สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาพันธุ์และการปลูกเสาวรสหวานปลอดโรค
อัจฉรา ภาวศุทธิ์ - สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาพันธุ์และการปลูกเสาวรสหวานปลอดโรค
ชื่อเรื่อง (EN): Research and development to produce disease-free Passion fruit plants
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อัจฉรา ภาวศุทธิ์
บทคัดย่อ: ศึกษาเปรียบเทียบการปลูกเสาวรสหวาน พันธุ์ เบอร์ 2 ภายใต้โรงเรือนและการปลูกกลางแจ้ง โดยร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหมอกจ๋าม อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ผลการศึกษา กรรมวิธีการปลูกในโรงเรือนมีปริมาณผลผลิตต่อต้นมากกว่าวิธีการปลูกกลางแจ้ง (วิธีควบคุม) และมีแนวโน้มให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ โดยผลผลิตส่วนใหญ่อยู่ในเกรด 4 เกรด F และ N ตามชั้นมาตรฐานโครงการหลวง ที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงปางแดงใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ กรรมวิธีการปลูกในโรงเรือนมีปริมาณผลผลิตต่อต้นมากกว่าวิธีการปลูกกลางแจ้ง (วิธีควบคุม) เช่นเดียวกับที่ศูนย์ฯ หมอกจ๋าม คัดเลือกเสาวรสโดยศึกษาและคัดเลือกต้นจากการเพาะเมล็ดเสาวรสพันธุ์เหลืองหวานจากสะโง๊ะ และพันธุ์จากเวียดนาม รวมจำนวน 106 ต้น ประเมินลักษณะและคุณภาพผลผลิตโดยผู้ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้ต้นที่ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีและมีลักษณะเด่น จำนวน 10 ต้น คือ SG01-09 SG02-5 SG02-9 SG03-6 SG04-5 SG09-2 SG09-3 SG09-4 SG09-6 และ V-16 ซึ่งจะได้ทำการคัดเลือกและทดสอบการให้ผลผลิตของแต่ละต้นต่อไป ศึกษาวิธีการบ่มผลเสาวรสหวานพันธุ์ เบอร์ 2 ที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่ที่มีระดับความสูงต่างกัน 3 ระดับ คือ ปางมะโอ (ความสูงของพื้นที่ 900 เมตรจากระดับน้ำทะเล, MSL) ปางแดงใน (750 MSL) และห้วยเป้า (450 MSL) อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤศจิกายน 2558 โดยมี 2 ปัจจัย คือ (1) วิธีการบ่ม ได้แก่ วิธีการไม่บ่มผล (วิธีควบคุม) วิธีการบ่มผลด้วยแคลเซียมคาร์ไบด์ อัตรา 100 กรัมต่อผลผลิต 20 กิโลกรัม วิธีการบ่มด้วยสารละลายเอธีฟอน อัตรา 3, 6, 9 และ12 มิลลิลิตรต่อน้ำ 1 ลิตร และ (2) จำนวนวันหลังการบ่ม คือ 2 วัน 4 วัน และ 6 วัน ผลการวิจัยพบว่า ที่ปางมะโอไม่มีความแตกต่างทางสถิติระหว่างวิธีการและจำนวนวันในเรื่องน้ำหนักผลและปริมาณกรดที่ไตเตรทได้ (TA) แต่มีความแตกต่างทางสถิติระหว่างจำนวนวันในเรื่องปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ (TSS) โดยวันที่ 2 หลังการบ่มผลมีค่าสูงสุด ที่ปางแดงในไม่มีความแตกต่างทางสถิติระหว่างวิธีการและจำนวนวันในเรื่องน้ำหนักผล และTSS แต่มีความแตกต่างทางสถิติระหว่างจำนวนในเรื่อง TA โดยวันที่ 4 หลังการบ่มผลมีค่าสูงสุด และที่ห้วยเป้ามีความแตกต่างทางสถิติระหว่างวิธีการและจำนวนวันในเรื่องน้ำหนักผล TSS และTA โดยวิธีการที่เหมาะสมในการจัดการเสาวรสหวานที่ปางมะโอและปางแดงใน คือ การเก็บรักษาผลเสาวรสหวานที่อุณหภูมิห้องนาน 2 วันและ 4 วัน ตามลำดับ และที่ห้วยเป้า คือ วิธีการบ่มผลด้วยเอธีฟอน 6 มิลลิลิตรต่อน้ำ 1 ลิตร นาน 4 วัน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: คัดเลือกพันธุ์
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาพันธุ์และการปลูกเสาวรสหวานปลอดโรค
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
30 กันยายน 2560
การวิจัยและพัฒนาการผลิตเสาวรสหวานปลอดโรค โครงการย่อยที่ 1: การศึกษาคัดเลือกพันธุ์และพัฒนาระบบปลูกเสาวรสหวานปลอดโรค โครงการศึกษาคัดเลือกพันธุ์และพัฒนาระบบปลูกเสาวรสหวานปลอดโรค โครงการวิจัยวิธีการผลิตต้นแม่พันธุ์เสาวรสหวานปลอดโรคไวรัส การวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมการข้าวกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ระยะที่ 2 โครงการศึกษาวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเสาวรสหวาน เบอร์ 2 ปลอดโรค การวิจัยและพัฒนาการผลิตเสาวรสหวานปลอดโรค โครงการย่อยที่ 2: การศึกษาวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเสาวรสหวาน เบอร์ 2 ปลอดโรค โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาโรคใบขาวของอ้อย โครงการวิจัยและพัฒนาการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวเสาวรสหวาน การวิจัยและพัฒนาวิธีการตรวจสอบเพื่อคัดเลือกสายพันธุ์พ่อและแม่สุกรที่ปลอดโรคไส้เลื่อนและโรคอัณฑะทองแดง โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์ข้าวฟ่างหวาน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก