สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาฤทธิ์มาลาเรียและความเป็นพิษของสมุนไพรในตำรับยามหานิลแท่งทองและตำรับยาเขียวหอมสัตว์
ไม่ระบุ - ไม่ระบุ
ชื่อเรื่อง: การศึกษาฤทธิ์มาลาเรียและความเป็นพิษของสมุนไพรในตำรับยามหานิลแท่งทองและตำรับยาเขียวหอมสัตว์
ชื่อเรื่อง (EN): ไม่ระบุ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ไม่ระบุ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): non applicable
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. ไม่ระบุ
ชุดเอกสาร: โครงการเดี่ยว
บทคัดย่อ: โรคมาลาเรียเป็นโรคติดเชื้อปรสิตที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เขตร้อน ปัญหาที่สำคัญใน การป้องกันและรักษามาลาเรียเกิดจากเชื้อมาลาเรียมีการพัฒนาตัวให้ดื้อต่อยาหลายชนิดได้อย่างรวดเร็ว จึง จำเป็นที่ต้องมีการพัฒนายาต้านมาลาเรียตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพ พืชสมุนไพรเป็นหนึ่งของแหล่งที่มาของยาที่มี ศักยภาพและมีความน่าสนใจในการนำไปพัฒนายาต้านมาลาเรีย งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์ต้านการ เจริญเติบโตของเชื้อมาลาเรียและทดสอบความเป็นพิษของสมุนไพรตำรับยามหานิลแท่งทองและตำรับยาเขียว หอม โดยทำการศึกษาฤทธิ์ต้านมาลาเรียของพืชสมุนไพร 26 ชนิด จำนวน 52 ตัวอย่างต่อการยับยั้งการ เจริญเติบโตของเชื้อมาลาเรียชนิด Plasmodium falciparum สายพันธุ์ K1 (สายพันธุ์ที่ดื้อต่อยาคลอโรควิน) ในหลอดทดลองโดยใช้การทดสอบการวัดปฏิกิริยาของเอนไซม์ lactate dehydrogenase protein (pLDH) และ ทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อมาลาเรียของสารสกัดในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Plasmodium berghei ในหนู ทดลองด้วยวิธี 4-day suppressive test โดยการป้อนสารสกัดตัวอย่างขนาด 200, 400 และ 600 มิลลิกรัมต่อ กิโลกรัมน้ำหนักตัว รวมทั้งศึกษาความเป็นพิษของสารสกัดต่อ Vero cell ด้วยวิธี 3-[4,5-dimethylthiazol-2-yl]- 2,5-diphenyl-tetrazolium bromide (MTT) และทดสอบความเป็นพิษเฉียบพลันในหนูทดลองซึ่งได้รับสาร สกัดขนาด 2,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว และสังเกตความเป็นพิษเป็นระยะเวลา 14 วัน ผลการศึกษา ในหลอดทดลองพบสารสกัดที่มีฤทธิ์ต้านมาลาเรียที่ดีมาก (IC50 < 10 μg/ml) จำนวน 6 ตัวอย่าง โดยเป็นสมุนไพร ในตำรับยามหานิลแท่งทอง จำนวน 3 ตัวอย่าง ได้แก่สารสกัดเอทานอลของเมล็ดมะกอกซึ่งมีฤทธิ์ดีที่สุด (IC50 = 2.46 μg/ml) รองลงมาคือสารสกัด เอทานอลจากไม้สักและแก่นจันทน์เทศ โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 3.21 และ 8.87 μg/ml ตามลำดับ และเป็นสมุนไพรในตำรับยาเขียวหอม จำนวน 3 ตัวอย่าง ได้แก่ สารสกัดเอทานอลของดอก สารภี (IC50 = 1.50 μg/ml) เหง้าว่านร่อนทอง (IC50 = 5.33 μg/ml) และดอกบุนนาค (IC50 = 7.39 μg/ml) สาร สกัดเอทานอลจากแก่นจันทน์เทศและเหง้าว่านร่อนทองซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อมาลาเรียที่ดี และพบความเป็น พิษต่อเซลล์ต่ำ โดยมีค่าระดับความเข้มข้นที่ทำให้เซลล์ตายร้อยละ 50 (CC50) มากกว่า 80 μg/ml พืชสมุนไพรทั้ง สองชนิดนี้จึงถูกนำไปศึกษาฤทธิ์ต้านมาลาเรียต่อในหนูทดลอง โดยพบว่าสารสกัดเอทานอลจากแก่นจันทน์เทศที่ ขนาด 200, 400 และ 600 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว สามารถยับยั้งเชื้อมาลาเรียได้ร้อยละ 8.59, 31.0 และ 52.58 ตามลำดับ จากการศึกษาความเป็นพิษเฉียบพลันไม่พบการเปลี่ยนแปลงของค่าเคมีคลินิกในเลือดเมื่อเทียบ กับกลุ่มควบคุม อีกทั้งไม่พบการเปลี่ยนแปลงของลักษณะทางจุลพยาธิวิทยาของตับและไต สำหรับสารสกัดเอทา นอลจากเหง้าร่อนทองพบว่ามีฤทธิ์ต้านมาลาเรียที่ดี สารสกัดที่ขนาด 200, 400 และ 600 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม น้ำหนักตัว สามารถยับยั้งเชื้อมาลาเรียได้ร้อยละ 51.57, 54.94 และ 60.53 ตามลำดับ โดยขนาดของสารสกัดที่ ขนาด 2,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว พบว่ามีความเป็นพิษต่อสัตว์ทดลอง มีผลให้สัตว์ทั้งหมดตายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ทำการศึกษา จากงานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าสารสกัดเอทานอลจากแก่นจันทน์เทศและสกัดเอทานอล จากเหง้าว่านร่อนทองมีฤทธิ์ต้านเชื้อมาลาเรียทั้งการศึกษาในหลอดทดลองและในสัตว์ทดลอง ดังนั้นในการศึกษา ต่อไปควรแยกสารบริสุทธิ์จากพืชสมุนไพรทั้ง 2 ชนิดนี้โดยใช้ หลักการ bioassay-guided isolation และศึกษา ข้อมูลความเป็นพิษของสารที่แยกได้เพื่อนำสารออกฤทธิ์ไปพัฒนาเป็นยาต้านมาลาเรียตัวใหม่ต่อไป
บทคัดย่อ (EN): Malaria is a serious infectious disease that affects to human especially in tropical area. The emergence and rapid spread of antimalarial drug resistance has played a significant problem for prophylaxis and treatment that challenge to develop new antimalarial drugs which are more effective. Medicinal plants are one of the potential sources of antimalarial drugs and there is an increasing interest for development of novel drug. This study aimed to investigate antimalarial activity and toxicity of medicinal plants in Mahanil- Tang- Thong and Keaw- Hom formulations. A total of 26 medicinal plants, 52 samples was determined against chloroquine resistance strain of Plasmodium falciparum K1 strain in vitro by using lactate dehydrogenase method (pLDH). In vivo anti- malarial activity against Plasmodium berghei ANKA strain was assessed in the mice by 4- day suppressive test. Extracts were administered orally at different doses of 200, 400, and 600 mg/ kg body weight. The levels of parasitaemia and body weight change of the mice were determined. The in vitro cytotoxic activity were assessed on vero cells by [ 3( 4,5- dimethylthiazol- 2- yl) - 2,5- diphenyltetrazolium bromide] (MTT)assay. The acute toxicity of the extracts was also investigated in the mice for 14 days after the administration of a single oral dose of 2,000 mg/ kg. The results showed that extracts from 6 medicinal plants exhibited potent antimalarial activity (IC50 < 10 μg/ml) against P. falciparum, there are 3 medicinal plants in Mahanil-Tang-Thong and 3 medicinal plants in Keaw-Hom formulations. For Mahanil-Tang-Thong, the ethanol seed extract of Spondias pinnata showed the highest suppression of parasitemia with IC50 value of 2.46 μg/ml, followed by ethanol wood extract of Tectona grandis and wood extract of Myristica with IC50 values of 3.21 and 8.87 μg/ ml, respectively. For Keaw- Hom formulation, ethanol flower extract of Mammea siamensis possessed the highest activity with an IC50 value of 1. 50 μg/ ml, followed by ethanol rhizome extract of Globba malaccensis and ethanol flower extract of Mesua ferrea with IC50 values of 5.33 and 7.39 μg/ml, respectively. Since, an ethanol wood extract of Myristica fragrans and an ethanol rhizome extract of Globba malaccensis exhibited potent antimalarial activity with low toxicity on vero cell ( CC50 > 80 μg/ ml) . Therefore, these two medicinal plants were selected to further assess for in vivo anti-malarial activity. An extract of Myristica fragrans at doses of 200, 400, and 600 mg/ kg body weight suppressed the levels of parasitaemia by 8. 59, 31. 10, and 52. 58% , respectively. For the acute toxicity, there were no significant alterations in the biochemical parameters and in the liver and kidney histopathology. An ethanol rhizome extract of Globba malaccensis possessed good antimalarial activity, at doses of 200, 400, and 600 mg/kg body weight were significantly suppressed percentage of parasitemia by 51.57, 54.94 and 60.53%, respectively. The extract at a dose of 2,000 mg/kg body weight exhibited toxic effect on mice, all of mice died within 24 hours after administration. Extracts of Myristica fragrans and Globba malaccensis posessed promising antimalarial activity, Consequently, further work including bioassay- guided isolation and advanced toxicity investigation may yield new anti-malarial drug candidates from the two medicinal plants.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เลขที่อ้างอิง: ไม่ระบุ
เอกสารแนบ: http://ttdkl.dtam.moph.go.th/Module7/frmc_home_research_show.aspx?r_id=NDQ1
เผยแพร่โดย: ไม่ระบุ
คำสำคัญ: ไม่ระบุ
คำสำคัญ (EN): non applicable
เจ้าของลิขสิทธิ์: ไม่ระบุ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ไม่ระบุ. "การศึกษาฤทธิ์มาลาเรียและความเป็นพิษของสมุนไพรในตำรับยามหานิลแท่งทองและตำรับยาเขียวหอมสัตว์ไม่ระบุ". ไม่ระบุ. 2563

ไม่ระบุ. "การศึกษาฤทธิ์มาลาเรียและความเป็นพิษของสมุนไพรในตำรับยามหานิลแท่งทองและตำรับยาเขียวหอมสัตว์ไม่ระบุ". ไม่ระบุ. 2563. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาฤทธิ์มาลาเรียและความเป็นพิษของสมุนไพรในตำรับยามหานิลแท่งทองและตำรับยาเขียวหอมสัตว์
ไม่ระบุ
ไม่ระบุ
2563
ไม่ระบุ
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสารจากสมุนไพร (metabolites) ที่ตรวจพบในเลือดของอาสาสมัครสุขภาพดีหลังกินยาจากสมุนไพรอายุรเวทศิริราชตำรับห้าราก (AVS022) กับลักษณะการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดเป็นรายบุคคล- โครงการ การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสารจากสมุนไพร (metabolites) ที่ตรวจพบในเลือดของอาสาสมัครสุขภาพดีหลังกินยาจากสมุนไพรอายุรเวทศิริราชตำรับห้าราก (AVS022) กับลักษณะการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดเป็นรายบุคคล: โครงการ เวชสำอางสมุนไพร มิติใหม่ของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย สมุนไพรช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน: หูเสือ การศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดจากสมุนไพรไทยบางชนิดในการกำจัดหอยเชอร์รี่ โครงการศึกษาความเป็นพิษและฤทธิ์ที่สำคัญของพืชสมุนไพร/ ยาพื้นบ้าน ผลของยาจากสมุนไพรอายุรเวทศิริราช ตำรับยาหอมเบอร์20 (AVS020) ต่อคุณภาพการนอนหลับในคนเปรียบเทียบกับยาหลอก และยา lorazepam ผลของยาจากสมุนไพรอายุรเวทศิริราช ตำรับยาหอมเบอร์20 (AVS020) ต่อคุณภาพการนอนหลับในคนเปรียบเทียบกับยาหลอก และยา lorazepam ชนิดของเห็ดมีพิษ หญ้าหวาน สมุนไพรที่มีรสหวาน แต่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair