สืบค้นงานวิจัย
การชักนำให้เกิดความต้านทานโรครากเน่าไฟทอปธอรา ในสตรอว์เบอร์รีที่เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อด้วย เชื้อแอกติโนไมซีสต์เอนโดไฟต์
เกวลิน คุณาศักดากุล - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: การชักนำให้เกิดความต้านทานโรครากเน่าไฟทอปธอรา ในสตรอว์เบอร์รีที่เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อด้วย เชื้อแอกติโนไมซีสต์เอนโดไฟต์
ชื่อเรื่อง (EN): Resistant Induction of Phytophthora Root Rot in Strawberry Tissue Culture Plantlets Using Endophytic Actinomycetes
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เกวลิน คุณาศักดากุล
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Apaporn Potiyot
บทคัดย่อ: จากการนำเชื้อแอกติโนไมซีสต์เอนโดไฟต์ (EA) ที่แยกได้จากพืชวงศ์กุหลาบ (Rosaceae) และพืชสมุนไพร จำนวน 97 ไอโซเลท มาทดสอบประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของเชื้อรา Phytophthora cactorum สาเหตุโรครากเน่าของสตรอว์เบอร์รีพันธุ์ 329 (Yeal) ด้วยวิธี dual culture พบว่าสามารถคัดเลือกเชื้อที่มีประสิทธิภาพการยับยั้งการเจริญเชื้อราสาเหตุในระดับสูงมาก จำนวน 5 ไอโซเลท ได้แก่ ไอโซเลท DUC2, CINv1, FRA19, CINc1 และ POL2 โดยมีเปอร์เซ็นต์การยับยั้งไม่แตกต่างกันทางสถิติเท่ากับ 95.51, 94.38, 93.43, 89.89 และ 88.96 ตามลำดับ และเมื่อนำเชื้อ EA จำนวน 5 ไอโซเลทที่คัดเลือกได้ดังกล่าวมาตรวจสอบการเข้าอาศัยภายในต้นสตรอว์เบอร์รีในสภาพปลอดเชื้อ ด้วยวิธีการแยกเชื้อกลับ พบว่าเชื้อ EA ทั้ง 5 ไอโซเลท สามารถเข้าอาศัยภายในต้นสตรอว์เบอร์รีได้ โดยไอโซเลท DUC2 เข้าอาศัยภายในต้นสตรอว์เบอร์รีได้มากที่สุด ซึ่งสามารถแยกเชื้อกลับได้เท่ากับ 96 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นนำต้นสตรอว์เบอร์รีที่เพาะเลี้ยงในสภาพปลอดเชื้อและได้รับการปลูกเชื้อ EA ที่คัดเลือกได้ทั้ง 5 ไอโซเลท มาทดสอบการชักนำความต้านทานต่อการเกิดโรครากเน่าโดยการหยด oospore แขวนลอยของเชื้อราสาเหตุบริเวณโคนต้นสตรอว์เบอร์รีในสภาพปลอดเชื้อ พบว่าต้นสตรอว์เบอร์รีที่ได้รับการปลูกเชื้อ EA แต่ละไอโซเลท เกิดความต้านทานต่อการเกิดโรครากเน่าได้แตกต่างกัน โดยไอโซเลท CINv1 และ FRA19 สามารถชักนำให้พืชเกิดความต้านทานต่อการเกิดโรครากเน่าได้ดีที่สุด ซึ่งลดระดับความรุนแรงของโรครากเน่าได้ไม่แตกต่างกันทางสถิติ เท่ากับ 2.20 และ 2.50 ตามลำดับ แต่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับชุดควบคุมที่มีระดับรุนแรงของโรครากเน่าเท่ากับ 3.90
บทคัดย่อ (EN): Ninety-seven isolates of endophytic actinomycetes isolated from Rosaceae and herbal plants were used to evaluate their inhibitory effects on growth of Phytophthora cactorum root rot pathogen of strawberry var. 329 (Yeal). Percent inhibitions of the radial growth (PIRG) of the strawberry root rot fungi were measured after dual culture method was done compared to control treatment. Five isolates of endophytic actinomycetes; DUC2, CINv1, FRA19, CINc1 and POL2, were selected since there were non-significant in inhibitory levels of the PIRG at 95.51, 94.38, 93.43, 89.89 and 88.96, respectively. Strawberry tissue culture plantlets were further proved for colonization by these five endophytic actinomycetes using re-isolation method. The results found that all isolates successfully colonized in plant tissue particularly isolate DUC2 showed the highest colonization with the highest re-isolation percentages at 96. Furthermore, the colonized strawberry tissue culture plantlets were proved for their root rot resistant induction after the pathogen oospores were inoculated onto the plants. The disease severity data revealed that, in vitro plantlets colonized with the isolate CINv1 and FRA19 were the best trials to induce root rot resistance. There were non-significant disease severity levels determined at 2.20 and 2.50, respectively compared to the level at 3.90 of the uncolonized control trial.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: แอกติโนไมซีสต์เอนโดไฟต์(Endophytic actinomycetes) การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสตรอว์เบอร์รี(strawberry tissue culture) โรครากเน่าไฟทอปธอรา(Phytophthora root rot) การควบคุมโดยชีววิธี(biological control)
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การชักนำให้เกิดความต้านทานโรครากเน่าไฟทอปธอรา ในสตรอว์เบอร์รีที่เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อด้วย เชื้อแอกติโนไมซีสต์เอนโดไฟต์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2557
การปรับปรุงพันธุ์หญ้าแพงโกล่าโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การสร้างหม่อน Tetraploid จากหม่อนที่มีความต้านทานโรครากเน่า การเติบโตและเพิ่มปริมาณต้นของกล้วยหอมพันธุ์ Crand Nain โดยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การเจริญของเชื้อ Macrophomina phaseolina ในส่วนต่าง ๆ ของพืชภายหลังการติดเชื้อของราก การประเมินความต้านทานของโรคใบไหม้ของข้าวเหนียวดำในระยะแตกกอหลังการปลูกเชื้อ 7 และ 14 วัน สาเหตุของความต้านทานในข้าวพันธุ์ต่าง ๆ ต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล Nilaparuata lugens (Stal) การใช้เชื้อแอกติโนไมซีสเอนโดไฟต์ชักนำให้เกิดความต้านทานโรคทางใบของสตรอว์เบอร์รีด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ลักษณะทางสรีรวิทยาและการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีที่มีความสัมพันธ์กับความต้านทาน ต่อเชื้อรา Phytophthora การประเมินลักษณะเชื้อพันธุกรรมของข้าวโพดเพื่อความต้านทานโรคราสนิมในประเทศไทย ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาควบคุมโรครากเน่า-โคนเน่าในส้มโอของเกษตรกรจังหวัดสมุทรสงคราม ปี 2546
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก