สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาการสกัดสารแอนโธไซยานินจากซังข้าวโพดไร่สีม่วงเพื่อควบคุมสารอะฟลาทอกซินในถั่วลิสงและข้าวโพด
พรรณระพี อำนวยสิทธิ์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ชื่อเรื่อง: ศึกษาการสกัดสารแอนโธไซยานินจากซังข้าวโพดไร่สีม่วงเพื่อควบคุมสารอะฟลาทอกซินในถั่วลิสงและข้าวโพด
ชื่อเรื่อง (EN): Study Anthocyanins extraction from Purple Field Corn Cob to control Aflatoxins in Peanut and Corn
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พรรณระพี อำนวยสิทธิ์
บทคัดย่อ: การสกัดหยาบสารแอนโธไซยานินจากซังข้าวโพดไร่สีม่วงด้วย 95% เอทานอล:น้ำ ระเหยตัวทำละลายออกด้วยเครื่องกลั่นความดันต่ำ ได้สารสกัดหยาบสีแดงเลือดนกแล้วนำไปแยกออกอีกครั้งด้วยอัลตร้าไวโอเลตสเปกโตรสโกปี ได้ค่าการดูดกลืนแสง 520 - 550 นาโนเมตรซึ่งเป็นค่าการดูดกลืนแสงของสารแอนโธไซยานินเมื่อนำไปทำให้แห้ง (freeze dryer) ได้สารผงสีแดงเลือดนก นำมาผสมกับถั่วลิสงบดได้สารผงแห้งสีม่วงเข้ม ผสมกับข้าวโพดบดได้สารผงแห้งสีน้ำตาลเข้ม หลังจากนั้นตั้งวัตถุดิบทั้งอสงที่ผสมกับสารสกัดหยาบแอนโธไซยานินไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลาหกเดือน พบว่าลักษระของวัตถุดิบทั้งสองไม่เปลี่ยนแปลง คือ ถั่วลิสงบดยังคงได้ผงแห้งสีม่วงเข้ม ส่วนข้าวโพดบดได้สารผงแห้งสีน้ำตาลเข้มเหมือนเดิม และเมื่อนำมาวิเคราะห์ด้วยเทคนิคทาง HPLC ไม่พบการเกิดสารอะฟลาทอกซินทั้ง 4 ชนิด คือ B1 B2 G1 และ G2 เมื่อนำวัตถุดิบทั้งสองดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับส่วนวัตถุดิบ ที่ไม่ได้ผสมสารสกัดหยาบแอนโธไซยานิน คือถั่วลิสงบดลักษระเบื้องต้นเป็นผงเปียกชื้นเล็กน้อยสีน้ำตาลอ่อน และเมื่อตั้งทิ้งไว้หกเดือนที่อุณหภูมิห้อง วัตถุดิบมีลักษระเปลี่ยนไปคือมีลักษณะเป็นก้อนเล็กเกาะติดกันเปียกชื้นมากขึ้น สีน้ำตาลอ่อน ส่วนข้าวโพดบดที่ไม่ผสมสารสกัดหยาบแอนโธไซยานิน ลักษระเริ่มต้นเป็นสารผงแห้งสีเหลืองอ่อนเมื่อตั้งทิ้งไว้หกเดือน ลักษณะของข้าวโพดดังกล่าวเปลี่ยนเป็นสารผงเปียกชื้นเล็กน้อยสีเหลืองอ่อน เมื่อนำวัตถุดิบทั้งสองที่ไม่ได้ผสมสารสกัดหยาบแอนโธไซยานินมาวิเคราะห์หาปริมาณสารอะฟลาทอกซินด้วยเทคนิคทาง HPLC ไม่พบสารอะฟลาทอกซินทั้ง 4 ชนิด คือ B1 B2 G1 และ G2 ดังนั้นวัตถุดิบทั้ง 4 ตัวอย่างไม่พบปริมาณสารอะฟลาทอกซินทั้ง 4 ชนิด หลังตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง เป็นเวลา 6 เดือน วัตถุดิบที่ไม่ผสมกับสารสกัดแอนโธไซยานินมีความชื้นสูงกว่าวัตถุดิบที่ผสมสารสกัดหยาบแอนโธไซยานินโดยการสังเกตเห็นลักษณะวัตถุดิบดังกล่าวเปียกชื้นมากขึ้น จึงทำให้มีโอกาสที่จะเกิดสารอะฟลาทอกซินสูงกว่า เพราะราที่สร้างอะฟลาทอกซินเกิดได้ดีในวัตถุดิบที่มีความชื้นสูงกว่าโดยเฉพาะถั่วลิสง ในเดือนที่ 9 ถั่วลิสงที่ไม่ได้ผสมกับสารสกัดหยาบแอนโธไซยานินตรวจพบสารอะฟลาทอกซินชนิดบี
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=44&RecId=663&obj_id=2304
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
คำสำคัญ: ศัตรูพืชและสัตว์
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
รายละเอียด: การสกัดหยาบสารแอนโธไซยานินจากซังข้าวโพดไร่สีม่วงด้วย 95% เอทานอล:น้ำ ระเหยตัวทำละลายออกด้วยเครื่องกลั่นความดันต่ำ ได้สารสกัดหยาบสีแดงเลือดนกแล้วนำไปแยกออกอีกครั้งด้วยอัลตร้าไวโอเลตสเปกโตรสโกปี ได้ค่าการดูดกลืนแสง 520 - 550 นาโนเมตรซึ่งเป็นค่าการดูดกลืนแสงของสารแอนโธไซยานินเมื่อนำไปทำให้แห้ง (freeze dryer) ได้สารผงสีแดงเลือดนก นำมาผสมกับถั่วลิสงบดได้สารผงแห้งสีม่วงเข้ม ผสมกับข้าวโพดบดได้สารผงแห้งสีน้ำตาลเข้ม หลังจากนั้นตั้งวัตถุดิบทั้งอสงที่ผสมกับสารสกัดหยาบแอนโธไซยานินไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลาหกเดือน พบว่าลักษระของวัตถุดิบทั้งสองไม่เปลี่ยนแปลง คือ ถั่วลิสงบดยังคงได้ผงแห้งสีม่วงเข้ม ส่วนข้าวโพดบดได้สารผงแห้งสีน้ำตาลเข้มเหมือนเดิม และเมื่อนำมาวิเคราะห์ด้วยเทคนิคทาง HPLC ไม่พบการเกิดสารอะฟลาทอกซินทั้ง 4 ชนิด คือ B1 B2 G1 และ G2 เมื่อนำวัตถุดิบทั้งสองดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับส่วนวัตถุดิบ ที่ไม่ได้ผสมสารสกัดหยาบแอนโธไซยานิน คือถั่วลิสงบดลักษระเบื้องต้นเป็นผงเปียกชื้นเล็กน้อยสีน้ำตาลอ่อน และเมื่อตั้งทิ้งไว้หกเดือนที่อุณหภูมิห้อง วัตถุดิบมีลักษระเปลี่ยนไปคือมีลักษณะเป็นก้อนเล็กเกาะติดกันเปียกชื้นมากขึ้น สีน้ำตาลอ่อน ส่วนข้าวโพดบดที่ไม่ผสมสารสกัดหยาบแอนโธไซยานิน ลักษระเริ่มต้นเป็นสารผงแห้งสีเหลืองอ่อนเมื่อตั้งทิ้งไว้หกเดือน ลักษณะของข้าวโพดดังกล่าวเปลี่ยนเป็นสารผงเปียกชื้นเล็กน้อยสีเหลืองอ่อน เมื่อนำวัตถุดิบทั้งสองที่ไม่ได้ผสมสารสกัดหยาบแอนโธไซยานินมาวิเคราะห์หาปริมาณสารอะฟลาทอกซินด้วยเทคนิคทาง HPLC ไม่พบสารอะฟลาทอกซินทั้ง 4 ชนิด คือ B1 B2 G1 และ G2 ดังนั้นวัตถุดิบทั้ง 4 ตัวอย่างไม่พบปริมาณสารอะฟลาทอกซินทั้ง 4 ชนิด หลังตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง เป็นเวลา 6 เดือน วัตถุดิบที่ไม่ผสมกับสารสกัดแอนโธไซยานินมีความชื้นสูงกว่าวัตถุดิบที่ผสมสารสกัดหยาบแอนโธไซยานินโดยการสังเกตเห็นลักษณะวัตถุดิบดังกล่าวเปียกชื้นมากขึ้น จึงทำให้มีโอกาสที่จะเกิดสารอะฟลาทอกซินสูงกว่า เพราะราที่สร้างอะฟลาทอกซินเกิดได้ดีในวัตถุดิบที่มีความชื้นสูงกว่าโดยเฉพาะถั่วลิสง ในเดือนที่ 9 ถั่วลิสงที่ไม่ได้ผสมกับสารสกัดหยาบแอนโธไซยานินตรวจพบสารอะฟลาทอกซินชนิดบี
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

พรรณระพี อำนวยสิทธิ์. "ศึกษาการสกัดสารแอนโธไซยานินจากซังข้าวโพดไร่สีม่วงเพื่อควบคุมสารอะฟลาทอกซินในถั่วลิสงและข้าวโพดStudy Anthocyanins extraction from Purple Field Corn Cob to control Aflatoxins in Peanut and Corn". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา. 2551

พรรณระพี อำนวยสิทธิ์. "ศึกษาการสกัดสารแอนโธไซยานินจากซังข้าวโพดไร่สีม่วงเพื่อควบคุมสารอะฟลาทอกซินในถั่วลิสงและข้าวโพดStudy Anthocyanins extraction from Purple Field Corn Cob to control Aflatoxins in Peanut and Corn". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา. 2551. Print.



TARR Wordcloud:
ศึกษาการสกัดสารแอนโธไซยานินจากซังข้าวโพดไร่สีม่วงเพื่อควบคุมสารอะฟลาทอกซินในถั่วลิสงและข้าวโพด
พรรณระพี อำนวยสิทธิ์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
2551
การศึกษาการตอบสนองต่อธาตุอาหารพืชของถั่วลิสงที่ปลูกในดินบางชุดในจังหวัดลำปาง สกัดสารแอนโธไซยานินจากซังข้าวโพดไร่สีม่วงเพื่อเป็นสารแต่งสีอาหาร การทดสอบถั่วเขียวพันธุ์ต่างๆ รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการการศึกษาคุณภาพของสีจากแก่นและเปลือกต้นไม้เพื่อสร้างชิ้นงาน บนผืนผ้าพื้นเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ศึกษาตัวทำละลายที่เหมาะสมในการสกัดสารแอนโธไซยานินจากซังข้าวโพดสีม่วง ผลของชนิดและปริมาณสารตกตะกอนต่อแอนโธไซยานินและคุณลักษณะของเต้าหู้อ่อนจากถั่วดำ การทำลายพิษอะฟลาท๊อกซินในข้าวโพดเพื่อใช้เป็นอาหารเป็ด การศึกษาการถ่ายทอดลักษณะ ENDOSPERM ในข้าวโพดคั่ว การทำลายพิษอะฟลาท๊อกซินในข้าวโพดเพื่อใช้เป็นหาอารเป็ดเนื้อ ผลของพลาสติไซเซอร์ที่มีต่อสมบัติทางกายภาพและสมบัติเชิงกลของฟิล์มเซลูโลสเอส เทอร์จากฟางข้าวและเปลือกข้าวโพด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair