สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการนวดไทยแบบราชสำนักกับยาทาไดโคลฟีแนกในการรักษาไหล่ติด
พวงผกา ตันกิจจานนท์ - กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ชื่อเรื่อง: การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการนวดไทยแบบราชสำนักกับยาทาไดโคลฟีแนกในการรักษาไหล่ติด
ชื่อเรื่อง (EN): A comparative randomized controlled trial on the effectiveness of court-type traditional Thai massage versus topical diclofenac to treat frozen shoulder
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พวงผกา ตันกิจจานนท์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): N/A
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
ชุดเอกสาร: การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการนวดไทยแบบราชสำนักกับยาทาไดโคลฟีแนกในการรักษาไหล่ติด
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์: การวิจัยเชิงทดลองเพื่อเปรียบเทียบผลของการนวดไทยแบบราชสานักกับยาทาไดโคลฟีแนคในการรักษาผู้ป่วยไหล่ติด ดำเนินการเก็บข้อมูลที่คลินิกแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จังหวัดนนทบุรี ในคนไข้เพศหญิงอายุ 40-65 ปี ซึ่งออร์โธปิดิกส์แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นไหล่ติดชนิดไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีระยะเวลาในการเจ็บป่วยตั้งแต่ 4-12 เดือน แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ 1 (กลุ่มรักษา จำนวน = 30 คน) ได้รับการนวดไทยแบบราชสานัก ครั้งละ 45 นาที สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 6 สัปดาห์ และกลุ่มที่ 2 (กลุ่มควบคุม จานวน= 30 คน) ได้รับยาทาไดโคลฟีแนคครั้งละ 5 กรัม 3 ครั้งต่อวัน ติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ประเมินผลการทดลอง โดยประเมินองศาการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ ระดับอาการปวด ทุก ๆ 2 สัปดาห์ และประเมินในระยะติดตามผลการรักษาในสัปดาห์ที่ 8 และ10 ส่วนการทางานของข้อไหล่ ความสามารถในการทำกิจกรรมและคุณภาพชีวิต ประเมินก่อนและหลังการทดลอง วิเคราะห์ผลทางสถิติเชิงพรรณาโดยการหา ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เชิงปริมาณโดย repeated ANOVA, Friedman test, paired t-test และ student t-test ผลการศึกษา องศาไหล่พบว่ากลุ่มที่รักษาโดยการนวดมีค่าเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นขององศาไหล่ในทุก ๆ 2 สัปดาห์จนสิ้นสุดการรักษาในสัปดาห์ที่ 6 มากกว่ากลุ่มใช้ยาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) ในระยะติดตามผลในสัปดาห์ที่ 8 และ10 พบว่ากลุ่มนวดมีค่าเฉลี่ยขององศาไหล่ดีกว่ากลุ่มใช้ยาอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (P<0.05) ผลของระดับความเจ็บปวดพบว่ากลุ่มนวดมีระดับความเจ็บปวดลดลงในทุก ๆ 2 สัปดาห์จนสิ้นสุดการรักษาในสัปดาห์ที่ 6 และลดลงกว่ากลุ่มใช้ยาอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (p<0.05) ส่วนในระยะติดตามผลในสัปดาห์ที่ 8 และ 10 ระดับความเจ็บปวดของทั้งสองกลุ่มลดลงแต่ไม่พบความแตกต่างทางสถิติ ผลของการใช้งานของไหล่และความสามารถของแขนในการทากิจกรรม หลังการรักษาในสัปดาห์ที่10 ของทั้งสองกลุ่มพบว่าดีขึ้นกว่าก่อนการรักษาอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (p < 0.05) การประเมินระหว่างกลุ่ม ในสัปดาห์ที่ 10 กลุ่มที่รักษาโดยการนวดมีคะแนนการใช้งานของไหล่ดีกว่ากลุ่มใช้ยาและคะแนนความสามารถของแขนในการทำกิจกรรมดีกว่ากลุ่มใช้ยาแต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ผลของคุณภาพชีวิติทั้งสองกลุ่มพบว่ามีคุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้นหลังการรักษาในสัปดาห์ที่ 10 อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (p<0.05) การประเมินระหว่างกลุ่มพบว่ากลุ่มที่รักษาโดยการนวดมีคะแนนคุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้นดีกว่ากลุ่มทายาอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (p<0.05) สรุปผลการศึกษา การนวดไทยแบบราชสานักและยาทาไดโคฟิแนกเจลต่างก็ให้ผลดีในการรักษาไหล่ติด แต่การรักษาโดยการนวดให้ผลดีกว่าและไม่มีผลข้างเคียง
บทคัดย่อ (EN): Objective: An experimental research to compare the effect of royal Thai massage with tadiclofenac in the treatment of patients with shoulder dislocation. Collecting data at a Thai traditional medicine clinic Sukhothai Thammathirat Open University Nonthaburi Province In a female patient aged 40-65 years, an orthopedic physician diagnosed with idiopathic shoulder dislocation. which has a duration of illness ranging from 4-12 months, divided into 2 groups: Group 1 (treatment group = 30 people) received a royal Thai massage for 45 minutes each time, twice a week for 6 weeks, and Group 2 (control group, number = 30 people) received diclofenac topical 5 g three times a day for 6 weeks. The results were evaluated. by assessing the degree of movement of the shoulder joint Pain level every 2 weeks and assessed at the 8th and 10th week follow-up period. ability to perform activities and quality of life assessed before and after the experiment Descriptive statistical analysis was performed by finding percentage, mean and standard deviation. Quantitatively, repeated ANOVA, Friedman test, paired t-test, and student t-test were found in the massage group that averaged an increase in shoulder degree every 2 weeks until the end of treatment in the massage group. At week 6, it was significantly higher than the drug group (P<0.05). During the 8th and 10th follow-up periods, the massage group had significantly better mean shoulder degrees than the drug group. Statistical (P<0.05) The effect of pain level showed that the massage group had a statistically significant reduction in pain every 2 weeks until the end of treatment at week 6, and a statistically significant reduction in pain compared to the drug group ( p<0.05). At the follow-up periods at weeks 8 and 10, pain levels in both groups decreased but no statistical difference was found. Effect of shoulder function and arm's ability to perform activities After treatment at 10 weeks In both groups, there was a statistically significant improvement (p < 0.05). Inter-group assessment at week 10, the massage treatment group had better shoulder function scores than the use group. The drug and arm activity scores were better than those in the drug group, but no statistically significant differences were found. The effect of quality of life in both groups showed a statistically significant improvement in quality of life after 10 weeks of treatment (p<0.05). The quality of life was significantly higher than the drug treatment group (p<0.05). Royal Thai massage and daikofinag gel are both effective in treating a stuck shoulder. But massage therapy has better results and no side effects.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เลขที่อ้างอิง: N/A
เอกสารแนบ: http://ttdkl.dtam.moph.go.th/Module7/frmc_home_research_show.aspx?r_id=Mzkw
เผยแพร่โดย: กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
คำสำคัญ: ไหล่ติด
คำสำคัญ (EN): research
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
เจ้าของลิขสิทธิ์: กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการนวดไทยแบบราชสำนักกับยาทาไดโคลฟีแนกในการรักษาไหล่ติด
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
2560
ประสิทธิผลของการนวดแผนไทยในการรักษาภาวะสะบักจม ประสิทธิผลของยาธรณีสัณฑะฆาตเทียบกับยานาพรอกเซนในการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อผังผืดเรื้อรัง ประสิทธิผลการนวดไทยด้วยน้ำมันหอมระเหยในการกระตุ้นระบบภูมิต้านทานในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่รับเคมีบำบัด ผลของการนวดไทยที่มีต่อความเครียดทางด้านจิตใจบ่งชี้โดยความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจและระดับการทำงานของเรนินในเลือดในผู้ที่มีสุขภาพดี ประสิทธิผลของสารสกัดขิงในการลดอาการปวดของมารดาหลังคลอดปกติครรภ์แรก การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลการนวดไทยกับการใช้ ยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac) ในการลดอาการปวดบ่า ผลของการนวดไทยแบบราชสำนัก การบริหารกายด้วยท่าฤาษีดัดตน และการนวดไทยแบบราชสำนักร่วมกับการบริหารกายด้วยท่าฤาษีดัดตน ต่ออาการข้อเข่าเสื่อม การแก้ไขปัญหาการผสมติดยากในโคนมที่จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ แอพพลิเคชั่นสารอาหารไทย การศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบการให้อาหารในการขุนโค
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก