สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยและพัฒนาด้านดิน น้ำและปุ๋ยอ้อย
กอบเกียรติ ไพศาลเจริญ - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยและพัฒนาด้านดิน น้ำและปุ๋ยอ้อย
ชื่อเรื่อง (EN): Research and Development on Soil Water and Fertilizers on Sugarcane
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กอบเกียรติ ไพศาลเจริญ
บทคัดย่อ: โครงการวิจัยและพัฒนาด้านดิน น้ำและปุ๋ยอ้อย ได้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2558 มี 3 กิจกรรมทดลอง ประกอบด้วย 1) การวิจัยและพัฒนาดินการจัดการและปุ๋ยอ้อย ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กิจกรรมย่อย ได้แก่ 1.1) วิจัยและพัฒนาการตอบสนองของอ้อยต่อการจัดการธาตุอาหารเฉพาะพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์กับ 5 กลุ่มดินในพื้นปลูกอ้อย และ 1.2) วิจัยการใช้ปัจจัยแบบผสมผสานต่อผลผลิตอ้อย 2) ศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการน้ำในไร่อ้อย และ 3) ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตของอ้อย ผลการทดลอง พบว่า 1) กลุ่มดินทราย ที่ปรับปรุงดินด้วยกากตะกอนหม้อกรองอ้อย 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับโดโลไมท์ 100 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตอ้อยปลูก และอ้อยตอ1 เพิ่มขึ้น 10-34 และ 4-52 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบกับการไม่ปรับปรุง ส่วนการปรับปรุงด้วยมูลไก่แกลบ 800 กิโลกรัมต่อไร่นั้น กลุ่มดินร่วนให้ผลผลิตอ้อยปลูก และอ้อยตอ1 เพิ่มขึ้นสูงสุด รองลงมา ได้แก่ กลุ่มดินเหนียว และ กลุ่มดินนา ตามลำดับ สำหรับกลุ่มดินตื้นที่ปรับปรุงด้วยกากตะกอนหม้อกรองอ้อย และกลุ่มดินด่างที่ปรับปรุงด้วยกำมะถันผง ให้ผลผลิตอ้อยปลูก และอ้อยตอ1 เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งไม่คุ้มค่ากับการลงทุน 2) อ้อยพันธุ์อู่ทอง14 (94-2-106) ที่ปลูกในกลุ่มดินด่าง ให้ผลผลิตอ้อยปลูก และอ้อยตอ1 เพิ่มขึ้น 13-32 และ 6-15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบกับพันธุ์อ้อยที่เกษตรกรนิยม ส่วนพันธุ์ขอนแก่น3 ให้ผลผลิตอ้อยปลูก และอ้อยตอ1 เพิ่มขึ้นสูงสุดในดินทราย เฉลี่ย 7-25 และ 8-18 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาได้แก่ กลุ่มดินนาที่ปลูกอ้อยด้วยพันธุ์ขอนแก่น3 (หรือสุพรรณบุรี80 ที่ปลูกในชุดดินราชบุรี) กลุ่มดินร่วน กลุ่มดินตื้น และ กลุ่มดินเหนียว ตามลำดับ และพบว่า การปรับปรุงดินและใช้พันธุ์อ้อยที่เหมาะสมกับพื้นที่ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไนโตรเจนได้มากขึ้น และ 3) ได้สมการการตอบสนองต่ออัตราปุ๋ยไนโตรเจนที่เฉพาะเจาะจงกับอ้อยปลูกและอ้อยตอภายใต้สภาพที่มีการจัดการดินแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ เพื่อพัฒนาคำแนะนำอย่างเป็นระบบและถูกต้องมากขึ้นกว่าเดิม 4) ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยมูลไก่ ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ จุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต และ วัสดุเหลือใช้จากโรงงานอุตสาหกรรมเกษตร เช่น น้ำกากส่า และน้ำเสียจากโรงงานแป้งมันสำปะหลัง สามารถใช้ผสมผสานร่วมกับปุ๋ยเคมี เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโต เพิ่มผลผลิตอ้อย และลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีได้ 5) ได้ค่าสัมประสิทธิ์การใช้น้ำ (Kc) ของอ้อยปลูก และอ้อยตอพันธุ์ขอนแก่น3 เพื่อใช้กำหนดปริมาณการใช้น้ำตามความต้องการของอ้อยให้สอดคล้องกับพื้นที่ปลูก 6) ได้แผนที่สภาพแวดล้อมของการผลิตอ้อยที่มีผลกระทบจากปัจจัยสภาพแวดล้อมที่จำกัดสำหรับอ้อยในเขตภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการประยุกต์ใช้แบบจำลองเพื่อคาดการณ์และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของอ้อย ได้สมการอย่างง่ายและพัฒนาเป็นโปรแกรมสำเร็จรูป (cal.cane) สำหรับสมาร์ทโฟนที่มีระบบปฏิบัติการเป็นแอนดรอยด์ เพื่อประเมินผลผลิตอ้อยพันธุ์ขอนแก่น3 และ แอลเค92-11 และ 7) ได้แนวทางเขตกรรมที่ถูกต้องเพื่อลดผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมขัง และอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น การวางแผนช่วงปลูกและเก็บเกี่ยวในพื้นที่เสี่ยงกับน้ำท่วม การเตรียมดินที่ถูกต้อง และการเพิ่มประสิทธิภาพการให้น้ำอ้อยในตอนกลางคืนแทนกลางวัน นอกเหนือจาการใช้พันธุ์และปุ๋ยที่เหมาะสมกับพื้นที่
บทคัดย่อ (EN): Research and development on soil, water and fertilizer for sugarcane project was carried out since 2011 to 2015. It had been done of 3 activities, consisted of 1) Research and development on soil and fertilizer management in sugarcane which divised into 2 sub activities as follow to 1.1) Research and development on nutrient response for site-specific management in sugarcane and 1.2) Integrated agricultural production sciences research on sugarcane, respectively. 2) Research and development on water management technology in sugarcane fields and 3) Impact of climate change on growth and yield of sugarcane The results showed that 1) soil amendment with filter cake and dolomite combination applied in sandy soils, gave millable cane of plant and 1st ratoon cane increased account for 10-34 % 4-52% over the control, respectively. By using broiler chicken manure also obtained the highest yield increasing in loamy soils, followed by clayey soils, soils in transitional zone of lowland and upland, respectively. For soil improvement, by filter cake in skeletal or shallow soils and by sulfur powder in calcareous soils were also increased sugarcane yield but there were not enough economic returns on these practices. 2) In calcareous soils, Uthong14 (94-2-106) sugarcane variety was more profitable that gave the yield 13-32% and 6-15% higher than LK92-11 in plant and 1st ratoon cane. Khon Kaen3 (KK3) also obtained the yield higher than LK92-11 in sandy soils, the transited soils (similar to SP80 in Rb soils), loamy soils, skeletal soils and clayey soils, respectively. Because of soil improvements and identified varieties can increase the N use efficiency in plant and ratoon cane. 3) N response curves and equations obtained from each of specific sites and difference managements for fitted N fertilizer recommendation and balanced management of P and K. 4) Green manures, chicken manure, bio-fertilizes such as PGPR, solubilizing bacteria, and fungi, and industrial wastes as vinasse and waste-water from cassava starch factory could be well integrated with chemical fertilizer for improving cane yield and reducing cost. 5) It had been gotten the crop water coefficient (Kc) of KK3 variety that be useful for enhancing of water scheduling scheme in sugarcane production. 6) Simulation mapping unit of sugarcane planting areas in the North and Northeast of Thailand could be defined to 1,079 and 1,980 environmental units, respectively. It was found that diverse environmental aspects. The greater effects on sugarcane yield, are spatial variables like as soil and weather factors and temporal variables as the variations of rainfall. Using simply equation for evaluation cane yield of KK3 and LK92-11, the cal.cane program namely has been developed and setting up on the smart phone which used android for operation system. And 7) Good cultivation practices could be a resilient approach to reduce the impact of climate change such as appropriated for planting and harvesting calendars, suited in land preparation method and reduced evaporation of water by nighttime irrigation, in addition to extend across the high potential yield of variety and proper fertilizer use.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dric.nrct.go.th//Search/SearchDetail/292755
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: ซีซีเอส
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

กอบเกียรติ ไพศาลเจริญ. "โครงการวิจัยและพัฒนาด้านดิน น้ำและปุ๋ยอ้อยResearch and Development on Soil Water and Fertilizers on Sugarcane". กรมวิชาการเกษตร. 2558

กอบเกียรติ ไพศาลเจริญ. "โครงการวิจัยและพัฒนาด้านดิน น้ำและปุ๋ยอ้อยResearch and Development on Soil Water and Fertilizers on Sugarcane". กรมวิชาการเกษตร. 2558. Print.



TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยและพัฒนาด้านดิน น้ำและปุ๋ยอ้อย
กอบเกียรติ ไพศาลเจริญ
กรมวิชาการเกษตร
30 กันยายน 2558
โปรแกรมฐานข้อมูลแนะนำการใช้ปุ๋ย dbFRec for DOS โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอ้อย เปรียบเทียบการใช้ชนิดและปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยเพื่อเกษตรกรรายย่อยใน อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องฝังปุ๋ยในไร่อ้อย ความสัมพันธ์ระหว่างดิน น้ำ และพืช โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องขนย้ายอ้อยขึ้นรถบรรทุก โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินแบบแยกถังปุ๋ยสำหรับอ้อย โครงการวิจัยเครื่องรวบรวมใบอ้อยแบบอัตโนมัติ โครงการพัฒนาเครื่องบำรุงอ้อยตอแบบอัตโนมัติ โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตรสำหรับเตรียมดินและสับใบเศษซากอ้อยสำหรับรถแทรกเตอร์ขนาดกลาง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair