สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีพื้นเมืองภาคใต้โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตเป็นการค้า
ดวงฤดี ดำแก้ว - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
ชื่อเรื่อง: การศึกษาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีพื้นเมืองภาคใต้โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตเป็นการค้า
ชื่อเรื่อง (EN): Study and Technology Transfer on Production of Paphiopedilum by Tissue Culture For Increasing the Potential commercial Production
บทคัดย่อ: บทคัดย่อ การศึกษาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีพื้นเมืองภาคใต้โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตเป็นการค้าทำการทดลอง ณ ห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และโรงเรือนอนุบาลกล้วยไม้ สาขาพืชศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ศึกษาการขยายพันธุ์กล้วยไม้สกุลรองเท้านารีพื้นเมืองภาคใต้โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจากเมล็ด ศึกษาการผสมเกสรกล้วยไม้รองเท้านารี ที่พบในถิ่นภาคใต้ ศึกษาสูตรอาหารที่เหมาะสมในการเพาะเมล็ด และการเจริญเติบโตระยะต้นกล้าภายใต้สภาพปลอดเชื้อ ศึกษาการเพิ่มปริมาณหน่อโดยใช้ BA ระดับความเข้มข้นต่างๆและการใช้ (BA) ร่วมกับวิธีกล ศึกษาการใช้วัสดุปลูกจากอินทรียวัตถุที่เหมาะสมในการเจริญเติบโต ศึกษาประสิทธิภาพของวัสดุปลูกสำเร็จรูปจากการใช้วัสดุปลูกจากอินทรียวัตถุร่วมกับธาตุอาหารเสริมที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของกล้วยไม้สกุลรองเท้านารี วางแผนการทดลองแบบ CRD จากการศึกษาพบว่า 1. การผสมเกสรกล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่ เหลืองตรัง และขาวสตูล ผสมเกสรในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน คือ เวลา 7.00 น. 8.00 น. 9.00 น. 10.00 น. 15.00 น. 16.00 น. 17.00 น. และ 18.00 น. ทุกช่วงเวลาในการผสมเกสรสามารถติดฝักได้ คิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ช่วงเวลา 18.00 น. มีการติดฝัก 95 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีความแตกต่างทางสถิติ 2. สูตรอาหารที่เหมาะสมในการเพาะเมล็ดภายใต้สภาพปลอดเชื้อของกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีพื้นเมืองภาคใต้ ได้แก่ กล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่ เหลืองตรังและขาวสตูล เพาะเมล็ดบนอาหาร 4 สูตร คือ Thomale GD, VW (1949), MS (1962)และ KnudsonC ดัดแปลงร่วมกับน้ำมะพร้าวที่ปริมาตร 150, 300 และ 450 มิลลิลิตรต่อลิตร พบว่ากล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่ เหลืองตรัง และขาวสตูล มีระยะเวลาในการงอกเปอร์เซ็นต์การงอก และ ลักษณะโปรโตคอร์มสมบูรณ์ที่สุดบนอาหารสูตรThomale GD ดัดแปลงร่วมกับน้ำมะพร้าวปริมาณ 150 มิลลิลิตรต่อลิตร มีความแตกต่างทางสถิติ อาหารสูตร MS (1962) และ Kundson C ดัดแปลงร่วมกับน้ำมะพร้าว 450 มิลลิลิตรต่อลิตร ไม่พบการงอกของเมล็ด ส่วนอาหารสูตร VW (1949) ดัดแปลงร่วมกับน้ำมะพร้าว 150 มิลลิลิตรต่อลิตร ให้เปอร์เซ็นต์การงอกและ ลักษณะโปรโตคอร์มสมบูรณ์ที่สุดกับรองเท้านารีเหลืองตรัง และขาวสตูล มีความแตกต่างทางสถิติ อาหารสูตร MS (1962) และ Kundson C ดัดแปลงร่วมกับน้ำมะพร้าว 450 มิลลิลิตรต่อลิตร ไม่พบการงอกของเมล็ด 3. การศึกษาสูตรอาหารที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตระยะต้นกล้าภายใต้สภาพปลอดเชื้อของกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีพื้นเมืองภาคใต้ บนอาหาร 8 สูตร คือ MS (1962), ? MS (1962), VW (1949), ? VW (1949),Thomale GD, ? Thomale GD, KnudsonC และ ? KnudsonC ดัดแปลงร่วมกับมันฝรั่งบด และมันฝรั่งสกัด 50 กรัมต่อลิตร พบว่าอาหารสูตร MS (1962) ร่วมกับมันฝรั่งบดเหมาะสมในการเจริญเติบโตระยะต้นกล้าในด้านความสูงของรองเท้านารีเหลืองกระบี่และมีจำนวนราก น้ำหนักต้นสูงสุดใน รองเท้านารีขาวสตูล สูตร ? MS (1962) ร่วมกับมันฝรั่งบดมีผลต่อความสูง จำนวนใบ และจำนวนหน่อสูงสุดกับรองเท้านารีขาวสตูล มีจำนวนใบ สูงสุดกับรองเท้านารีเหลืองตรัง Thomale GD ร่วมกับมันฝรั่งบด มีจำนวนใบ น้ำหนักสูงสุดกับรองเท้านารีเหลืองกระบี่อาหารสูตร Thomale GD และ Knudson C การเจริญเติบโต และการแตกหน่อน้อย ในรองเท้านารีเหลืองตรัง สูตรอาหาร Knudson C ร่วมกับมันฝรั่งทำให้ต้นกล้าเปลี่ยนเป็นสีเหลืองในรองเท้านารีเหลืองกระบี่มีความแตกต่างทางสถิติ 4. การศึกษาการเพิ่มปริมาณหน่อโดยการศึกษาอิทธิพลของ BA ระดับความเข้มข้น 1.0, 2.0, 3.0 และ 4.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ที่มีต่อการเพิ่มปริมาณหน่อภายใต้สภาพปลอดเชื้อ และการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโต (BA) ร่วมกับวิธีกล (ไม่ตัดยอดและราก ตัดยอด ตัดราก และตัดยอดและราก) พบว่ากล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่ ในสูตรอาหารVW (1949) + มันฝรั่งบด 50 g/l + BA 2.00 mg/l + น้ำมะพร้าว 150 ml/l + ผงถ่าน 1.0 g/l มีจำนวนหน่อมากที่สุด รองเท้านารีเหลืองตรังให้จำนวนหน่อมากที่สุด ในสูตรอาหารเดียวกับเหลืองกระบี่ที่ระดับของ BA 3.00 mg/lส่วนรองเท้านารีขาวสตูล พบว่าอาหารสูตร ? MS + มันฝรั่งบด 50 g/l + BA 2.00 mg/l + น้ำมะพร้าว 150 ml/l + ผงถ่าน 1.0 g/l มีจำนวนหน่อมากที่สุด ที่ระดับ BA 4.00 mg/l ไม่มีการแตกหน่อ มีความแตกต่างทางสถิติ 5. การศึกษาการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโต (BA) ร่วมกับวิธีกล (ไม่ตัดยอดและราก ตัดยอด ตัดราก และตัดยอดและราก) เพื่อเพิ่มจำนวนยอดของกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีพื้นเมืองภาคใต้ พบว่ารองเท้านารีเหลืองกระบี่ การใช้สารควบคุมการเจริญเติบโต (BA) ร่วมกับวิธีกล ไม่มีผลต่อการแตกหน่อ แต่มีแนวโน้มว่าการตัดยอดตัดรากให้จำนวนหน่อสูงสุด รองเท้านารีเหลืองตรัง บนสูตรอาหาร VW (1949) + มันฝรั่งบด 50 g/l + BA 3.00 mg/l + น้ำมะพร้าว 150 ml/l + ผงถ่าน 1.0 g/l ร่วมกับ วิธีกลแบบต่างๆให้ผลไม่มีความแตกต่างทางสถิติ แต่มีแนวโน้มว่าการตัดรากไม่ตัดยอดมีจำนวนหน่อมากสุด รองเท้านารีขาวสตูล พบว่าอาหารสูตร ? MS ร่วมกับน้ำมะพร้าว มันฝรั่งบด +BA 2 mg/l + น้ำมะพร้าว 150 ml/l + ผงถ่าน 1.0 g/l ร่วมกับการตัดรากไม่ตัดยอด มีจำนวนหน่อ มากที่สุด มีความแตกต่างทางสถิติ 6. ศึกษาการใช้วัสดุปลูกจากอินทรียวัตถุที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อภายใต้สภาพปลอดเชื้อออกปลูกในสภาพโรงเรือน พบว่าการใช้วัสดุปลูกจากอินทรียวัตถุที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อภายใต้สภาพปลอดเชื้อออกปลูกในสภาพโรงเรือน พบว่าการใช้วัสดุปลูกจาก โฟม อิฐมอญ ใบจามจุรีหมัก หินภูเขาไฟ เปลือกสน ถ่าน ในอัตราส่วน 1:1:1:1:1 มีผลส่งเสริมการแตกหน่อได้มากกว่าและแตกต่างทางสถิติการเจริญเติบโตของกล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่การใช้วัสดุปลูกจาก อิฐมอญ ใบจามจุรีหมัก หินภูเขาไฟ เปลือกสน ถ่าน ในอัตราส่วน 1:1:1:1:1 มีผลส่งเสริมการเจริญเติบโตของกล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่ 7. ศึกษาประสิทธิภาพของวัสดุปลูกสำเร็จรูปจากการใช้วัสดุปลูกจากอินทรียวัตถุร่วมกับธาตุอาหารเสริมที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีจากการเพาะเลี้ยงภายใต้สภาพปลอดเชื้อออกปลูกในสภาพโรงเรือน พบว่าการใช้วัสดุปลูกจากอิฐมอญ: หินภูเขาไฟ : ใบจามจุรีหมัก : ถ่านกะลาปาล์ม ในอัตราส่วน 1:1:1:1 มีผลทำให้การเจริญเติบโตของกล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองตรังด้าน ความสูง ความกว้างทรงพุ่ม จำนวนใบความยาวใบน้อยกว่าและแตกต่างทางสถิติ ในการทดสอบวัสดุปลูกสำเร็จรูปจากการใช้วัสดุปลูกจากอินทรียวัตถุร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมี ที่มีอิฐมอญ ใบจามจุรีหมัก หินภูเขาไฟ เปลือกสนอัตราส่วน 1:1:1:1 ร่วมกับปุ๋ยออสโมโค้สสูตร 15-15-15 อัตรา 5 กรัมต่อกระถาง มีผลทำให้จำนวนหน่อของรองเท้านารีเหลืองตรัง และจำนวนใบของรองเท้านารีเหลืองกระบี่มากกว่าและแตกต่างทางสถิติ ขณะที่วัสดุปลูกสำเร็จรูปจากการใช้วัสดุปลูกจากอินทรียวัตถุร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีทุกชนิดและอัตราส่วนไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตของกล้วยไม้รองเท้านารีขาวสตูล
บทคัดย่อ (EN): ABSRACT Technology transfer on the production of southern native Paphiopedilum orchids by tissue culture to increase the potential for commercial production was conducted at the tissue culture laboratory and the nursing building, Department of Plant Science, Faculty of Agriculture, Rajamangala University of Technology Srivijaya. The propagation of southern native Paphiopedilum orchids was examined by tissue culture from seeds. The pollination of southern native Paphiopedilum orchids as well as proper media for seed germination and the growth of seedlings In Vitro were explored. The multiple shoots using BA in different concentrations and the use of BA together with mechanical methods were investigated. Planting materials from organic matters suitable for growth as well as the efficiency of planting materials from organic matters mixed with appropriate supplementary nutrients for the growth of Paphiopedilum orchids were examined. The experimental design was performed with Duncan multiple-range tests in CRD (Completely Randomized Design). The research results showed that: The pollination of Paphiopedilum exul (Ridl.), Paphiopedilum godefroyae and Paphiopedilum niveum was carried out in different times at 7.00, 8.00, 9.00, 10.00, 15.00, 16.00, 17.00 and 18.00. The pollination at all intervals except 18.00 yielded pods at 100%, and no significant difference was observed at that period as the percentage of pods was 95%. Proper media for seed culture In Vitro of southern native Paphiopedilum orchids, namely Paphiopedilum exul (Ridl.), Paphiopedilum godefroyae and Paphiopedilum niveum were obtained. The seeds were cultured on 4 media: Thomale GD (1954), VW (1949), MS (1962) and Kundson C (1946) with 150, 300 and 450 ml/l of coconut water. The results showed that Paphiopedilum exul (Ridl.), Paphiopedilum godefroyae and Paphiopedilum niveum had period of germination, percentage of germination and perfection of protocorm like bodies (PLBs) most with Thomale GD modified with 150 ml/l of coconut water. Significant difference was observed on MS (1962) medium and no seed germination was found on Kundson C (1946) medium modified with 450 ml/l of coconut water. The VW (1949) medium modified with 150 ml/l of coconut water had germination percentage and perfection of protocorm like bodies (PLBs) most with Paphiopedilum godefroyae and Paphiopedilum niveu. Proper media for seedling growth In Vitro of southern native Paphiopedilum orchids on 8 media: MS (1962), ? MS (1962), VW (1949), ? VW (1949), Thomale GD, ? Thomale GD, Kundson C and ? Kundson C modified with 50 g/l of mashed potato and extracted potato. The results indicated that MS (1962) medium with mashed potato was appropriate for the growth of seedling periods in height of Paphiopedilum exul (Ridl.), and the number of roots and the maximum weight in Paphiopedilum niveum. ? MS (1962) medium with mashed potato had an effect on the height, the number of leaves and the maximum shoots in Paphiopedilum niveu, and the maximum leaves in Paphiopedilum godefroyae. Thomas GD with mashed potato had the number of leaves and the maximum weight in Paphiopedilum exul (Ridl.). Growth and budding were low on Thomas GD and Kundson C media in Paphiopedilum godefroyae. Significant difference was observed on Kundson C medium with potatoes which caused young plants to become yellow in Paphiopedilum exul (Ridl.). The multiple shoots using the influence of BA at the concentrations of 1.0, 2.0, 3.0 and 4.0 ml/l affected the multiple shoots In Vitro and the use of plant growth regulators (BA) with mechanical methods (no cut-off and no root cutting, cut-off, root cutting, and cut-off and root cutting). The results showed that Paphiopedilum exul (Ridl.) on VW (1949) medium with 50 g/l + BA 2.00 mg/l of mashed potato, 150 ml/l of coconut water, 1.0 g/l of powdered charcoal yielded the highest shoots. Paphiopedilum godefroyae and Paphiopedilum exul (Ridl.) had the maximum shoots on the same medium with BA 3.00 mg/l. Paphiopedilum niveu using ? MS medium + 50 g/l of mashed potato + BA 2.00 mg/l + 150 ml/l of coconut water +1.0 g/l of powdered charcoal yielded the maximum shoots. Significant difference was found with BA 4.00 mg/l due to no germination. The plant growth regulators (BA) with mechanical methods (no cut-off and no root cutting, cut-off, root cutting, and cut-off and root cutting) to increase the tip number of southern native Paphiopedilum orchids showed that Paphiopedilum exul (Ridl.) and plant growth regulators (BA) with mechanical methods had no effect on germination, but the cut-off and root cutting had a tendency to yield the maximum shoots. No significant difference was found in Paphiopedilum godefroyae on VW (1949) + 50 g/l of mashed potato + BA 3.00 mg/l + 150 ml/l of coconut water + 1.0 g/l of powdered charcoal with mechanical methods, but the root cutting and no cut-off yielded the maximum shoots. Significant difference was found in Paphiopedilum niveum on ? MS medium with coconut water and mashed potato + BA 2.00 mg/l + 150 ml/l of coconut water + 1.0 g/l of powdered charcoal with root cutting, and no cut-off yielded the maximum shoots. The three lady’s slipper orchid ‘Paphiopedilum’ are kind of beautiful native orchids of southern Thailand. Growing the Paphiopedilum orchid requires a durable, well drained and ventilated, well moisture keeping planting medium which free of diseases and non-toxic to the plants. This research aimed to find out the kinds and ratios of planting materials and rate of fertilizer suitable for cultivation lady’s slipper orchid. The trial were laid out in a completely randomized design with 4 treatments and 10 replications per treatment. The Paphiopedilum orchids were planted in plastic pots with 5 planting media which composed of different kinds of material, e.g. brick : palm shell charcoal : rain tree-leaf compost; brick : wood charcoal : all planting materials were mixed at the ratios of 1:1:1:1 and :1:1:1:2 with 5 gm per pot of 15-15-15 slowly released fertilizer. The results showed that the growth of lady’s slipper orchid ‘Paphiopedilum eexul (Ridl.) Rolfe’ grown in different planting media were statistically different. The Paphiopedilum eexul (Ridl.) Rolfe orchids grown in media containing foam : brick: rain tree-leaf compost :pumice stone : pine bark at the ratios of 1:1:1:1:1 had higher mean values in number of shoot and the materials of brick : wood charcoal : rain tree-leaf compost : oil palm shell charcoal, which were mixed at 1:1:1:1 had lower mean values and statistically different in heigth, number of leaf and leaf size of lady’s slipper orchid ‘Paphiopedilum godefroyae’ than plants grown in others media. The lady’s slipper orchid ‘Paphiopedilum eexul (Ridl.) Rolfe ’ grown in media containing brick : rain tree-leaf compost :pumice stone : pine bark at the ratios of 1:1:1:1 with 5 gm per pot of 15-15-15 slowly released fertilizer had higher mean values and statistically different in number of shoot and had higher mean values and statistically different in number of leaf of lady’s slipper orchid ‘Paphiopedilum godefroyae’. The materials of brick : wood charcoal : rain tree-leaf compost : oil palm shell charcoal or pine bark, which were mixed at 1:1:1:1 with 5 and 10 gm per pot of 15-15-15 slowly released fertilizer had no statistically different in the growth of lady’s slipper orchid ‘Paphiopedilum niveum’.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
คำสำคัญ: ภาษาอังกฤษ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ดวงฤดี ดำแก้ว. "การศึกษาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีพื้นเมืองภาคใต้โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตเป็นการค้าStudy and Technology Transfer on Production of Paphiopedilum by Tissue Culture For Increasing the Potential commercial Production". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย. 2554

ดวงฤดี ดำแก้ว. "การศึกษาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีพื้นเมืองภาคใต้โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตเป็นการค้าStudy and Technology Transfer on Production of Paphiopedilum by Tissue Culture For Increasing the Potential commercial Production". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีพื้นเมืองภาคใต้โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตเป็นการค้า
ดวงฤดี ดำแก้ว
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
30 กันยายน 2554
การพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและการผลิตกล้วยไม้สกุลม็อคคาร่า การประยุกต์เครื่องหมายโมเลกุล SSR ที่พัฒนาจากกล้วยไม้สกุลแวนด้า ใช้กับกล้วยไม้สกุลรองเท้านารี การผลิตหัวเชื้อสารชีวภัณฑ์เชื้อราเพื่อการกำจัดเพลี้ยไฟกล้วยไม้ โครงการวิจัยและพัฒนากล้วยไม้สกุลรองเท้านารีเพื่อการค้า ความสามารถในการผสมข้ามสกุลย่อยของกล้วยไม้รองเท้านารีบางชนิด การผลิต การตลาด และความต้องการใช้ดาหลาในพื้นที่ภาคใต้ การพัฒนาระบบขยายพันธุ์ว่านชักมดลูก โดยวิธีการเพาะเลี้ยง เนื้อเยื่อ เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตพืชสมุนไพร การวิเคราะห์ชนิดของเม็ดสีแอนโทไซยานิน ในกล้วยไม้ป่า และกล้วยไม้ตัดดอกของไทย เพื่อการปรับปรุงพันธุ์ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชพื้นเมือง ศักยภาพการผลิตปลาสวยงามเพื่อการส่งออกในจังหวัดราชบุรี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair