สืบค้นงานวิจัย
การเปรียบเทียบการใช้ฟลูโอชิโนโลนอเซทโทโนด์ ในออราเบสกับไทรแอมชิโนโลน อเซทโทไนด์ ในออราเบสในการรักษาไลเคน พลานัสในช่องปาก : รายงานผลการวิจัย
วณี ทวีทรัพย์ - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชื่อเรื่อง: การเปรียบเทียบการใช้ฟลูโอชิโนโลนอเซทโทโนด์ ในออราเบสกับไทรแอมชิโนโลน อเซทโทไนด์ ในออราเบสในการรักษาไลเคน พลานัสในช่องปาก : รายงานผลการวิจัย
ชื่อเรื่อง (EN): The comparison of using fluocinolone acetonide in orabase to triamcinolone acetonide in orabase in the treatment of
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วณี ทวีทรัพย์
บทคัดย่อ: ศึกษาผู้ป่วย 40 ราย ที่เป็นไลเคน พลานัส ในช่องปาก กลุ่มแรกได้รับการรักษาด้วยยาทาเฉพาะที่ชนิดฟลูโอซิโนโลน อเซทโทไนด์ในออราเบส (0.1%) ส่วนอีกกลุ่มได้รับชนิดไทรแอมซิโนโลน อเซทโทไนด์ ในออราเบส (0.1%) กลุ่มละ 20 รายเท่านั้น พบว่าทั้งสองกลุ่มผู้ป่วยเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ช่วงอายุที่พบบ่อยประมาณ 40-60 ปี และระยะเวลาของการเกิดโรคมีตั้งแต่ 2-129 เดือน ตำแหน่งของรอยโรคพบมากที่สุดคือบริเวณกระพุ้งแก้มรองลงไปได้แก่ลิ้น เหงือก รอยต่อระหว่างกระพุ้งแก้มกับเหงือก เพดานปากและริมฝีปากตามลำดับ จากการตรวจทางพยาธิวิทยาของรอยโรค พบเซลล์ที่มีรูปร่างผิดปกติไปจากธรรมดา 2 ราย ส่วนการรักษาผู้ป่วยนาน 4 สัปดาห์ ด้วยฟลูโอซิโนโลน อเซทโทไนด์ ในออราเบส พบว่ารอยโรคหาย 13 ใน 19 ราย และ 8 ใน 19 รายที่ใช้ไทรแอมซิโนโลน อเซทโทไนด์ ในออราเบส อนึ่งจำนวนผู้ปวยที่หายหลังจากใช้ยาสองชนิดนี้ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) นอกจากนี้ในกลุ่มที่ใช้ยาฟลูโอซิโนโลน อเซทโทไนด์ ในออราเบส พบว่าความดันโลหิตและปริมาณของลิมโฟซัยส์ของผู้ป่วยก่อนและหลังการรักษาไม่มีความแตกต่างกัน แต่จำนวนอีโอซิโนฟิลส์ลดลงทุกรายหลังการรักษาเป็นเวลา 6 เดือน นอกจากนี้ได้พบการติดเชื้อราชนิดเฉียบพลันในผู้ป่วยบางรายในระหว่างการรักษา แต่สามารถรักษาให้หายได้ทุกรายด้วยยาต้านเชื้อรา อย่างไรก็ตามไม่พบการกดการทำงานของต่อมหมวกไตส่วนนอกอย่างถาวรภายหลังการรักษานาน 6 เดือน การศึกษาในครั้งนี้แสดงว่าเราสามารถนำยาสเตียรอยด์ชนิดทาเฉพาะที่อีกชนิดหนึ่ง คือ ฟลูโอซิโนโลน อเซทโทไนด์ มาใช้รักษารอยโรคไลเคน พลานัสในช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่พบผลข้างเคียงทางคลินิก
บทคัดย่อ (EN): Among forty patients with oral lichen planus, twenty of the first group were topically treated with Fluocinolone acetonide in orabase 0.1% (FAO). The other twenty of second group were treated with triamcinolone acetonide in orabase 0.1% (TAO). The number of female patients was greater than that of males in both groups. The age range was from 40 to 60 years and the duration of the disease varied from 2 to 129 months. The lesions were most commonly found at the buccal mucosa and also seen at tongue, gingiva, mucobuccal fold, palate and lips respectively. Only two biopsy specimens from the lesions revealed histopathologically of atypical cells. During four weeks of treatment the lesions of 13 out of 19 patients could be effectively cured with FAO whereas 8 out of 19 patients were cured with TAO. The differences between the two groups were statistically different (P<0.05). Moreover, there were no differences between before and after treatment in blood pressure, number of lymphocytes in the patients with FAO, but the number of eosinophils was reduced in every case after treatment for six months. Acute pseudomembranous candidiasis eruption during the treatment was found but could be cured with antifungal drug in every case. There was no permanent adrenal cortical suppression after treatment for 6 months. This study showed that we could effectively use another topical steroid, FAO, for the treatment of oral lichen planus without any clinical side-effects.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://thailis-db.car.chula.ac.th/CU_DC/Research/October2006/ISD/kobkan_fluocino.pdf
เผยแพร่โดย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คำสำคัญ: ฟลูโอซิโนโลน อเซทโทไนด์
เจ้าของลิขสิทธิ์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายละเอียด: Among forty patients with oral lichen planus, twenty of the first group were topically treated with Fluocinolone acetonide in orabase 0.1% (FAO). The other twenty of second group were treated with triamcinolone acetonide in orabase 0.1% (TAO). The number of female patients was greater than that of males in both groups. The age range was from 40 to 60 years and the duration of the disease varied from 2 to 129 months. The lesions were most commonly found at the buccal mucosa and also seen at tongue, gingiva, mucobuccal fold, palate and lips respectively. Only two biopsy specimens from the lesions revealed histopathologically of atypical cells. During four weeks of treatment the lesions of 13 out of 19 patients could be effectively cured with FAO whereas 8 out of 19 patients were cured with TAO. The differences between the two groups were statistically different (P
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเปรียบเทียบการใช้ฟลูโอชิโนโลนอเซทโทโนด์ ในออราเบสกับไทรแอมชิโนโลน อเซทโทไนด์ ในออราเบสในการรักษาไลเคน พลานัสในช่องปาก : รายงานผลการวิจัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2533
การเปรียบเทียบการใช้ฟลูโอซิโนโลน อเซทโทไนด์ โซลูชั่นกับไทรแอมซิโนโลน อเซทโทไนด์ในออราเบสในการรักษาไลเคน พลานัสในช่องปาก : รายงานผลการวิจัย รายงานการวิจัยความหลากหลายของไลเคน เห็ด และราขนาดใหญ่ในพื้นที่ปกปักพันธุกรรมพืช อพ.สธ. เขื่อนน้้าพุง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทูเมอร์เนคโครซิสแฟกเตอร์-แอลฟาในไลเคนพลานัสในช่องปากที่รักษาด้วยยาฟลูโอซิโนโลน อะเซทโทไนด์ ความเข้มข้น 0.1% : รายงานผลการวิจัย รายงานการวิจัยเรื่อง เทคนิคการเพิ่มผลผลิตว่านกระชายดำ รายงานโครงการวิจัยเรื่อง การวิเคราะห์หาปริมาณสารอัลฟาไฮดรอกซี แอซิค (เอเอชเอ) ในมะขามหวาน การเปรียบเทียบความหลากหลายทางชีวภาพของนกในป่าธรรมชาติและสวนป่า การใช้สาหร่ายทะเลสกุลกราซิลาเรียช่วยลดปริมาณออโซฟอสเฟตในน้ำทิ้งจากการเลี้ยงกุ้ง รายงานการวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์แยมแตงซันเลดี้จากกลูโคแมนแนน รายงานการวิจัยการศึกษาความหลากหลายของพืชตระกูลถั่วและเชื้อไรโซเบียมที่อาศัยในปมรากบริเวณเขื่อนน้ำพุง รายงานการวิจัย การศึกษาสูตรอาหารที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของฟีโลเดนดรอนซานาดู
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก