี้ยังพบว่าการใส่ถ่านชีวภาพไม่ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดินแต่ความสามารถในการแลกเปลี่ยนแคตไอออนเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อศึกษาการคงอยู่ของธาตุฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ต่อพืชพบว่า ต ารับการใส่ถ่านชีวภาพร่วมกับปุ๋ยหมักสามารถดูดซับธาตุอาหารทั้งสองได้ดีขึ้น ในขณะที่ต ารับการใส่ปุ๋ยหมักเพียงอย่างเดียวสามารถดูดซับธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์ต่อพืชได้ดีกว่าการใส่ถ่านชีวภาพร่วมกับปุ๋ยหมัก แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของถ่านชีวภาพมีผลต่อการดูดซับธาตุอาหารบางชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อการปลูกอ้อยในดินกรด นอกจากนี้เมื่อค านวณผลผลิตตลอด 2 ปีการทดลอง พบว่า การใส่ถ่าน ชีวภาพร่วมกับปุ๋ยหมักจะให้ผลผลิตที่สูงที่สุด รองลงมาคือการใส่ถ่านชีวภาพเพียงอย่างเดียว ถัดมาคือการใส่ปุ๋ยหมักเพียงอย่างเดียว ตามล าดับ อย่างไรก็ตามเมื่อค านวณผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ พบว่า ต ารับการทดลองที่ใส่ถ่านชีวภาพ 1 ตันต่อไร่ ร่วมกับการใส่ปุ๋ยหมักจะให้ผลตอบแทนที่สูงที่สุด รองลงมาคือต ารับการทดลองที่ใส่4ปุ๋ยหมักเพียงอย่างเดียว เนื่องจากการใส่ถ่านชีวภาพในอัตราสูงจะเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตให้สูงตามไปด้วยส่งผลต่อก าไรสุทธิที่ลดลง
บทคัดย่อ (EN): Soil acidity is a major constraint to agricultural production. One of the practical solutions that can be used to alleviate this problem consists of applying biochar. In this study,biochar produced from bamboo had been used to increase soil pH and by way ofconsequence, improve sugarcane production in acidic soil. Bamboo biochar was characterizedin the lab prior to being applied in the field: its specific surface area was determined using theBrunauer-Emmett-Teller (BET) technique, while structural analysis and elemental compositionwere carried out using Scanning Electron Microscope and Energy Dispersive X-raySprectometer (SEM/EDS). We also measured acid-base content, electrical conductivity,nutrient availability, and cation exchange capacity. We used the Randomize Complete Blockwith Factorial Treatment for the field trail with 3 biochar application rates, namely 0, 1 and 2tons/rai and two compost application rates of 0 and 1 ton/rai.This study found that both applications of biochar with compost and compost onlycould temporarily increase soil pH, to an extent that varied depending on the calcium oxideand magnesium oxide contents on the biochar and compost. Moreover we found that bichardid not improve the soil organic matter content, while it increased the cation exchangecapacity. Biochar and compost were both found to reduce phosphorus and potassiumleaching, which improved sugarcane growth. Compost alone was more effective at reducing calcium and magnesium leaching than biochar in association with compost. Moreover it wascalculated the yields, 2 years experimental, and found that using biochar associated withcompost had received yields highest productivity. Following by the biochar alone. Next is thecompost alone, respectively. However, when it was calculated return on economic we foundbiochar applied at a rate of 1 tons/rai associated with compost has the highest profitable. Thesecond is the compost treatments alone. Due to the high rate of biochar will increaseproduction costs higher as well, resulting in decreased net profit.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dric.nrct.go.th//Search/SearchDetail/292618
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: อ้อย
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
อิทธิพลของถ่านชีวภาพต่อการปรับปรุงสมบัติทางเคมีของดินกรดสำหรับปลูกอ้อย
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2558
การศึกษาวัสดุคลุมดินที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตแบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศของสตรอเบอรี 2 สายพันธุ์ ผลของถ่านชีวภาพและปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงเพื่อการปรับปรุงดินสำหรับผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 เทคโนโลยีทางเลือกใหม่สำหรับการวิเคราะห์ดัชนีชี้คุณภาพอ้อยแบบรวดเร็ว การใช้ประโยชน์ของน้ำกากส่าสำหรับการผลิตอ้อยเพื่อลดมลพิษสิ่งแวดล้อม การดูดใช้ไนโตรเจน ซัลเฟอร์ และสัดส่วน N:S ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกอ้อยผลผลิตสูง การประเมินผลของการใช้ไถดินดานร่วมกับการให้ปุ๋ยน้ำในร่องปลูกอ้อยของเครื่องปลูกอ้อยแบบไม่ไถพรวนในพื้นที่นอกเขตชลประทาน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีปั้นเม็ดสำหรับรองพื้นปลูกอ้อยในสภาพดินทรายร่วน การประยุกต์ใช้แบบจำลอง Linear Logistic Regressionในการวิเคราะห์พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับปลูกอ้อยในจังหวัดชัยภูมิ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อรถตัดอ้อยของเกษตรกรชาวไร่อ้อยของบริษัทน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์จำกัด ผลของชนิดและอัตราการใช้ถ่านชีวภาพต่อการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังในดินกรด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก