สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาพฤติกรรมการควบคุมวัชพืชของเกษตรกรผู้ปลูกผักเป็นการค้า
นุชญา ณ สงขลา - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การศึกษาพฤติกรรมการควบคุมวัชพืชของเกษตรกรผู้ปลูกผักเป็นการค้า
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นุชญา ณ สงขลา
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการวิจัยเรื่องนี้ เพื่อศึกษาถึงพฤติกรรมของเกษตรกรผู้ปลูกผักเป็นการค้าแนวโน้มการใช้สารกำจัดวัชพืชของเกษตรกรผู้ปลูกผักเป็นการค้าในอนาคต เพื่อหาแนวทางในการให้การแนะนำการควบคุมวัชพืชแก่เกษตรกรผู้ปลูกผักต่อไป ประชากรที่ทำการศึกษาคือเกษตรกรผู้ที่ปลูกผัก โดยเป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรหรือสมาชิกในครัวเรือนที่ปลูกผักและร้านค้าผู้จำหน่ายสารเคมีทางการเกษตรในพื้นที่ 12 จังหวัดคือ จังหวัดเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ขอนแก่น นนทบุรี ปทุมธานี ระยอง ฉะเชิงเทรา นครปฐม การจนบุรี นครศรีธรรมราชและสงขลา โดยสัมภาษณ์เกษตรกรทั้งสิ้น 193 คนและร้านค้าจำหน่ายสารเคมีทางการเกษตรจำนวน 53 ร้านซึ่งได้มีการเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาค่าคะแนนควาใถี่และค่าร้อยละ จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานการควบคุมกำจัดวัชพืชของเกษตรกรผู้ปลูกผักเป็นการค้าคือ จังหวัดเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ขอนแก่น นนทบุรี ปทุมธานี ระยอง ฉะเชิงเทรา นครปฐม การจนบุรี นครศรีธรรมราชและสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 193 ราย นั้นปรากฎว่าเกษตรกรส่วนใหญ่นั้นเป็นเพศชายร้อยละ 86.0 อายุอยู่ในช่วง 41 ถึง 50 ปีมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 38.3 จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 32.1 และส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าครัวเรือน ร้อยละ 93.3 มีแรงงานในครัวเรือน 3 ถึง 5 คนมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 71.0 มีพื้นที่ถือครองทางการเกษตร 1 ถึง 5 ไร่ มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ39.9 สภาพการปลูกผักของเกษตรกรนั้นพบว่า เกษตรกรร้อยละ 42.5 ใช้พื้นที่ของตนเองในการปลูกผัก โดยจะปลูกผัก 3 ถึง 4 ครั้งต่อปีมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 43 เกษตรกรประกอบอาชีพโดยการปลูกผักมานานกว่า 10 ปีขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ 48.7 วิธีการปลูกผักส่วนใหญ่จะปลูกแบบยกร่อง โดยทำร่องให้น้ำเข้าไปในแปลงปลูกคิดเป็นร้อยละ 57.5 น้ำที่ใช้รดผักใช้น้ำชลประทานและน้ำฝนคิดเป็นร้อยละ 41.0 การให้น้ำจะใช้เครื่องสูบน้ำและต่อสายยางรดเป็นส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 57.5 สำหรับชนิดของวัชพืชและพฤติกรรมการควบคุมวัชพืชพบว่า วัชพืชที่พบในแปลงปลูกผักที่สำคัญคือ น้ำนมราชสีห์ ผักเป็ด หญ้าปากควาย หญ้านกสีชมพู และแห้วหมู ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่จะใช้สารกำจัดวัชพืชร่วมกับวิธีการอื่นเช่น การใช้มือถอน จอบถากหรอใช้วัสดุคลุมดินคิดเป็นร้อยละ 63.7 การกำจัดวัชพืชจะทำตลอดฤดูการปลูกผักคิดเป็นร้อยละ 48.2 ความรู้ที่ใช้ในการกำจัดวัชพืชส่วนใหญ่ได้จากเจ้าหน้าที่เกษตร เช่นเกษตรตำบล เกษตรอำเภอ รวมถึงนักวิชาการเกษตร คิดเป็นร้อยละ 51.2 ในด้านการใช้สารกำจัดวัชพืชนั้นปรากฏว่า การตัดสินใจใช้สารกำจัดวัชพืชนั้นส่วนใหญ่ พ่อบ้านจะเป็นผู้ตัดสินใจคิดเป็นร้อยละ 74.6 โดยสารกำจัดวัชพืชที่เกษตรกรนิยม 5 อันดับแรกได้แก่ อ็อกซี่ฟลูออร์เฟ่น(โกล 2 อี) ไกลโฟเสท(ราวด์อัพ) ฮาล็อกซีฟอบ-เมทธิล(กาแลนท์) พาราควอท (กรัมม็อกโซน) และฟลูอาซิฟอบ-บิวทิล(วัน-ไซด์) การฉีดพ่นสารกำจัดวัชพืชเกษตรกรจะจ้างคนอื่นฉีดและฉีดเองบ้างคิดเป็นร้อยละ 46.1 สำหรับอัตราการใช้สารกำจัดวัชพืชนั้นร้อยละ 48.7 จะใช้ตามอัตราที่ระบุไว้บนฉลาก ความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้สารกำจัดวัชพืชของเกษตรกรร้อยละ 43.0 ตอบว่าใช้แล้วคุ้ม ส่วนบทบาทของร้านค้าในการจำหน่ายสารเคมีในการกำจัดวัชพืชนั้นพบว่า ร้านค้าขายสารเคมีในการกำจัดวัชพืชนับว่ามีบทบาทมากในการให้คำแนะนำการใช้สารกำจัดวัชพืชแก่เกษตรกร โดยจากการศึกษาพบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ร้อยละ 52.8 จะมาขอคำแนะนำจากร้านค้าก่อนซื้อ โดยสารกำจัดวัชพืชที่จำหน่ายมากที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ ไกลโฟเสท(ราวด์อัพ) อลาคลอร์(แลสโซ่) อ็อกซี่ฟลูออร์เฟ่น(โกล 2 อี) ฮาล็อกซีฟอบ-เมทธิล(กาแลนท์) และอ็อกซาไดอาซอน(รอนสตาร์) สำหรับแนวโน้มในการใช้สารกำจัดวัชพืชในอนาคตตามความคิดเห็นของเกษตรกรนั้นปรากฏว่า เกษตรกรร้อยละ 38.8 เห็นว่ายังมีความจำเป็นอยู่เพราะขลาดแคลนแรงงานส่วนแนวโน้มการใช้สารกำจัดวัชพืชในความเห็นของร้านค้าจำหน่ายสารเคมีนั้นพบว่า ร้านค้าร้อยละ49.0 เห็นว่าจะมีแนวโน้มการใช้เพิ่มขึ้นเพราะค่าแรงสูงขึ้นทุกวัน ข้อเสนอแนะของผู้วิจัยคือ กรมส่งเสริมการเกษตร ควรหาทางที่จะให้เกษตรกรลดการใช้สารกำจัดวัชพืช โดยใช้เท่าที่จำเป็น และก่อนใช้สารกำจัดวัชพืช ควรแนะนำให้เกษตรกรอ่านฉลากยาก่อนใช้ และถ้าหากจำเป็นที่จะใช้นอกเหนือจากคำแนะนำให้ปลึกษาเจ้าหน้าที่ทางด้านการเกษตรในท้องที่ สำหรับวิธีการปฏิบัติอื่นๆ นอกเหนือจากการใช้สารกำจัดวัชพืชที่ควรแนะนำแก่เกษตรกรได้แก่ การใช้ผ้าพลาสติกคลุงแปลง การใชระบบหมุนเวียนการปลูกผัก โดยในพื้นที่แปลงปลูกแปลงเดียวแต่ปลูกผักต่างชนิดสลับกันไป การเตรียมดิน หรือเตรียมแปลงอย่างสม่ำเสมอจะช่วยงดปริมาณวัชพืชลงได้ ตลอดจนการใช้วัสดุคลุมแปลงเช่น ฟางข้าว แกลบ ใบหญ้าคา ก็จะช่วยลดการเกิดวัชพืชได้เช่นกัน ส่วนในด้านกรมวิชาการเกษตรหรือสถาบันทางการศึกษานั้นเห็นควรศึกษาถึงวิธีการในการป้องกันและกำจัดวัชพืชที่สำคัญในแปลงผัก 5 ชนิดดังกล่าวเพื่อจะได้ใช้เป็นข้อมูลในการแนะนำแก่เกษตรกรต่อไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: การค้า
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมส่งเสริมการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาพฤติกรรมการควบคุมวัชพืชของเกษตรกรผู้ปลูกผักเป็นการค้า
กรมส่งเสริมการเกษตร
2545
พฤติกรรมการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชผักของเกษตรกรผู้ปลูกผักในตำบลบึงเนียม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พฤติกรรมการใช้สารเคมีทางการเกษตรของเกษตรกรผู้ปลูกผักตำบลบ้านฝาง การควบคุมวัชพืชในนาหว่านน้ำตมของเกษตรกรในจังหวัดนครปฐม พฤติกรรมการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชผักของเกษตรกรในจังหวัดสุราษฎร์ธานี สภาพการปลูกผักคะน้าเพื่อการค้าของเกษตรกรกรุงเทพมหานคร การศึกษาปัญหาของเกษตรกรผู้ปลูกผัก เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร การศึกษาปัญหาของเกษตรกรผู้ปลูกผัก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร การศึกษาความคิดเห็นและพฤติกรรมการขายผลผลิตทางการเกษตรกรรมของเกษตรกรในเขตอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี รูปแบบการจัดการการตลาดผักอินทรีย์กรณีศึกษา เกษตรกรผู้ปลูกผักอินทรีย์ ตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ปัญหาบางประการในการใช้ยาฆ่าแมลงของเกษตรกรผู้ปลูกผัก อ.เมือง จ.นครราชสีมา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก