สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยการควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่ส่งผลให้เกิดไส้สีน้ำตาลในสับปะรดผลสดพันธุ์ตราดสีทองโดยวิธีการทางเคมี
วรางคณา มากกำไร - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยการควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่ส่งผลให้เกิดไส้สีน้ำตาลในสับปะรดผลสดพันธุ์ตราดสีทองโดยวิธีการทางเคมี
ชื่อเรื่อง (EN): The Chemical Control of Enzyme Activities Regulating Internal Browning in Fresh-pineapple cv. ‘Trad-See-Thong’
บทคัดย่อ: ประเทศไทยนั้นเป็นผู้ส่งออกสับปะรดแปรรูปเป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วนการส่งออกในรูปผลสดนับว่ายังมีปริมาณน้อยมาก เนื่องจากการขนส่งไปยังตลาดต่างประเทศเป็นระยะทางไกลต้องเก็บรักษาผลสับปะรดไว้ที่อุณหภูมิต่ำ 8-10 องศาเซลเซียส ทาให้ผลสับปะรดเกิดอาการสะท้านหนาว การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อช่วยให้เก็บรักษาผลผลิตที่อุณหภูมิต่ำโดยไม่เกิดอาการสะท้านหนาว ดังนั้นจึงดำเนินการทดลองโดยใช้สารเคมีชนิดต่างๆ ต่อการควบคุมการเกิดอาการไส้สีน้ำตาลในสับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง วางแผนการทดลองแบบ RCB มี 9 กรรมวิธี 3 ซ้ำ ซ้ำละ1 กล่อง (6 ผล/กล่อง) เก็บผลสับปะรดตราดสีทองจากแปลงเกษตรกร จ.ตราด ระยะแก่เขียว (หลังบังคับดอก 139 วัน) ในเดือนเมษายน และมิถุนายน ปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวโดย กรรมวิธีที่ 1 ชุดควบคุมที่ 1 (ไม่ใช้สารเคมี) กรรมวิธีที่ 2 รมด้วย1-MCP ความเข้มข้น 0.2 ppm 18 ชั่วโมงกรรมวิธีที่ 3 จุ่มก้านลงในสาร CaCl2 ความเข้มข้น 0.2 โมลาร์ กรรมวิธีที่ 4 จุ่มก้านลงในสาร SrCl2 ความเข้มข้น 0.2 โมลาร์ กรรมวิธีที่ 5 จุ่มก้านลงในกรดอีริทอร์บิก ความเข้มข้น 0.1 โมลต่อลิตร กรรมวิธีที่ 6 จุ่มก้านลงในกรดแอสคอร์บิก ความเข้มข้น 0.1 โมลต่อลิตร กรรมวิธีที่ 7 จุ่มก้านลงในโซเดียมอีริทอร์เบต ความเข้มข้น 1.5 โมลต่อลิตร กรรมวิธีที่ 8 จุ่มก้านลงในโซเดียมแอสคอร์เบต ความเข้มข้น 0.1 โมลต่อลิตร และกรรมวิธีที่ 9 จุ่มก้านลงในเมทิลจัสโมเนท ความเข้มข้น 0.01 โมลต่อลิตร และเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13?2 องศาเซลเซียส 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นนาผลมาตรวจประเมินอาการไส้สีน้าตาลและคุณภาพด้านต่างๆ พบว่า การใช้สารเคมีชนิดต่างๆเพื่อลดการเกิดอาการไส้สีน้ำตาลของสับปะรดผลสดพันธุ์ตราดสีทองภายหลังการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ ในช่วงเดือนเมษายน พบว่า การใช้สารละลาย CaCl2 และSrCl2 มีระดับของการเกิดอาการไส้สีน้ำตาลน้อยกว่าสับปะรดที่ไม่ให้สารละลายในชุดควบคุม (ไม่ใช้สารเคมี) แต่ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ และมีเปอร์เซ็นต์จานวนผลที่ยอมรับได้ (คะแนน 1 และ2) เพียง 60 และ 50% ตามลาดับ ซึ่งมีค่าน้อยกว่าเกณฑ์ คือ > 70 % นอกจากนี้ พบว่า การใช้สารละลาย SrCl2 มีกิจกรรมของเอนไซม์ PPO (Polyphenol oxidase activity) ต่ำสุด ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายน พบว่า การใช้สารละลายกรดอีริทอร์บิก มีระดับของการเกิดอาการไส้สีน้ำตาลน้อยกว่าสับปะรดที่ไม่ให้สารละลายในชุดควบคุม (ไม่ใช้สารเคมี) แต่ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ และเปอร์เซ็นต์จานวนผลอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ (คะแนน 1 และ2) อยู่ในระดับต่ำเพียง 22% (<70%) การไม่ให้สารละลายในชุดควบคุม (ไม่ใช้สารเคมี) มีกิจกรรมของเอนไซม์ PPO ต่ำสุด รองลงมา คือ สารละลาย SrCl2 ซึ่งไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ และกรรมวิธีต่างๆ ที่ใช้ในการทดลองไม่มีผลกระทบต่อ ความแน่นเนื้อ ปริมาณน้ำตาล กรด และวิตามินซี รวมถึงกลิ่นและรสชาติ อย่างไรก็ตาม การใช้สารละลาย CaCl2, SrCl2 และกรดอีริทอร์บิก ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ถึงแม้ว่าจะให้ผลของการเกิดอาการไส้สีน้ำตาลน้อยกว่าสารละลายตัวอื่น แต่ไม่สามารถควบคุมการเกิดอาการไส้สีน้ำตาลได้ในสับปะรดผลสดพันธุ์ตราดสีทองที่อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ หากได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการ เช่น ระยะเวลาในการจุ่มสาร ปริมาณความเข้มข้นที่เหมาะสม รวมถึงควบคุมปัจจัยสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการเกิดอาการไส้สีน้ำตาลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมอาการไส้สีน้ำตาลให้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นการใช้สารเคมีดังกล่าว จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่อาจนำไปใช้เป็นกรรมวิธีในการปฏิบัติเพื่อควบคุมอาการไส้สีน้าตาลในระดับหนึ่งได้
บทคัดย่อ (EN): Thailand is ranked the first exporter of processed pineapple in the world. However, for fresh pineapple it is quite low. The main problem is during the long time transportation to foreign markets the fresh pineapples are kept in the temperature below 8-10 C which leads to chilling injury. Therefore, this experiment was investigated the effectiveness of different chemical treatments on controling the internal browning in pineapple cv. ‘Trad-See-Thong.’ The experiment was performed twice (April and June). The mature green fruits (139 day after forcing flowering) were picked from pineapple field in Trad province. Then, eight treatments of chemical and control (no chemical) were applied on the fruits with RCB design with 3 replicates and 1 box per replicate (6 fruits/box). The nine treatments were 1) Control 2) 0.2ppm 1-MCP 3) 0.2M CaCl2 4) 0.2M SrCl2 5) 0.1M Erythorbate 6) 0.1M Ascorbate 7) 1.5 M Sodium Erythorbate 8) 0.1M Sodium Ascorbate, and 9) 0.01M Methyl Jasmonate. After that, the fruits were stored at 13?2 C for 3 weeks and internal browning and fruit qualities were evaluated. In April, the result showed that the CaCl2 and SrCl2 treated fruits had internal brown score lower than the no chemical treated fruit but they were not significantly different. For the percentage of number of acceptable fruit (no internal browning and has <25% of internal browning on the cutting surface), they were 60% and 50%, respectively, which less than the acceptable level (70%). The SrCl2 treatment showed the lowest in PPO enzyme activity. In June, the erythorbate treated fruits showed the internal browning score less than control (no chemical treated), and the percentage of number of acceptable fruit (score 1 and 2) was 22% which less than the acceptable level. The PPO activity tended to be the lowest in control and SrCl2 but they were not significantly different among treatments. The different in the chemical treatments in fresh-pineapple had no effect on fruit firmness, sugar content, acid and ascorbic acid contents, smell and taste. The CaCl2, SrCl2 and erythorbate treated fresh-pineapples in April and June tended to have the internal browning incidence less than other chemicals treated pineapples but they could not control the internal browning with the acceptable level. However, the modification of the dipping time, optimal concentration and the environmental controlling might be more effective to control internal browning in Fresh-pineapple in the future.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: เมทิลจัสโมเนท
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยการควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่ส่งผลให้เกิดไส้สีน้ำตาลในสับปะรดผลสดพันธุ์ตราดสีทองโดยวิธีการทางเคมี
กรมวิชาการเกษตร
30 กันยายน 2558
การเกิดอาการไส้สีน้ำตาลของผลสับปะรดพันธุ์ห้วยมุ่นภายหลังการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ การพัฒนาแนวทางในการควบคุมโรคลำต้นเน่าของปาล์มน้ำมันที่เกิดจากเชื้อสาเหตุ Ganoderma spp. การควบคุมการเกิดสีน้ำตาลในข้าวโพดฝักอ่อนอินทรีย์ (ระยะที่ 2) โครงการวิจัยการควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่ส่งผลให้เกิดไส้สีน้ำตาลในสับปะรดผลสดพันธุ์ตราดสีทองโดยวิธีทางกายภาพ การลดการสูญเสียโดยไม่ทราบสาเหตุในกระบวนการผลิตน้ำตาล การใช้แคลเซียมต่อการลดการเกิดไส้สีน้ำตาลในสับปะรด การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากจมูกถั่วเหลืองโดยใช้เทคโนโลยีเอนไซม์ การปรับปรุงกากชาด้วยเอนไซม์เพื่อใช้เป็นพรีไบโอติก การปรับปรุงเยื่อหุ้มเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ด้วยเอนไซม์เพื่อใช้เป็นพรีไบโอติกส์ในอาหารสัตว์ ผลของสาหร่ายสไปรูลิน่าและสารสีแอสตาแซนทินสังเคราะห์ต่อสีและการเจริญเติบโตของปลาหมอสีครอสบรีด (Cichlasoma sp.)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก