สืบค้นงานวิจัย
การใช้สะระแหน่ (Mentha cordifolia Opiz.) เป็นสารเสริมเพื่อทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารไก่เนื้อ
สุทิศา เข็มผะกา - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ชื่อเรื่อง: การใช้สะระแหน่ (Mentha cordifolia Opiz.) เป็นสารเสริมเพื่อทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารไก่เนื้อ
ชื่อเรื่อง (EN): Utilization of peppermint (Mentha cordifolia Opiz.) substitute for antibiotics as a feed additive in broiler diets
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุทิศา เข็มผะกา
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณสมบัติการขับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ของน้ำมัน หอมระเหยจากสะระแหน่ (M. cordifolia) และศึกษาผลของการเสริมสะระแหน่ (M. cordijolia) บด แห้งต่อสมรรถนะการเจริญเติบ โต การใช้ประ โยชน์ได้ของโภชนะ ลักษณะซาก การต้านอนุมูล อิสระ การผลิตแอมโมเนีย และการเปลี่ยนแปลงประชากรจุลินทรีย์ในลำไส้ของไก่เนื้อ โดยแบ่งการ ทดลองออกเป็น 3 การทดลอง คือ การทดลองที่ 1 ศึกษาการขับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ของน้ำมันหอมระเหย จากสะระแหน่ (M. cordjolia ) สกัดด้วขวิธีการที่แตกต่างกัน 4 วิธี ประกอบด้วย 1) การกลั่นด้วยน้ำ และไอน้ำ 2) การสกัดด้วย 3เมทานอล: เอทานอล 3) การสกัดด้วยน้ำ และ 4) การสกัดด้วยเอทานอล จุลินทรีย์ที่ใช้ทดสอบ คือ Escherichia coli, Staphylococcus aureus และ Samonella typhimurium ผลการทดสอบด้วยวิธี disc diflusion (DD) น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากการสกัดทุกวิธีมีประสิทธิภาพ ในการขับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคทุกชนิด แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าน้ำมันหอมระเหยทางการค้มี ประสิทธิภาพในการขับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคได้ดีที่สุด สำหรับการทดสอบด้วยวิธีการหาปริมาณ ความเข้มขั้นต่ำสุดที่สามารถขับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ (minimal inhibitory concentration, MIC)และ ปริมาณความเข้มขันต่ำสุดที่สามารถฆ่าทำลายเชื้อจุดินทรีย์ (minimal bactericidal concentration, MBC) พบว่าน้ำมันหอมระเหยที่ ด้จากการสกัดทุกวิธีสามารถขับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค โคยน้ำมัน หอมระเหยที่ได้จากการสกัดด้วยน้ำและ ไอน้ำ มีค่า MIC และ MBC ต่ำสุดต่อการขับยั้งเชื้อ E. coli, S. aureus และ S. sphimuium การทดลองที่ 2 ใช้ไก่เนื้อเพศผู้ อายุ 21 วัน จำนวน 45 ตัว เลี้ยงบนกรง ขังเคี่ยว แบ่งการทดลองออกเป็น 5 กลุ่มๆ ละ 9 ซ้ำ ตามแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ อาหาร ทดลองแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มควบคุม และกลุ่มที่เสริมสะระแหน่บดแห้งที่ระดับ 0.5. 1.0 1.5 และ 2.0% ตามลำดับ การเสริมสะระแหน่บดแห้งทุกระดับไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ ประ โยชน์ได้ของวัตถุแห้ง เถ้า สารอินทรีย์ เชื่อใย และ โปรตีน (p>0.05) แต่มีผลดีในการลดการผลิต แอมโมเนียในมูล สำหรับคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระ พบว่าการเสริมสะระแหน่บดแห้งทุกระดับ สามารถลดค่ TBARS (p-0.05) แต่ไม่มีผลต่อค่อนุมูลอิสระ DPPH ในซีรัมของไก่เนื้อ เมื่อ เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (3*0.05) การทคลองที่ 3 ใช้ไก่เนื้อเพสผู้อายุ 1 วัน จำนวน 480 ตัว แบ่ง การทดลองออกเป็น 6 กลุ่มๆ ละ 4 ซ้ำๆ ละ 20 ตัว ตามแผนการทดลองแบบสุ่มสมบรูณ์ อาหาร ทคลองประกอบด้วย กลุ่มควบคุม กลุ่มควบคุม-ยาปฏิชีวนะคลอเดตราชัยคลิน 5 ppm และกลุ่มที่ เสริมสะระแหน่บดแห้งที่ระดับ 0.5, 10, 1.5 และ 2.0% ตามลำดับ การเสริมสะระแหน่บดแห้งไม่ ส่งผลกระทบต่อสมรรถนะการเจริญเติบโต ถักษณะซาก การผลิตแอมโมเนีย หรือการเปลี่ยนแปลง ประชากรจุลินทรีย์ของไก่เนื้อ แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าการเสริมสะระแหน่บดแห้งทุกระดับสามารถ ลดไขมันช่องท้องได้ (p-0.05) นอกจากนี้สะระแหน่ยังมีคุณสมบัติในการต้นอนุมูลอิสระ โดยการ เสริมสะระแหน่บดแห้งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ DPPH และค่ TBARS ในซีรัมของไก่เนื้อ เมื่อ เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (p<0.05) สรุปไห้ว่าน้ำมันหอมระเหยจากสะระแหน่มีประสิทธิภาพในการขับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค แต่อย่างไรก็ตาม การเสริมสะระแหน่ (M. cordjolia) บดแห้งไม่มีผลต่อการใช้ประโยชน์ได้ของ โภชนะ สมรรถนะการเจริญเติบโต ลักษณะซาก การผลิตแอม โมเนีข และการเปลี่ยนแปลงประชากร จุลินทรีย์ แต่พบว่ามีคุณสมบัติที่ดีในการต้านอนุมูลอิสระ และลดการสะสมไขมันช่องท้องของ ไก่เนื้อ
บทคัดย่อ (EN): The objective of this research was to investigate the antibacterial properties of essential oil from peppermint (M. cordifolia) and to evaluate the etiect of dried peppermint (M. cordifolia) supplementation on growth performance, nutrient utilization, carcass traits, antioxidant activity, and intestinal microbial population changes of broilers. The study was divided into 3 experiments. Experiment 1, focused on the antibacterial activities of peppermint essential oil (M. cordifolia) using various extraction methods. Essential oil extractions consisted of 4 methods: 1) water and steam, 2) 3methanol: 1ethanol, 3) hydro, and 4) ethanol extraction. Escherichia coli, Staphylococcus aureus and Salmonella typhimurium were used in this investigation. The result was that under the disc diffusion (DD) test, the essential oil from all extraction methods showed effectiveness against all pathogenic bacteria. However, the commercial oil was found to have the highest effectiveness against tested pathogenic bacteria. In the case of the minimal inhibitory concentration (MIC) and minimal bactericidal concentration (MBC) tests, all essential oil extraction methods provided antibacterial potential in which the essential oil from water and steam distillation showed the lowest MIC and MBC values for E. coli, S. aureus and S. typhimurium. In experiment 2, a total of 45 21-day-old male broilers were placed in individual cages and assigned into 5 dietary treatments with 9 replicates in Completely Randomized Design (CRD). Five dietary treatments consisted of control and 0.5, 1.0, 1.5 and 2.0% dried peppermint, respectively. The addition of dried peppermint in diets had no significant efiects on dry matter, ash, organic matter, fiber and protein utilization (p>0.05), but there was a beneficial efiect on manure ammonia reduction (p0.05). In experiment 3, a total of 480 one-day-old male broilers were randomly assigned to 6 dietary treatments with 4 replicates of 20 chicks each using the CRD experimental design. The experimental diets consisted of 6 treatments: control, control+chlortetracycline 5 ppm and supplemented with dried peppermint at levels of 0.5, 1.0, 1.5 and 2.0%, respectively. The supplementation of dried peppermint had no significant effects on growth performance, carcass traits, ammonia production or microbial population changes of broilers. However, all levels of dried peppermint supplementation resulted in decreased abdominal fat (p<0.05). In addition, dried peppermint showed an anti-oxidation property by DPPH radical values and serum TBARS compared with control (p<0.05). In conclusion, peppermint (M. cordifolia) essential oil can provide efiective antimicrobes against pathogenic bacteria. However, dried peppermint (M. cordifolia) supplementation had no significant efiects on nutrient utilization, growth performance, carcass traits, ammonia production and microbial population changes, but it showed beneficial efiects on antioxidant activity and lower abdominal fat deposition of broilers.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
คำสำคัญ: ไก่เนื้อ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สุทิศา เข็มผะกา. "การใช้สะระแหน่ (Mentha cordifolia Opiz.) เป็นสารเสริมเพื่อทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารไก่เนื้อUtilization of peppermint (Mentha cordifolia Opiz.) substitute for antibiotics as a feed additive in broiler diets". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. 2554

สุทิศา เข็มผะกา. "การใช้สะระแหน่ (Mentha cordifolia Opiz.) เป็นสารเสริมเพื่อทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารไก่เนื้อUtilization of peppermint (Mentha cordifolia Opiz.) substitute for antibiotics as a feed additive in broiler diets". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้สะระแหน่ (Mentha cordifolia Opiz.) เป็นสารเสริมเพื่อทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารไก่เนื้อ
สุทิศา เข็มผะกา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
30 กันยายน 2554
ยาปฏิชีวนะตกค้างกับ... สเต็กไก่ ยาปฏิชีวนะกับปลาแห้งรมควัน การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี ยาปฏิชีวนะตกค้างในปลาดอร์รี่สด ศึกษาสภาวะการติดเชื้อ Brachyspira ในไก่ การคัดเลือกโปรไบโอติกเพื่อใช้เป็นอาหารไก่ การใช้ถั่วเฮดจ์ลูเซินเป็นอาหารสัตว์ปีก 2) ผลการใช้ใบถั่วเอดจ์ลูเซินระดับต่างๆในอาหารไก่กระทง ผลการใช้มันสำปะหลังแคโรทีนสูง (พันธุ์ระยอง 2) เป็นอาหารไก่กระทง การใช้แหนใหญ่เลี้ยงไก่พื้นเมือง การใช้ประโยชน์จากใบมะรุมเป็นอาหาร ไก่ไข่ และไก่เนื้อ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair