สืบค้นงานวิจัย
การผลิตยางก้อนในเขตภาคตะวันออกสำหรับการผลิตยางแท่ง STR 20
ณพรัตน์ วิชิตชลชัย - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: การผลิตยางก้อนในเขตภาคตะวันออกสำหรับการผลิตยางแท่ง STR 20
ชื่อเรื่อง (EN): Coagulum in Eastern Area for STR 20 Production
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ณพรัตน์ วิชิตชลชัย
บทคัดย่อ: ปัญหาการผลิตยางแท่ง STR 20 ในประเทศไทยคือ มีต้นทุนการผลิตสูงซึ่งเป็นผลมาจากต้องสูญเสียเวลาและพลังงานในการกำจัดสิ่งสกปรกที่ติดมากับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ยางก้อนที่มีการผลิตไม่ได้คุณภาพและมีสิ่งสกปรกปนอยู่มาก นอกจากนี้เกษตรกรที่ผลิตยางก้อนยังขายยางก้อนได้ราคาต่ำ ดังนั้น จึงควรศึกษาวิธีการผลิตยางก้อนที่เหมาะสมเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตยางแท่ง และหาเปอร์เซ็นต์เนื้อยางก้อนที่เป็นจริง หลังจากผึ่งยางก้อนไว้ในระยะเวลาต่างๆกัน เพื่อให้การประเมินราคายางก้อนใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด โดยทำการทดลองเบื้องต้น เพื่อหาอัตรากรดที่เหมาะสมที่ทำให้ยางจับตัวสมบูรณ์ พบว่าการใช้กรดอัตรา 0.4 % ของเนื้อยาง ทั้งในกรดฟอร์มิคและซัลฟูริค ทำให้ยางจับตัวได้อย่างสมบูรณ์ และควรใช้ในความเข้มข้น 2 % เพื่อให้เกษตรกรใช้ได้อย่างสะดวกและถูกต้องแม่นยำ ส่วนขนาดก้อนยางที่จับตัวได้อย่างสมบูรณ์ในถ้วยรองรับน้ำยางไม่ควรเกิน 300 มิลลิลิตร และผลผลิตยางต่อครั้งกรดเฉลี่ยอยู่ในช่วง 200-300 มิลลิลิตร ซึ่งเมื่อนำชนิดของกรด 2 ชนิดมาใช้ในการทดลองจับตัวของก้อนยาง คือ กรดฟอร์มิคและซัลฟูริค และขนาดก้อนยาง 4 ขนาด โดยให้จับตัวในถ้วยรองรับ น้ำยาง 3 ขนาด คือ 100, 200 และ 300 มิลลิลิตร และจับตัวในตะกงขนาดยางก้อน 3000 มิลลิลิตร เมื่อระยะเวลาในการผึ่งยางเพิ่มขึ้น เปอร์เซ็นต์ความชื้นในก้อนยางลดลงโดยในวันแรกของการผึ่งยางก้อน ทำให้เปอร์เซ็นต์ความชื้นของยางก้อนลดลงสูงสุด คือ เปอร์เซ็นต์ความชื้นของยางก้อนที่ทำให้จับตัวในถ้วยรองรับน้ำยางทั้ง 3 ขนาดลดลงร้อยละ 12-16 และหลังผึ่งยางก้อน 7 วันขึ้นไป ค่าเปอร์เซ็นต์ความชื้นลดลงน้อยมาก จนไม่แตกต่างทางสถิติหรือมีค่าเปอร์เซ็นต์เนื้อยางคงที่นั่นเอง ส่วนเปอร์เซ็นต์ความชื้นยางก้อนที่ทำให้จับตัวในตะกงลดลงร้อยละ 12 ในวันแรกของผึ่งยางก้อนและเปอร์เซ็นต์เนื้อยางคงที่หลังจากผึ่งยางนาน 9 วันขึ้นไป ซึ่งเป็นผลมาจากบริเวณผิวของยางก้อนแห้งและเคลือบยางก้อน ทำให้ความชื้นที่มีเหลืออยู่ในยางก้อนไม่สามารถระเหยออกไปได้อีก เมื่อนำยางก้อนที่ผึ่งไว้ตามระยะเวลาต่าง ๆ ไปทำการผลิตยางแผ่นชั้นดี สถาบันวิจัยยางแนะนำให้ใช้กรดฟอร์มิคเป็นสารช่วยให้ยางจับตัวแต่ในปี 2541 ประเทศไทยประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ราคาของกรดฟอร์มิคซึ่งเป็นสารเคมีที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศมีราคาสูงมากเกษตรกรผู้ผลิตยางแผ่นประสบปัยหาด้านต้นุทนในการผลิตสูงมากขึ้น จึงศึกษาถึงกรดชนิดอื่น ๆ ที่สามารถนำมาใช้แทนกรดฟอร์มิค โดยใช้กรดอะซีติคที่ใช้ในห้องปฏิบัติการที่เป็นผลพลอยได้ (by product) อัตรา 0.4, 0.6, 0.8 และ 1.0 % ของเนื้อยางแห้ง และสารเคมีช่วยในการจับตัว ชื่อการค้าโฟร์มิค อัตรา 8, 10, 12 และ 15 มิลลิลิตรต่อยาง 1 แผ่น พบว่า การใช้กรดอะซีติคเกรดห้องปฏิบัติการและกรดอะซีติคที่เป็นผลพลอยได้ (by product) เป็นสารช่วยในการจับตัวของยางแผ่น ทำให้ได้ยางแผ่นดิบและยางแผ่นรมควันที่มีคุณสมบัติไม่แตกต่างจากการใช้กรดฟอร์มิคโดยต้องใช้อัตรา 0.6 - 0.8 % แต่การใช้กรดอะซีติค (by product) มีต้นทุนการผลิต 12 สตางค์ต่อกิโลกรัมยางแห้ง ส่วนการใช้กรดฟอร์มิคมีต้นทุนการผลิต 20 สตางค์ต่อกิโลกรัมยางแห้ง (ราคาในปี 2541) อย่างไรก็ตามการใช้สารเคมีช่วยในการจับตัวทุกวิธีการ ทำให้ได้ยางแผ่นดิบและยางแผ่นรมควันที่มีสมบัติสูงกว่ามาตรฐานยางแงไทย แต่การใช้กรดฟอร์มิคและกรดอะซีติคทำให้ได้ยางแผ่นมีค่าความอ่อนตัวเริ่มแรกและความหนืดสูงกว่าการใช้สารเคมีโฟร์มิคโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยางแผ่นรมควัน การประเมินราคา พบว่า การประเมินราคาของบริษัท
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: ภาคตะวันออก
คำสำคัญ (EN): Production
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การผลิตยางก้อนในเขตภาคตะวันออกสำหรับการผลิตยางแท่ง STR 20
การยางแห่งประเทศไทย
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
ศักยภาพการผลิตยางของสวนยางก่อนเปิดกรีดในภาคตะวันออก ศักยภาพการผลิตยางของสวนยางก่อนโค่นในภาคตะวันออก ระบบการผลิตยางพาราภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการศึกษาวัดประสิทธิภาพการผลิตยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การพัฒนาการผลิตยางพาราเชิงระบบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทดสอบเทคโนโลยีการผลิตยางพาราที่เหมาะสมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทดสอบเทคโนโลยีการผลิตยางพาราที่เหมาะสม ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทดสอบเทคโนโลยีการผลิตยางพาราที่เหมาะสมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง การศึกษาเปรียบเทียบวอเตอร์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของกระบวนการผลิตยางพาราแผ่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ สำรวจโรคและศัตรูสำคัญทางเศรษฐกิจของยางพาราในแปลงกิ่งตายาง แปลงกล้ายาง และแปลงผลิตยางชำถุง ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก