สืบค้นงานวิจัย
การใช้ไถจอบหมุนรับจ้างเตรียมดินนาข้าวชลประทานในเขตภาคกลางและเขตภาคเหนือตอนล่าง
จงรัก งามดี - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การใช้ไถจอบหมุนรับจ้างเตรียมดินนาข้าวชลประทานในเขตภาคกลางและเขตภาคเหนือตอนล่าง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จงรัก งามดี
บทคัดย่อ: ปัจจุบันเกษตรกรหรือชาวนาไทย โดยส่วนใหญ่ของประเทศจะผลิตข้าวเพื่อมุ่งทางการค้า จึงทำให้การปลูกข้าวเป็นไปตามกระแสทุนนิยม โดยเกษตรในบางพื้นที่จะมีการปลูกข้าว มิได้คำนึงถึงฤดูการปลูก คือ หลังจากเสร็จสิ้นการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวแล้วก็จะเริ่มเตรียมดินที่จะปลูกข้าวในฤดูต่อไป ซึ่งในปีหนึ่ง ๆ อาจจะปลูกข้าวได้ 3 ครั้ง หรือ 5 ครั้ง ต่อ 2 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุและพันธุ์ข้าวที่ใช้ปลูก ประกอบกับเกษตรกรมีการเตรียมดินอย่างเร่งรีบเพื่อให้ทันกับเวลาการใช้น้ำสำหรับปลูกจึงเป็นการทำนาต่อเนื่องตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำนาปรังหรือนาเขตชลประทานในบางพื้นที่ของภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ส่วนใหญ่จะเป็นการทำนาแบบหว่านน้ำตม และต้องการเตรียมดินที่มีความประณีตมากกว่าการทำนาดำ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไถจอบหมุนได้รับความนิยมจากเกษตรกรมาใช้เตรียมดินในนาข้าวชลประทานเป็นจำนวนมาก จึงได้ศึกษาการใช้ไถจอบหมุนรับจ้างเตรียมดินนาข้าวชลประทาน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาปริมาณความต้องการใช้งานไถจอบหมุนของเกษตรกร และปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนของผู้ประกอบการรับจ้างเพื่อใช้เป็นข้อมูลไปพิจารณาประกอบการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลเตรียมดินนาข้าวเขตชลประทานอย่างมีประสิทธิภาพ และภาคเอกชนสามารถนำข้อมูลใช้เป็น แนวทางการลงทุน และวางแผนการผลิตให้ได้ประโยชน์สูงสุด การดำเนินงานใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบอย่างง่าย (Simple Random) จากกลุ่มตัวอย่างเขตพื้นที่ทำนาชลประทานในเขตภาคกลาง 6 จังหวัด และเขตภาคเหนือตอนล่าง 4 จังหวัด ประกอบด้วยข้อมูลจากเกษตรกร 120 ราย และผู้ประกอบการรับจ้างเตรียมดินด้วยไถจอบหมุน 60 ราย โดยนำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจมาประมวลและวิเคราะห์ ซึ่งผลการศึกษาที่เห็นได้ชัดเจนส่วนใหญ่พบว่าความนิยมการใช้ไถจอบหมุนในพื้นที่ภาคกลาง เกษตรกรนิยมใช้รถตีนตะขาบ ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างเกษตรกรนิยมใช้รถแทรกเตอร์ล้อยาง โดยสามารถสรุปได้ว่า (1) ในภาพรวมเกษตรกรร้อยละ 68 มีความต้องการว่าจ้างรถติดจอบหมุนเตรียมดิน โดยต้องการใช้รถตีนตะขาบติดจอบหมุนร้อยละ 35 และต้องการใช้รถแทรกเตอร์ล้อยางติดจอบหมุน ร้อยละ 33 โดยมีเหตุผลหลัก คือ ทำงานได้รวดเร็วกว่าแบบเดิมและหาได้ง่าย และแยกได้ว่าเขตภาคกลางเกษตรกรต้องการใช้รถตีนตะขาบติดจอบหมุนร้อยละ 91 เนื่องจากทำงานได้รวดเร็วในเขตภาคเหนือตอนล่างเกษตรกรต้องการใช้รถแทรกเตอร์ติดจอบหมุนร้อยละ 97 เนื่องจากหาได้ง่าย (2) ปัจจุบันเกษตรกรพึงพอใจในราคารับจ้างที่เป็นอยู่ คือ สำหรับรถตีนตะขาบ 130-140 บาทต่อไร่ ซึ่งไม่รวมค่าน้ำมัน และ 160-200 บาทต่อไร่ ซึ่งรวมค่าน้ำมัน และสำหรับรถแทรกเตอร์ล้อยาง 160-180 บาทต่อไร่ ซึ่งรวมค่าน้ำมัน ทั้งนี้ ผู้รับจ้างส่วนใหญ่ต้องการเพิ่มค่ารับจ้างประมาณไร่ละ 20-30 บาท แต่ยังไม่สามารถขึ้นราคาได้เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีผู้ว่าจ้าง (3) ปริมาณพื้นที่ที่มีความต้องการชัดเจนในเขตภาคกลาง คือ 193,000 ไร่ และ 131,000 ไร่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง และมีความต้องการที่ยังไม่มั่นใจ 28,000 ไร่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง (4) ผู้รับจ้างส่วนใหญ่ลงทุนโดยใช้ทุนของตนเอง สำหรับรถตีนตะขาบส่วนใหญ่ราคา 1,300,000 บาทต่อคัน มีอัตราการทำงานเฉลี่ย 3-4.2 ไร่ต่อชั่วโมง มีจุดคุ้มทุนที่ 2,537 ไร่ต่อปี และมีระยะเวลาการคืนทุน 11 ปี โดยหากทำงาน 5,000 ไร่ต่อปี ดังเช่นผู้รับจ้างในเขตภาคกลางจะคุ้มทุนใน 4.7 ปี สำหรับรถแทรกเตอร์ล้อยางส่วนใหญ่ราคา 330,000 บาทต่อคัน มีอัตราการทำงานเฉลี่ย 2.1-2.3 ไร่ต่อชั่วโมง มีจุดคุ้มทุนที่ 543 ไร่ต่อปี และมีระยะเวลาการคืนทุน 6 ปี (5) ปัญหาและอุปสรรคต่อการขยายตัวของการลงทุนและให้บริการที่สำคัญของผู้รับจ้างในเขตภาคกลาง คือ ไม่สามารถเพิ่มราคาค่าจ้างได้ เนื่องจากมีผู้รับจ้างมากมีการแข่งขันด้านราคาสูง ส่วนในเขตภาคเหนือตอนล่างมีโอกาสขยายตัวอย่างชัดเจน ร้อยละ 21 แต่ยังขาดข้อมูลที่ชัดเจนด้านปริมาณความต้องการใช้งานของเกษตรกร สำหรับด้านการเงินผู้รับจ้างส่วนใหญ่ไม่ถือเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ภาคเหนือตอนล่าง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การใช้ไถจอบหมุนรับจ้างเตรียมดินนาข้าวชลประทานในเขตภาคกลางและเขตภาคเหนือตอนล่าง
จงรัก งามดี
กรมส่งเสริมการเกษตร
2548
ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การคัดเลือกพันธุ์อ้อยที่มีศักยภาพในการให้ผลผลิตที่ดีในเขตภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย วิจัยและพัฒนาขลุบหมุนตีเทือกสำหรับเตรียมดินขั้นที่สองในนาข้าวชลประทาน การวิจัยและพัฒนาการป้องกันกำจัดข้าววัชพืชในที่ราบลุ่มภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง การลดระดับความรุนแรงของโรคขอบใบแห้งของข้าวโดยวิธีผสมผสานในนาชลประทานภาคเหนือตอนล่าง ความรู้และทัศนคติการป้องกันและกำจัดปูนาของเกษตรกรในศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชนเขตพื้นที่ชลประทานภาคกลาง การจัดการวัชพืชเพื่อปลูกข้าวล้มตอซังของเกษตรกรทำนาในเขตชลประทานภาคกลาง ความถี่ อัตราและช่วงระยะเวลาการให้น้ำสำหรับอ้อยในเขตชลประทานภาคกลาง การพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดไร่ลูกผสมเพื่อปลูกในดินนาฤดูแล้งเขตชลประทานภาคกลาง การเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยไนโตรเจนโดยการแบ่งใส่ในนาข้าวของภาคเหนือตอนล่าง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก